Writing TipsA. Writing Tips on Abst

Writing Tips

A. Writing Tips on Abstract and Keywords
Some writing tips on the Abstract and Keywords writing are given as follows, when you write your papers, you may check it following them.

Abstract
An abstract should summarize the authors' main contributions of the paper not the subjective assessment of the writer(s). It should contain only what you are specifically reporting in the manuscript. And please note that the material in the abstract should not be repeated later word for word in the paper. When you write Abstract, you may refer to the list as follows:
a) What the problem to be resolved? Or what is the author's focus in this paper?
b) How do you solve the problem? Or what is the method or process to solve the problem?
c) What results do you achieved and what conclusions are drawn from the study of the problem?
d) What is new and original in this paper? How do you evaluate your results compared with existing achievements in quantitive words?
e) Note that to eliminate or minimize background information in abstract.
f) Limit the abstract within 150 words.
e) The descriptions referring to the research background are not suggested in the abstract.
And please check that the style of writing is in the third person throughout, especially in the abstract.

Keywords
Keywords are a list of the major topics embodied in your article. Be as specific as possible in describing the concepts or ideas in the article. According to the statistic of IEEE, most IEEE articles are well indexed if they use 5 to 8 indexing keywords. So, please check that the keywords are appropriate for information retrieval purposes, at least 4 keywords.

B. General Guidelines for Academic Writing
In general, it is inappropriate simply to write as you would speak in academic writing. In conversation, the listener can ask for clarification or elaboration easily, and thus the speaker can use imprecise language, ramble from topic to topic freely, and so on. Instead, academic writing must stand on its own, conveying the author's ideas clearly through words alone. As a result, academic writing requires substantial effort to construct formal language relevant to a well-defined topic. The best academic writing will be difficult to write but very easy to read.
Rules for academic writing are quite strict, though often unstated. Academic writing is used in scientific papers or reports whenever you want to convey your ideas to readers, with many possible backgrounds and assumptions. Unlike casual conversation or emails to friends, academic writing needs to be clear, unambiguous, literal, and well structured.

The checklist below will help you revise and polish drafts of academic papers. After checking your draft against these points, ask a colleague to help you in areas that need work or that you do not understand.

1. Is your contributions original or reasonably interesting?
2. Is your contributions (main ideas) clearly stated in the abstract?
3. Have you included enough evidence or proof carefully and explained how it proves your point?
4. Is your paper logical? Is there any contradiction in your paper?
5. If appropriate have you given enough references?
6. Is your sentence style straightforward and concise? (No wordiness)
7. Is your grammar basically correct? Have you proofread the final copy?

C. How to Write an Abstract of High Quality
Abstract is a part of the most importance in academic writing. An abstrct of a paper usually has a fairly standard form; it informs readers about the authors' main contributions with the information as follows:
1) What is the problem to be resolved? Or what is the author's focus in the paper?
2) How do the authors solve the problem? Or what method is used or processed to solve the problem?
3) What results are achieved and what conclusions have been drawn from the study of the problem?
4) What is new and original in the paper?
In writing an abstrct, the authors are suggested to pay attention to the following points:
a) Eliminate or minimize background information in abstract.
b) Limit the abstract to new information, i.e. the authors' main ideas and contributions.
c) Use short sentences as possible.
d) Be clear and brief. Abstracts should not be too short or too long, best within 100 words to 150 words.

