A number of recent studies have rev

A number of recent studies have revealed that individuals with ASD show normal patterns of reflexive gaze cueing when
evaluated using Posner-style laboratory tasks. In this experimental task, participants are shown a centrally located face that gazes either left or right; after a time lag a target stimulus appears on either side of the face and participants are tasked with pressing a key once they have visually located the target stimulus. Participants usually respond faster to valid trials where the central stimulus cues the target location compared to invalid cues. Similarities in the patterns of reaction times to gaze cues between individuals with ASD and matched controls, however, may hide qualitative differences in underlying cognitive mechanisms. For example,Senju et al. found that children with ASD showed the validity effect to both social and nonsocial cues even when the cues were counter-informative (i.e., 80 %of the trials were invalid), whereas in typically developing children only reflexive orienting to faces survived this manipulation, indicating a preferential sensitivity to eye gaze in typically developing children, but not in children with ASD. This research suggests that children with ASD rely on the same processing strategies for social and nonsocial cues, whereas typically developing children utilize different underlying processes for social and nonsocial cues. To date, no prospective longitudinal study has been conducted to evaluate whether early qualitative differences in reflexive orienting underlie later delays in spontaneous gaze following

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จำนวนการศึกษาล่าสุดได้เปิดเผยว่า บุคคลที่ มี ASD แสดงรูปแบบปกติของสายตาสะท้อนกลับ cueing เมื่อถูกประเมินโดยใช้ Posner แบบปฏิบัติงาน งานนี้ทดลอง ร่วมแสดงหน้ากลางที่ gazes ซ้ายหรือขวา หลังจากช่วงห่างเวลา กระตุ้นเป้าหมายปรากฏอยู่บนด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้า และผู้เข้าร่วมได้รับมอบหมาย ด้วยการกดปุ่มคีย์เมื่อพวกเขาได้เห็นอยู่กระตุ้นเป้าหมาย ผู้เข้าร่วมมักจะตอบสนองได้เร็วขึ้นเพื่อทดลองใช้ได้ที่กระตุ้นกลางสัญลักษณ์ที่ตั้งเป้าหมายเปรียบเทียบกับสัญลักษณ์ไม่ถูกต้อง ความเหมือนกันในรูปแบบของปฏิกิริยาเวลามองสัญลักษณ์ระหว่างบุคคลกับ ASD และควบคุมตรงกัน อย่างไรก็ตาม อาจซ่อนอยู่ภายใต้กลไกการรับรู้เชิงคุณภาพแตกต่าง ตัวอย่าง Senju et al. พบว่า เด็ก ASD พบลักษณะพิเศษที่มีผลบังคับใช้สัญลักษณ์ nonsocial และสังคมแม้ว่าสัญลักษณ์ถูก counter-informative (เช่น 80% ของการทดลองที่ไม่ถูกต้อง), ในขณะที่ในการพัฒนาเด็กโดยปกติ orienting สะท้อนกลับเท่ากับหน้ารอดชีวิตจัดการนี้ ระบุความไวต้องไปอายสายตา ในการพัฒนาเด็กโดยทั่วไป แต่ไม่ใช่ ในเด็ก ASD งานวิจัยนี้แนะนำว่า เด็ก ASD พึ่งพากลยุทธ์การประมวลผลที่เหมือนกันสำหรับสัญลักษณ์ทางสังคม และ nonsocial ในขณะที่โดยทั่วไปเด็กพัฒนาใช้กระบวนการต้นแบบต่าง ๆ สำหรับสัญลักษณ์ทางสังคม และ nonsocial วันที่ ศึกษาระยะยาวมีแนวโน้มไม่มีการดำเนินการเพื่อประเมินว่าความแตกต่างเชิงคุณภาพก่อนใน orienting สะท้อนกลับอยู่ภายใต้ความล่าช้าภายหลังในสายตาอยู่ต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากการศึกษาที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าบุคคลที่มี ASD แสดงรูปแบบปกติของสายตา cueing สะท้อนเมื่อ
