The OverachieverNeeds:The Overachie

The Overachiever

Needs:The Overachiever is extremely motivated to consistently perform across all contexts and be the best at what he does. The Overachiever is driven by the need to go beyond his capacities and make sense of what he is doing. His aims are related to the pursuit of meaningful actions, purpose in life and going beyond basic, individual and social needs. The Overachiever prefers intense competition at all costs.

Knowledge:The Overachiever tends to have advanced knowledge in one or multiple fields. His knowledge is based on principles which have been scientifically, rationally and logically established. The Overachiever’s scientific knowledge is obtained by the accumulation of experience, education, scientific methods, research protocols and experimentation. Scientific knowledge allows him to build and organize information in the form of testable explanations and predictions about the world. The Overachiever constantly seeks to use this knowledge to demonstrate that he is the best.

Values:The Overachiever is a demanding person who wants to be the best and knows what is good for him. His basic individual values are related mainly to his personal opinions and thus ignore social norms or commonly recognized values. Basic values or instincts allow the Overachiever to distinguish between good and evil from his unique perspective. The Overachiever may have difficulties with social interaction because he is seen as too aggressive.


The Opportunist

Needs:The Opportunist acts ambitiously to satisfy needs that could bring him pleasure. The Opportunist voraciously pursues the means to satisfy and exceed instinctual needs.

Knowledge:The Opportunist is a natural risk taker who uses smarts and logic to take immediate advantage of new opportunities. The Opportunist’s knowledge is based on principles which have been rationally and logically established and are generally recognized. The Opportunist obtains knowledge through work experience, education, specific methods, or experimentation. He is talented at organizing information in the form of testable explanations and predictions about specific situations.

Values:The Opportunist behaves with limited regard for principles or consequences to others. His basic individual values are related mainly to his instincts and experience-based knowledge and thus ignore social norms or commonly recognized values. Basic values or instincts allow the Opportunist to distinguish between good and bad from his unique perspective. Social interaction could be restricted to actions guided primarily by self-interest.


The Autonomous Thinker

Needs:The Autonomous Thinker is driven by needs self-transcendence. His aims are related to the pursuit of meaningful actions, purpose in life and going beyond basic, individual and social needs .

Knowledge:The Autonomous Thinker is a person of deep insight and intuition. Intuitive knowledge allows the Autonomous Thinker to make good use of his unique insight in all situations. His intuitive knowledge is based on inspirational principles that are often disruptive and do not necessarily correspond to social standards. Some could see the Autonomous Thinker’s knowledge as “great wisdom”, while others might view it as an obscure way to explain the world. Intuitive knowledge drives the Autonomous Thinker to a continuous personal quest, which sometimes pushes him to retreat from social activities.

Values:The Autonomous Thinker is a person who looks for answers within himself. His basic individual values are related mainly to his instincts and intuitive knowledge and thus ignore social norms or commonly recognized values. Basic values or instincts allow the Autonomous Thinker to distinguish between good and bad from his unique inwardly-focused perspective.


Your sphere of influence

Your predominant sphere of influence is myself

We each use our own personal resources to influence others while building relationships, so each of us has a different way of influencing our own environment. Praditus believes that an individual can actually work on three levels of influence: yourself, others and society. Therefore what we call the “sphere of influence” is in fact how you use your personal resources to have an impact at the level where you want to operate :