D. Use the Right Vocabulary
It is important that you use the right vocabulary in your writing. The mistakes that occur regularly in nonnative speakers are usually due to confusion between two words such as:

△ Alternatively and Alternately: The former is preferred to the later (unless you really mean something that alternates).
△ Whereas and While: Use the word "whereas" instead of "while" (unless you are referring to simultaneous events).
△ Question and Problem: Do not use the word "question" as a euphemism for "problem." A question is what you ask and hope to get an answer from others. A problem is a difficulty that needs attention and thought and you want to seek a solution.
△ Less and Fewer: Less means a smaller amount: there is less water than before. Fewer means a smaller number: there are fewer people than before.
△ Imply and Infer: Use "imply" when something is being suggested without being explicitly stated and "infer" when someone is trying to arrive at a conclusion based on evidence. "Imply" is more assertive, active.
△ i.e. and e.g.: The abbreviation "i.e.," means "that is," and the abbreviation "e.g.," means "for example" (these abbreviations are not italicized).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เขียนเคล็ดลับ

เคล็ดลับการเขียน A. ในบทคัดย่อและคำสำคัญ
เคล็ดเขียนบทคัดย่อและคำที่เขียนได้ดังนี้ เมื่อคุณบันทึกเอกสารของคุณ คุณอาจตรวจสอบได้ดังต่อไปนี้ได้

นามธรรม
บทคัดย่อควรสรุปผลงานหลักของผู้เขียนที่กระดาษไม่ประเมินตามอัตวิสัยของการ writer(s) มันควรประกอบด้วยเท่า ที่คุณมีโดยเฉพาะรายงานในต้นฉบับ และโปรดทราบว่า วัสดุในบทคัดย่อควรไม่ทำซ้ำในภายหลัง word ตัวคำในกระดาษ เมื่อคุณเขียนบทคัดย่อ คุณสามารถอ้างอิงไปยังรายการดังนี้:
แบบ) ว่าปัญหาได้รับการแก้ไข หรือความสำคัญของผู้เขียนในกระดาษนี้คืออะไร?
b) คุณเลือกแก้ปัญหา หรือวิธีการหรือกระบวนการแก้ปัญหาคืออะไร?
c) ผลลัพธ์อะไรทำคุณประสบความสำเร็จและสรุปว่าจะออกจากการศึกษาปัญหา?
d) ใหม่ และดั้งเดิมในเอกสารนี้คืออะไร วิธีคุณประเมินผลลัพธ์การเปรียบเทียบกับความสำเร็จที่มีอยู่ในคำ quantitive ?
e) หมายเหตุว่า การกำจัด หรือลดข้อมูลในพื้นหลังในบทคัดย่อ
f) จำกัดบทคัดย่อภายใน 150 คำ
อี) คำอธิบายที่อ้างอิงถึงเบื้องหลังงานวิจัยจะไม่แนะนำในบทคัดย่อ
และโปรดตรวจสอบว่ารูปแบบของการเขียนเป็นบุคคลที่สามตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทคัดย่อ

คำ
คำสำคัญคือ รายการของหัวข้อหลักที่รวบรวมไว้ในบทความของคุณ สามารถระบุได้ในการอธิบายแนวคิดหรือความคิดในบทความ ตามสถิติของ IEEE บทความส่วนใหญ่ IEEE จะดีดัชนีใช้ 5 8 ดัชนีคำสำคัญ ดังนั้น กรุณาตรวจสอบที่เหมาะสำหรับการเรียกข้อมูล คำสำคัญน้อย 4. คำสำคัญ

B. ทั่วไปแนวทางการเขียนเชิงวิชาการ
ทั่วไป จึงไม่เหมาะสมก็จะเขียน ตามที่คุณจะพูดในการเขียนเชิงวิชาการ ในการสนทนา การฟังสามารถขอชี้แจงหรือทุก ๆ อย่างง่ายดาย และดังนั้น ลำโพงที่สามารถใช้ภาษา imprecise, ramble จากหัวหัวข้อได้อย่างอิสระ และ แทน การเขียนเชิงวิชาการต้องยืนบนตัวเอง ถ่ายทอดความคิดของผู้เขียนอย่างชัดเจนผ่านคำเดียว ดังนั้น การเขียนเชิงวิชาการต้องพบพยายามสร้างทางภาษาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่กำหนดไว้อย่างดี การเขียนเชิงวิชาการที่ดีที่สุดจะเขียนยาก แต่ง่ายต่ออ่าน
กฎในการเขียนเชิงวิชาการจะค่อนข้างเข้มงวด ว่ามัก unstated การเขียนเชิงวิชาการใช้ในเอกสารทางวิทยาศาสตร์ หรือรายงานเมื่อใดก็ ตามที่คุณต้องการถ่ายทอดความคิดของผู้อ่าน ในพื้นหลังได้และสมมติฐาน ซึ่งแตกต่างจากการสนทนาสบาย ๆ หรืออีเมล์เพื่อน การเขียนเชิงวิชาการต้องชัดเจน ชัดเจน อักษร และโครงสร้างดี

รายการตรวจสอบด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณแก้ไข และโปแลนด์แบบร่างของเอกสารทางวิชาการ หลังจากตรวจสอบร่างของคุณกับจุดเหล่านี้ ขอให้เพื่อนร่วมงานเพื่อช่วยคุณในพื้นที่ที่ต้องการทำงาน หรือคุณไม่เข้าใจการ

1 เป็นผลงานของคุณต้นฉบับ หรือสมเหตุสมผลน่าสนใจ?
2 มีการจัดสรร (หลักคิด) กล่าวไว้ในบทคัดย่อ?
3 คุณรวมเพียงพอหลักฐานหรือหลักฐานอย่างละเอียด และอธิบายว่า มันพิสูจน์จุดของคุณ?
4 เป็นกระดาษของตรรกะหรือไม่ มีความขัดแย้งใด ๆ ในเอกสารของคุณหรือไม่?
5 ถ้าเหมาะสม คุณให้อ้างอิงเพียงพอ?
6 คือลักษณะของประโยคตรงไปตรงมา และกระชับ (ไม่ wordiness)
7 ถูกต้องของไวยากรณ์ทั่วไป มีคุณอ่านตรวจทานสำเนาชุด?

C วิธีการเขียนเป็นนามธรรมของคุณภาพ
บทคัดย่อเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการเขียนเชิงวิชาการ Abstrct เป็นกระดาษมักจะมีฟอร์มมาตรฐานค่อนข้าง มันจะแจ้งให้อ่านเกี่ยวกับผลงานหลักของผู้เขียนมีข้อมูลเป็นดังนี้:
1) ปัญหาต้องแก้ไขคืออะไร หรือความสำคัญของผู้เขียนในกระดาษคืออะไร?
2) วิธีทำผู้เขียนแก้ปัญหา หรือวิธีใช้ หรือดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา?
3) ผลลัพธ์ใดจะประสบความสำเร็จและสรุปว่าได้ออกจากการศึกษาของปัญหา?
4) สิ่งใหม่ และเป็นต้นฉบับในกระดาษ?
เขียน abstrct การ แนะนำผู้เขียนให้ความสนใจไปยังจุดต่อไปนี้:
) กำจัด หรือลดข้อมูลในพื้นหลังในบทคัดย่อ
b) จำกัดบทคัดย่อข้อมูลใหม่เช่น ของผู้เขียนความคิดหลักและสมทบ
c) ใช้ประโยคสั้น ๆ เป็นไป
d) สั้น ๆ และชัดเจน บทคัดย่อจากไม่ควรสั้น หรือยาวเกินไป ดีที่สุดภายใน 100 คำ 150 คำ

D. ใช้ศัพท์ขวา
เป็นสิ่งสำคัญที่คุณใช้คำศัพท์ที่ถูกต้องในการเขียน ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นประจำในลำโพงด่วนมักเนื่องจากความสับสนระหว่างคำสองคำเช่น:

△หรือ และสลับ: อดีตเป็นที่ต้องการในภายหลัง (ยกเว้นว่าคุณจริง ๆ หมายถึง สิ่งที่เปลี่ยนแปลง) .
△ขณะขณะ: ใช้คำว่า "ขณะ" แทน "ขณะ" (เว้นแต่คุณกำลังอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน) .
△คำถามและปัญหา: อย่าใช้คำว่า "คำถาม" เป็นลีลาที่ "ปัญหา" คำถามคือ สิ่งที่คุณถาม และหวังว่าจะได้รับคำตอบจากคนอื่น ปัญหาเป็นปัญหาที่ต้องการความสนใจ และคิดว่าและคุณต้องการค้นหาโซลูชัน
△น้อยและน้อย: น้อยหมายถึง เล็กน้อย: มีน้ำน้อยกว่าก่อนการ น้อยหมายถึง ตัวเลขขนาดเล็ก: มีคนน้อยกว่าก่อน
△ Imply และ Infer: ใช้ "เป็นสิทธิ์แบบ" เมื่อสิ่งที่ถูกแนะนำ โดยไม่มีการระบุไว้อย่างชัดเจน และ "เข้าใจ" เมื่อคนพยายามสรุปตามหลักฐาน "เป็นสิทธิ์แบบ" จะทำขึ้น ใช้งาน
△เช่น และเช่น: ตัวย่อ "เช่น ความหมาย "คือ" และ"เช่น มอง "ตัวอย่าง" (คำย่อเหล่านี้จะไม่เอียง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เคล็ดลับการเขียนA. เคล็ดลับในการเขียนบทคัดย่อและคำบางเคล็ดลับการเขียนที่เป็นนามธรรมและการเขียนคำที่จะได้รับดังต่อไปนี้เมื่อคุณเขียนเอกสารของคุณคุณอาจตรวจสอบดังต่อไปนี้พวกเขานามธรรมนามธรรมควรสรุปผลที่สำคัญผู้เขียน 'กระดาษไม่ได้ประเมินอัตนัย ของผู้เขียน (s) มันควรจะมีเพียงสิ่งที่คุณกำลังโดยเฉพาะการรายงานในต้นฉบับ และโปรดทราบว่าวัสดุในนามธรรมที่ไม่ควรทำซ้ำคำต่อคำในกระดาษ เมื่อคุณเขียนบทคัดย่อคุณอาจจะหมายถึงรายชื่อดังต่อไปนี้) ปัญหาอะไรที่จะแก้ไข? หรือเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญของผู้เขียนในกระดาษนี้ข) คุณไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร หรือคือสิ่งที่วิธีการหรือกระบวนการที่จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ค) สิ่งที่คุณจะประสบความสำเร็จผลและสิ่งที่จะวาดข้อสรุปจากการศึกษาปัญหาได้หรือไม่ง) อะไรคือสิ่งที่ใหม่และเป็นต้นฉบับในกระดาษนี้ คุณมีวิธีการประเมินผลลัพธ์ของคุณเมื่อเทียบกับความสำเร็จที่มีอยู่ในคำว่าปริมาณ? จ) โปรดทราบว่าการกำจัดหรือลดข้อมูลพื้นฐานในนามธรรมฉ) จำกัด นามธรรมภายใน 150 คำจ) รายละเอียดหมายถึงพื้นหลังการวิจัยที่ไม่ได้แนะนำใน นามธรรมและโปรดตรวจสอบว่ารูปแบบของการเขียนอยู่ในบุคคลที่สามตลอดโดยเฉพาะในนามธรรมคำสำคัญคำหลักเป็นรายการของหัวข้อที่สำคัญเป็นตัวเป็นตนในบทความของคุณ จะเป็นเฉพาะที่เป็นไปได้ในการอธิบายแนวความคิดหรือความคิดในบทความ ตามสถิติของ IEEE บทความ IEEE ส่วนใหญ่มีการจัดทำดัชนีดีถ้าพวกเขาใช้ 5-8 คำหลักที่การจัดทำดัชนี ดังนั้นโปรดตรวจสอบว่าคำหลักที่มีความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์ในการดึงข้อมูลอย่างน้อย 4 คำหลักบี แนวทางทั่วไปสำหรับการเขียนเชิงวิชาการโดยทั่วไปแล้วมันไม่เหมาะสมก็จะเขียนตามที่คุณจะพูดในการเขียนเชิงวิชาการ ในการสนทนาฟังสามารถขอชี้แจงหรือรายละเอียดได้อย่างง่ายดายและทำให้ลำโพงสามารถใช้ภาษาที่ไม่เที่ยงตรงเลื้อยจากหัวข้อกระทู้ได้อย่างอิสระและอื่น ๆ แทนการเขียนเชิงวิชาการจะต้องยืนบนของตัวเองถ่ายทอดความคิดของผู้เขียนได้อย่างชัดเจนผ่านคำพูดเพียงอย่างเดียว เป็นผลให้การเขียนเชิงวิชาการต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะสร้างภาษาอย่างเป็นทางการที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่กำหนด การเขียนเชิงวิชาการที่ดีที่สุดจะเป็นเรื่องยากที่จะเขียน แต่ง่ายมากที่จะอ่านกฎสำหรับการเขียนเชิงวิชาการมีความเข้มงวดมาก แต่มักจะอันเป็น