ประเมินโดยใช้งานในห้องปฏิบัติการ Posner สไตล์ ในการทดลองงานนี้ผู้เข้าร่วมจะแสดงใบหน้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่จ้องซ้ายหรือขวา หลังจากเวลาที่ล่าช้ากระตุ้นเป้าหมายปรากฏบนทั้งสองข้างของใบหน้าและผู้เข้าร่วมได้รับมอบหมายกับการกดปุ่มเมื่อพวกเขาได้อยู่สายตากระตุ้นเป้าหมาย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมักจะตอบสนองได้เร็วขึ้นเพื่อการทดลองที่ถูกต้องที่กระตุ้นกลางตัวชี้นำสถานที่เป้าหมายเมื่อเทียบกับความหมายที่ไม่ถูกต้อง ความคล้ายคลึงกันในรูปแบบของการปฏิกิริยาครั้งที่จะจ้องมองความหมายระหว่างบุคคลที่มี ASD และการควบคุมการจับคู่ แต่อาจซ่อนความแตกต่างเชิงคุณภาพในกลไกการองค์ความรู้พื้นฐาน ตัวอย่างเช่น Senju et al, พบว่าเด็กที่มี ASD แสดงให้เห็นผลความถูกต้องทั้งตัวชี้นำสังคมและ nonsocial แม้ในขณะที่เป็นตัวชี้นำเคาน์เตอร์ข้อมูล (เช่น 80% ของการทดลองที่ถูกที่ไม่ถูกต้อง) ในขณะที่เด็กมักจะพัฒนาเพียงสะท้อนทิศทางให้กับใบหน้ารอดชีวิตจากการจัดการนี้แสดงให้เห็น ความไวพิเศษที่จะจ้องมองตาในเด็กมักจะพัฒนา แต่ไม่ได้อยู่ในเด็กที่มี ASD การวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเด็กที่มี ASD พึ่งพากลยุทธ์การประมวลผลเหมือนกันสำหรับตัวชี้นำสังคมและ nonsocial ในขณะที่เด็กมักจะใช้ประโยชน์จากการพัฒนากระบวนการพื้นฐานที่แตกต่างกันสำหรับตัวชี้นำสังคมและ nonsocial ในวันที่ไม่มีการศึกษาระยะยาวที่คาดหวังได้รับการดำเนินการเพื่อประเมินว่าความแตกต่างของคุณภาพในช่วงต้นสะท้อนทิศทางรองรับความล่าช้าต่อไปในการจ้องมองที่เกิดขึ้นเองดังต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จำนวนของการศึกษาล่าสุดพบว่ามีบุคคลที่มี ASD แสดงรูปแบบปกติของแบบประเมินโดยใช้สายตาสะท้อนเมื่อ
พอสเนอร์สไตล์ปฏิบัติการงาน ในงานทดลองนี้ ผู้เข้าร่วมแสดงตั้งอยู่หน้าที่ชื่นชอบซ้ายหรือขวาหลังจากเวลาล้าหลังเป้าหมายกระตุ้นปรากฏบนด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้า และ ผู้เข้าร่วมจะได้รับมอบหมายให้กดแป้น เมื่อพวกเขามีอยู่การกระตุ้นกลุ่มเป้าหมาย ผู้เข้าร่วมมักจะตอบสนองเร็วขึ้นเพื่อทดลองใช้ได้ที่กระตุ้นกลางตัวเป้าหมายที่ตั้งเทียบสัญญาณไม่ถูกต้องความคล้ายคลึงกันในรูปแบบของเวลาในการเกิดปฏิกิริยาที่จะจ้องมองคิวระหว่างบุคคลกับ ASD และการจับคู่การควบคุม อย่างไรก็ตาม อาจซ่อนความแตกต่างเชิงคุณภาพ กลไกการรับรู้ ตัวอย่างเช่น เซ็นจู และคณะ พบว่าเด็กที่มี ASD แสดงความเชื่อมั่นต่อทั้งสังคมและบุคคล ซึ่งไม่ใช่สังคม แม้ว่าคิวมีข้อมูลนับ ( เช่น 80% ของการทดลองที่ไม่ถูกต้อง )ในขณะที่โดยทั่วไปการพัฒนาเด็กสะท้อน orienting หน้ารอดจัดการนี้ แสดงว่าพวกไวตา gaze มักจะพัฒนาเด็ก แต่ไม่ใช่ ในเด็กที่มี ASD งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าเด็กที่มี ASD พึ่งพากลยุทธ์เดียวกันการประมวลผลคิวซึ่งไม่ใช่สังคมและสังคม ,ในขณะที่มักจะพัฒนาเด็กใช้แตกต่างกันภายใต้กระบวนการทางสังคมและบุคคลซึ่งไม่ใช่สังคม . ถึงวันที่ไม่มีอนาคตระยะยาว การศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่าช่วงต้นคุณภาพความแตกต่างสะท้อน orienting ต่างๆในภายหลัง ความล่าช้าในฉับพลัน สายตาของต่อไปนี้