การเขียนเชิงวิชาการที่ใช้ในเอกสารทางวิทยาศาสตร์หรือรายงานเมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการในการถ่ายทอดความคิดของคุณให้กับผู้อ่านที่มีภูมิหลังที่เป็นไปได้จำนวนมากและการตั้งสมมติฐาน ซึ่งแตกต่างจากการสนทนาแบบสบาย ๆ หรืออีเมลไปยังเพื่อนเขียนเชิงวิชาการต้องมีความชัดเจนและโปร่งใสตามตัวอักษรและโครงสร้างที่ดีการตรวจสอบด้านล่างจะช่วยให้คุณแก้ไขและร่างเงาของเอกสารทางวิชาการ หลังจากการตรวจสอบร่างของคุณกับจุดเหล่านี้ขอให้เพื่อนร่วมงานที่จะช่วยให้คุณในพื้นที่ที่ต้องการทำงานหรือว่าคุณไม่เข้าใจ1 เป็นผลงานต้นฉบับของคุณหรือน่าสนใจพอสมควร? 2 เป็นผลงานของคุณ (ความคิดหลัก) ระบุไว้อย่างชัดเจนในนามธรรม? 3 มีคุณรวมหลักฐานเพียงพอหรือหลักฐานอย่างรอบคอบและอธิบายวิธีการที่จะพิสูจน์จุดของคุณ? 4 เป็นกระดาษของคุณตรรกะ? จะมีความขัดแย้งใด ๆ ในกระดาษของคุณ? 5 ถ้าเหมาะสมที่คุณได้รับการอ้างอิงเพียงพอหรือไม่6 เป็นรูปแบบประโยคของคุณตรงไปตรงมาและกระชับ? (ไม่มี wordiness) 7 เป็นไวยากรณ์ที่ถูกต้องโดยทั่วไป? คุณพิสูจน์อักษรสำเนาสุดท้าย? ซี วิธีการเขียนบทคัดย่อที่มีคุณภาพสูงบทคัดย่อเป็นส่วนหนึ่งของความสำคัญมากที่สุดในการเขียนเชิงวิชาการ abstrct กระดาษมักจะมีรูปแบบมาตรฐานเป็นธรรม; มันบอกผู้อ่านเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมหลักของผู้เขียนที่มีข้อมูลดังต่อไปนี้1) สิ่งที่เป็นปัญหาที่จะแก้ไข? หรือเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญของผู้เขียนในกระดาษหรือไม่2) ผู้เขียนไม่แก้ปัญหานี้ได้อย่างไร หรือสิ่งที่จะใช้วิธีการหรือการดำเนินการที่จะแก้ปัญหาได้หรือไม่3) สิ่งที่ผลจะประสบความสำเร็จและสิ่งที่สรุปได้รับมาจากการศึกษาของปัญหาหรือไม่4) อะไรคือสิ่งที่ใหม่และเป็นต้นฉบับในกระดาษ? ในการเขียน abstrct ผู้เขียนมี แนะนำให้ใส่ใจกับจุดต่อไปนี้) กำจัดหรือลดข้อมูลพื้นฐานในนามธรรมข) จำกัด นามธรรมข้อมูลใหม่คือความคิดหลักของผู้เขียน 'และเงินสมทบค) ใช้ประโยคสั้น ๆ ที่เป็นไปได้ง) จะมีความชัดเจนและ สั้น ๆ บทคัดย่อไม่ควรจะสั้นเกินไปหรือยาวเกินไปที่ดีที่สุดภายใน 100 คำ 150 คำดี ใช้คำศัพท์ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่คุณใช้คำศัพท์ที่ถูกต้องในการเขียนของคุณ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นประจำในลำโพง nonnative มักจะเกิดจากความสับสนระหว่างสองคำพูดเช่นการ△และหรืออีกวิธีหนึ่ง: อดีตเป็นที่ต้องการในภายหลัง (ยกเว้นกรณีที่คุณจริงๆหมายถึงอะไรบางอย่างที่สลับกัน) ในขณะที่△และในขณะที่ใช้คำว่า " ในขณะที่ "แทน" ขณะที่ "(เว้นแต่คุณจะหมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน) △คำถามและปัญหา: อย่าใช้คำว่า. "คำถาม" เป็นคำรื่นหูสำหรับ "ปัญหา" คำถามคือสิ่งที่คุณถามและหวังว่าจะได้คำตอบจากคนอื่น ๆ ปัญหาเป็นปัญหาที่ต้องการความสนใจและความคิดและคุณต้องการที่จะหาวิธีการแก้ปัญหา△น้อยลงและลดน้อยหมายถึงจำนวนเงินที่มีขนาดเล็ก: มีน้ำน้อยกว่าก่อน น้อยลงหมายถึงจำนวนที่น้อยกว่า: มีคนน้อยลงกว่าก่อน△หมายความและอนุมาน: ใช้ "เปรย" เมื่อสิ่งที่จะถูกเสนอโดยไม่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนและ "สรุป" เมื่อมีคนพยายามที่จะมาถึงข้อสรุปบนพื้นฐานของหลักฐาน "หมายความ" เป็นก้าวร้าวมากขึ้นที่ใช้งาน△เช่นและเช่นย่อ "คือ" หมายถึง "ที่เป็น" และอักษรย่อ "เช่น" หมายถึง "ตัวอย่างเช่น" (ตัวย่อเหล่านี้จะไม่เอียง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

. . เคล็ดลับการเขียนการเขียนเคล็ดลับบทคัดย่อและคำสำคัญ
บางเคล็ดลับการเขียนบทคัดย่อและคำสำคัญในการเขียนมีดังนี้ เมื่อคุณเขียนบทความของคุณคุณจะตรวจสอบพวกเขาต่อไปนี้


เป็นนามธรรมบทคัดย่อควรสรุปผู้เขียนหลักของการเขียนของกระดาษไม่ใช่หัวข้อเรื่องการประเมินของนักเขียน s )มันควรจะมีเพียงสิ่งที่คุณจะถูกรายงานในต้นฉบับ และโปรดทราบว่าเนื้อหาในบทคัดย่อไม่ควรซ้ำกันคำต่อคำในกระดาษ เมื่อคุณเขียนนามธรรม , คุณอาจจะอ้างถึงรายการดังนี้ :
) ว่าปัญหาได้รับการแก้ไข ? หรืออะไรคือจุดเน้นของผู้เขียนในบทความนี้
b ) คุณแก้ปัญหาหรืออะไรที่เป็นวิธีการหรือกระบวนการที่จะแก้ปัญหา
c ) ว่าผลที่คุณบรรลุอะไร และผลจากการศึกษาปัญหา
d ) คืออะไรและฉบับใหม่ ในบทความนี้ ? แล้วคุณประเมินผลลัพธ์ของคุณเมื่อเทียบกับที่มีอยู่ความสำเร็จใน quantitive คำ ?
E ) ทราบ เพื่อขจัดหรือลดข้อมูลพื้นหลังบทคัดย่อ .
F ) จำกัดนามธรรมภายใน 150 คำ
E ) อธิบายหมายถึงพื้นหลังการวิจัย จะไม่แนะนำในนามธรรม
กรุณาตรวจสอบว่ารูปแบบการเขียนที่เป็นบุคคลที่สามตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนามธรรม


คำหลักเป็นคำหลักรายการของหัวข้อหลักไว้ในบทความของคุณ . ระบุเป็นไปได้ในการอธิบายแนวคิดในบทความ ตามสถิติของ IEEE ,บทความโดยส่วนใหญ่จะจัดทำดัชนีถ้าพวกเขาใช้ 5 ถึง 8 คำหลักดัชนี . ดังนั้น กรุณาตรวจสอบว่าคำหลักที่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์ของการค้นคืนสารสนเทศ อย่างน้อย 4 คำสำคัญ

b ข้อแนะนำทั่วไปสำหรับการเขียนเชิงวิชาการ
ทั่วไป มันไม่เหมาะสมก็เขียนตามที่คุณต้องการพูด การเขียนเชิงวิชาการ ในการสนทนา ผู้ฟังสามารถขอชี้แจงหรือรายละเอียดได้ง่ายดังนั้น ผู้พูดสามารถใช้ภาษาคลุมเครือ , ร่อนเร่จากหัวข้อหัวข้อได้อย่างอิสระ และ แทนการเขียนทางวิชาการ ต้องยืนบนของตัวเอง การถ่ายทอดของผู้เขียน ความคิดอย่างชัดเจนผ่านทางคำพูดอย่างเดียว ผลการเขียนเชิงวิชาการ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะสร้างภาษาสุภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่กำหนด . การเขียนบทความทางวิชาการที่ดีที่สุดจะได้รับการยากที่จะเขียน แต่ง่ายมากที่จะอ่าน
กฎสำหรับการเขียนเชิงวิชาการที่เข้มงวดมาก แต่มักจะ unstated . การเขียนเชิงวิชาการที่ใช้ในเอกสารทางวิทยาศาสตร์หรือรายงาน เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการถ่ายทอดความคิดของคุณผู้อ่าน ที่มีภูมิหลังที่เป็นไปได้จำนวนมากและข้อสมมติ ซึ่งแตกต่างจากการสนทนาแบบสบาย ๆ หรือส่งอีเมลไปให้เพื่อนเขียนทางวิชาการต้องชัดเจน ชัดเจนที่แท้จริง และก็มี

รายการตรวจสอบด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณแก้ไขและร่างเอกสารวิชาการในโปแลนด์ หลังจากการตรวจสอบร่างของคุณกับจุดเหล่านี้ ถามเพื่อนร่วมงานเพื่อช่วยคุณในพื้นที่ที่ต้องทำงาน หรือ ที่คุณไม่เข้าใจ

1 คือผลงานต้นฉบับหรือน่าสนใจพอสมควร ?
2 . คือผลงานของคุณ ( ความคิดหลักที่ระบุไว้อย่างชัดเจนในหัว ?
3คุณมีหลักฐานหรือหลักฐานอย่างรอบคอบ และอธิบายวิธีการพิสูจน์จุดของคุณ
4 เป็นข้อสอบตรรกะ ? มีความขัดแย้งในกระดาษของคุณ
5 ถ้าคุณได้รับการอ้างอิงที่เหมาะสมพอ
6 เป็นประโยคแบบตรงไปตรงมา และกระชับ ? ( ไม่มีการใช้คำฟุ่มเฟือย )
7 ไวยากรณ์ของคุณถูกต้องโดยทั่วไป ? คุณตรวจทานการคัดลอกสุดท้าย

Cวิธีการเขียนบทคัดย่อของ
คุณภาพสูงที่เป็นนามธรรมเป็นส่วนหนึ่งของที่สำคัญที่สุดในการเขียนบทความทางวิชาการ การ abstrct ของกระดาษมักจะมีรูปแบบค่อนข้างมาตรฐาน แจ้งให้ผู้อ่านเกี่ยวกับผู้เขียนหลักของผลงานกับข้อมูลดังต่อไปนี้ :
1 ) อะไรคือปัญหาที่จะต้องแก้ไข ? หรืออะไรคือจุดเน้นของผู้เขียนในกระดาษ ?
2 ) อย่างไรผู้เขียนแก้ปัญหาหรือใช้วิธีใดหรือประมวลผลเพื่อแก้ปัญหา
3 ) ผลลัพธ์ของสิ่งที่ทำได้และสิ่งที่สรุปได้จากการศึกษาปัญหา
4 ) อะไรคือต้นฉบับใหม่ในกระดาษ ?
abstrct ในการเขียน ผู้เขียนจะแนะนำให้ความสนใจไปยังจุดต่อไปนี้ :
) ขจัด หรือลดข้อมูลพื้นหลังบทคัดย่อ .
b ) กำหนดนามธรรมข้อมูลใหม่ ได้แก่ผู้เขียน ' ความคิดหลักและสมทบ .
c ) ใช้ประโยคสั้น ๆเป็นไปได้
d ) จะมีความชัดเจนและสั้น บทคัดย่อไม่ควรยาวเกินไป หรือสั้นเกินไป ที่ดีที่สุดภายใน 100 คำ 150 คำ

d . ใช้สิทธิคำศัพท์
มันเป็นสิ่งสำคัญที่คุณใช้ขวาคำศัพท์ในการเขียน ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นประจำใน nonnative ลำโพงมักจะเกิดจากความสับสนระหว่างสองคำ :

เช่น△หรือสลับ : อดีตและต้องการในภายหลัง ( ถ้าคุณจริงๆหมายถึงบางสิ่งบางอย่างที่สลับ )
△ในขณะที่และในขณะที่ใช้คำว่า " และ " แทน " ขณะที่ " ( เว้นแต่คุณจะหมายถึงเหตุการณ์พร้อมกัน )
△คำถามและปัญหา : อย่าใช้คำว่า " คำถาม " เป็น เป็นคำสุภาพของ " ปัญหา " คำถามคือสิ่งที่คุณถามและหวังว่าจะได้รับคำตอบจากคนอื่นปัญหา คือ ปัญหาที่ต้องการความสนใจและความคิดและคุณต้องการที่จะแสวงหาโซลูชั่น .
△น้อยลงและน้อยลงน้อยลงหมายถึงเล็กน้อย : มีน้ําน้อยกว่าก่อน น้อย หมายถึง ตัวเลขที่มีขนาดเล็ก : มีคนน้อยลงกว่าแต่ก่อน และ
△นัย สรุปว่า :ใช้ " นัย " เมื่อสิ่งที่จะถูกเสนอโดยไม่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนและ " อนุมาน " เมื่อใครบางคนพยายามที่จะมาถึงข้อสรุปตามหลักฐาน . หมายความว่า " คือการแสดงออกที่เหมาะสมมากขึ้นที่ใช้งาน เช่น เช่น :
△และคำย่อ " คือ " หมายถึง " นั่นคือ " ตัวย่อ " เช่น " หมายถึง " ตัวอย่างเช่น " ( ตัวย่อเหล่านี้ไม่ใช่ตัวเอียง )