Yourself: at this stage you believe that you can use your personal resources and actions chiefly to affect your own desires and decisions.
Others: at this stage you are aware of the possibility of influencing other people, colleagues, family and friends by using your personal resources.
Society: at this stage you consciously intend to make a change by acting upon a large number of people: not just yourself, relatives and close friends, but also everyone you encounter in your daily activities, whether personal or professional.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Overachiever ที่ต้องการ: Overachiever จะเป็นแรงจูงใจอย่างมากในการข้ามบริบททั้งหมดอย่างสม่ำเสมอ และจะดีสุดที่เขาไม่ Overachiever ที่ถูกควบคุม โดยต้องเกินกำลังของเขา และทำให้ความรู้สึกของเขาทำอะไรอยู่ จุดมุ่งหมายของเขาเกี่ยวข้องกับการแสวงหาการดำเนินการที่มีความหมาย วัตถุประสงค์ในชีวิตและความต้องการพื้นฐาน แต่ละ และสังคมไป Overachiever ที่ต้องแข่งขันรุนแรงที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดความรู้: Overachiever ยังมีแนวโน้ม มีสูงความรู้หนึ่ง หรือหลายเขตข้อมูล ความรู้ตั้งอยู่บนหลักการที่ได้รับวิทยาศาสตร์ ลูก และตรรกะก่อตั้งขึ้น ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของ Overachiever จะได้รับ โดยการสะสมของประสบการณ์ การศึกษา วิธีการทางวิทยาศาสตร์ โปรโตคอลวิจัย และทดลอง ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ช่วยให้เขาสร้าง และจัดระเบียบข้อมูลในรูปแบบของคำอธิบาย testable และคาดคะเนเกี่ยวกับโลก ที่ Overachiever ตลอดเวลาพยายามใช้ความรู้นี้เพื่อแสดงให้เห็นว่า เป็นที่สุดค่า: Overachiever การเป็นผู้เรียกร้องที่อยากจะดีสุด และรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขา ค่าแต่ละค่าพื้นฐานของเขาเกี่ยวข้องส่วนใหญ่กับความเห็นส่วนตัวของเขา และละเว้นดังนั้น บรรทัดฐานทางสังคม หรือรู้จักกันโดยทั่วไปค่า ค่าพื้นฐานหรือสัญชาตญาณให้ Overachiever เพื่อแยกระหว่างความดีและความชั่วร้ายจากมุมมองเฉพาะของเขา Overachiever ที่อาจมีปัญหากับสังคมเนื่องจากเขาถูกมองว่าเป็นการก้าวร้าวเกินไปOpportunist ที่ต้องการ: Opportunist การกระทำเพื่อตอบสนองความต้องการที่เขาสามารถนำความสุข ambitiously Opportunist ที่ pursues วิธีการเพื่อตอบสนอง และเกินความต้องการ instinctual อย่างตะกละตะกลามความรู้: Opportunist การจะป้องกันความเสี่ยงจากธรรมชาติที่ใช้ smarts และตรรกะการใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ ทันที ความรู้ของ Opportunist ตั้งอยู่บนหลักการที่ได้รับลูก และตรรกะก่อตั้ง และเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป Opportunist ที่ได้รับความรู้ผ่านประสบการณ์การทำงาน ศึกษา วิธีการ หรือการทดลอง เขาจะมีความสามารถในการจัดระเบียบข้อมูลในรูปแบบของคำอธิบาย testable และคาดคะเนเกี่ยวกับสถานการณ์เฉพาะค่า: Opportunist การทำงาน มีจำกัดเกี่ยวกับหลักหรือผลกระทบอื่น ค่าแต่ละค่าพื้นฐานของเขาเกี่ยวข้องส่วนใหญ่กับสัญชาตญาณและประสบการณ์ตามความรู้ของเขา และละเว้นดังนั้น บรรทัดฐานทางสังคม หรือรู้จักกันโดยทั่วไปค่า ค่าพื้นฐานหรือสัญชาตญาณให้ Opportunist เพื่อแยกระหว่างความดีและไม่ดีจากมุมมองเฉพาะของเขา สังคมอาจจำกัดการดำเนินการที่แนะนำ โดย self-interest เป็นหลักThinker อิสระต้องการ: Thinker อิสระถูกควบคุม โดยปรองดองตนเองต้องการ จุดมุ่งหมายของเขาเกี่ยวข้องกับการแสวงหาการดำเนินการที่มีความหมาย วัตถุประสงค์ในชีวิตและความต้องการพื้นฐาน แต่ละ และสังคมไปความรู้: Thinker อิสระเป็นคนเข้าใจลึกและสัญชาตญาณ ใช้งานง่ายรู้ Thinker อิสระต้องใช้ความเข้าใจของเขาเฉพาะในเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ ความรู้ของเขาง่ายขึ้นอยู่กับหลักการสร้างแรงบันดาลใจที่มักขวัญ และไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับมาตรฐานทางสังคม บางคนอาจเห็น Thinker การปกครองความรู้เป็น "ภูมิปัญญาที่ยอดเยี่ยม" ในขณะที่อื่นอาจดูเป็นวิธีปิดบังในการอธิบายโลกได้ ใช้งานง่ายรู้ไดรฟ์ Thinker อิสระต้องการอย่างต่อเนื่องบุคคลแสวง ซึ่งบางครั้งผลักดันให้เขาหนีจากสังคมค่า: Thinker อิสระเป็นคนหาคำตอบในตัวเอง ค่าแต่ละค่าพื้นฐานของเขาเกี่ยวข้องส่วนใหญ่กับสัญชาตญาณของเขาและความรู้ที่ใช้งานง่าย และจึง ละเว้นบรรทัดฐานทางสังคม หรือรู้จักกันโดยทั่วไปค่า ค่าพื้นฐานหรือสัญชาตญาณให้ Thinker อิสระแยกความแตกต่างระหว่างดีและไม่ดีจากเฉพาะเน้นสองอย่างภายในอิทธิพลของทรงกลมเป็นเขตอิทธิพลของกันเองเราแต่ละใช้ทรัพยากรของเราเองส่วนบุคคลจะมีอิทธิพลต่อผู้อื่นในขณะที่สร้างความสัมพันธ์ ดังนั้นเราแต่ละคนมีวิธีแตกต่างกันมีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อมของเราเอง Praditus เชื่อว่า บุคคลสามารถทำงานจริงในสามระดับของอิทธิพล: ตัวเอง ผู้อื่น และสังคม ดังนั้น สิ่งที่เราเรียกการ "เขตอิทธิพล" คือในความเป็นจริง วิธีใช้ทรัพยากรบุคคลให้มีผลกระทบในระดับที่คุณต้องการใช้งาน: ตัวเอง: ในขั้นตอนนี้ คุณเชื่อว่า คุณสามารถใช้ทรัพยากรบุคคลและการกระทำของคุณส่วนใหญ่จะมีผลต่อความต้องการและตัดสินใจของคุณเอง อื่น ๆ: ในขั้นตอนนี้ คุณได้ทราบของชักอื่น ๆ คน เพื่อน ครอบครัว และเพื่อนโดยใช้ทรัพยากรส่วนบุคคลของคุณ สังคม: ในขั้นตอนนี้ คุณสติตั้งใจที่จะทำการเปลี่ยนแปลง โดยทำหน้าที่ตามจำนวนคน: ไม่เพียงตัวเอง ญาติ และเพื่อนสนิท แต่ทุกคนที่คุณพบในกิจกรรมประจำวันของคุณ ส่วนบุคคล หรือมืออาชีพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Overachiever ความต้องการ: Overachiever มีแรงจูงใจมากที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องทั่วทุกบริบทและเป็นที่ดีที่สุดในสิ่งที่เขาทำ Overachiever คือการขับเคลื่อนด้วยความต้องการที่จะไปไกลเกินกว่าความสามารถของเขาและทำให้ความรู้สึกของสิ่งที่เขาทำ จุดมุ่งหมายของเขาเกี่ยวข้องกับการแสวงหาความหมายของการกระทำที่มีจุดประสงค์ในชีวิตและจะเกินพื้นฐานความต้องการส่วนบุคคลและสังคม Overachiever ชอบการแข่งขันที่รุนแรงที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมด. ความรู้: Overachiever แนวโน้มที่จะมีความรู้ขั้นสูงในหนึ่งหรือหลายเขตข้อมูล ความรู้ของเขาเป็นไปตามหลักการที่ได้รับทางวิทยาศาสตร์อย่างมีเหตุผลและเป็นที่ยอมรับในเชิงตรรกะ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของ Overachiever จะได้รับจากการสะสมของประสบการณ์, การศึกษา, วิธีการทางวิทยาศาสตร์โปรโตคอลการวิจัยและการทดลอง ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทำให้เขาสามารถสร้างและจัดระเบียบข้อมูลในรูปแบบของคำอธิบายทดสอบและการคาดการณ์เกี่ยวกับโลก Overachiever อย่างต่อเนื่องพยายามที่จะใช้ความรู้นี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่ดีที่สุด. ค่า: Overachiever เป็นบุคคลที่มีความต้องการที่อยากจะเป็นที่ดีที่สุดและรู้ว่าสิ่งที่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขา ค่าของแต่ละขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเขาจึงไม่สนใจบรรทัดฐานของสังคมหรือค่าที่ยอมรับกันทั่วไป ค่า Basic หรือสัญชาตญาณช่วยให้ Overachiever ที่จะแยกแยะระหว่างความดีและความชั่วร้ายจากมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา Overachiever อาจจะมีปัญหากับการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเพราะเขาถูกมองว่าเป็นก้าวร้าวเกินไป. ฉวยโอกาสNeeds: ฉวยโอกาสทำหน้าที่ทะเยอทะยานที่จะตอบสนองความต้องการที่สามารถนำเขามีความสุข ฉวยโอกาสตะกละตะกลามแสวงหาวิธีการที่จะตอบสนองและเกินความต้องการสัญชาตญาน. ความรู้: ฉวยโอกาสเป็นคนรับความเสี่ยงจากธรรมชาติที่ใช้กึ๋นและตรรกะที่จะใช้ประโยชน์ทันทีจากโอกาสใหม่ ๆ ความรู้ฉวยโอกาสเป็นไปตามหลักการที่ได้รับอย่างมีเหตุผลและเป็นที่ยอมรับเหตุผลและได้รับการยอมรับโดยทั่วไป ฉวยโอกาสได้รับความรู้ผ่านประสบการณ์ในการทำงาน, การศึกษา, วิธีการเฉพาะหรือการทดลอง เขาเป็นคนที่มีความสามารถในการจัดระเบียบข้อมูลในรูปแบบของคำอธิบายทดสอบและการคาดการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง. ค่า: ฉวยโอกาสจะทำงานเกี่ยวกับการ จำกัด สำหรับหลักการหรือผลกระทบให้กับผู้อื่น ค่าของแต่ละขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่จะสัญชาตญาณของเขาและความรู้ประสบการณ์ที่ใช้จึงไม่สนใจบรรทัดฐานของสังคมหรือค่าที่ยอมรับกันทั่วไป ค่า Basic หรือสัญชาตญาณช่วยให้ฉวยโอกาสที่จะแยกแยะระหว่างความดีและไม่ดีจากมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา การปฏิสัมพันธ์ทางสังคมจะถูก จำกัด ให้ดำเนินการแนะนำหลักโดยประโยชน์ของตนเอง. อิสระนักคิดความต้องการ: นักคิดอิสระคือการขับเคลื่อนด้วยความต้องการของวิชชาตนเอง จุดมุ่งหมายของเขาเกี่ยวข้องกับการแสวงหาความหมายของการกระทำที่มีจุดประสงค์ในชีวิตและจะเกินพื้นฐานความต้องการส่วนบุคคลและสังคม. ความรู้: นักคิดอิสระเป็นบุคคลที่เข้าใจลึกและสัญชาตญาณ ความรู้ที่ใช้งานง่ายช่วยให้นักคิดอิสระที่จะทำให้การใช้งานที่ดีของความเข้าใจที่ไม่ซ้ำกันของเขาในทุกสถานการณ์ ความรู้ที่ใช้งานง่ายของเขาอยู่บนพื้นฐานของหลักการสร้างแรงบันดาลใจที่มักจะยุ่งยากและไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับมาตรฐานทางสังคม บางคนจะได้เห็นความรู้ที่ตนเองคิดว่า "ปัญญาดี" ในขณะที่คนอื่นอาจดูว่ามันเป็นวิธีที่ชัดเจนที่จะอธิบายโลก ความรู้ที่ใช้งานง่ายไดรฟ์นักคิดอิสระเพื่อการแสวงหาส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่องซึ่งบางครั้งผลักเขาให้ถอยจากกิจกรรมทางสังคม. ค่า: นักคิดอิสระเป็นคนที่มองหาคำตอบภายในตัวเอง ค่าของแต่ละขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่จะสัญชาตญาณของเขาและความรู้ที่ใช้งานง่ายและทำให้ไม่สนใจบรรทัดฐานของสังคมหรือค่าที่ยอมรับกันทั่วไป ค่า Basic หรือสัญชาตญาณช่วยให้นักคิดอิสระที่จะแยกแยะระหว่างความดีและไม่ดีจากมุมมองภายในที่มุ่งเน้นของเขาที่ไม่ซ้ำกัน. ทรงกลมของคุณจากอิทธิพลของทรงกลมเด่นของคุณจากอิทธิพลของตัวเองคือเราแต่ละคนใช้ทรัพยากรของเราเองที่มีอิทธิพลต่อคนอื่น ๆ ในขณะที่การสร้างความสัมพันธ์เพื่อให้แต่ละ เรามีวิธีที่แตกต่างกันของที่มีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อมของเราเอง Praditus เชื่อว่าแต่ละคนสามารถทำงานได้จริงในสามระดับของอิทธิพล: ตัวเองผู้อื่นและสังคม ดังนั้นสิ่งที่เราเรียกว่า "อิทธิพล" ในความเป็นจริงวิธีการที่คุณใช้ทรัพยากรส่วนบุคคลของคุณที่จะมีผลกระทบในระดับที่คุณต้องการทำงาน: ตัวเอง: ในขั้นตอนนี้คุณเชื่อว่าคุณสามารถใช้ทรัพยากรส่วนบุคคลและการกระทำของคุณส่วนใหญ่จะ ส่งผลกระทบต่อความต้องการของคุณเองและการตัดสินใจ. อื่น ๆ : ในขั้นตอนนี้คุณจะตระหนักถึงความเป็นไปได้ของการที่มีอิทธิพลต่อคนอื่น ๆ เพื่อนร่วมงานครอบครัวและเพื่อนโดยใช้ทรัพยากรส่วนบุคคลของคุณ. สังคม: ในขั้นตอนนี้คุณมีสติตั้งใจที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยปฏิบัติตาม จำนวนมากของผู้คนไม่เพียง แต่ตัวเองญาติและเพื่อนสนิท แต่ยังทุกคนที่คุณพบในกิจกรรมประจำวันของคุณไม่ว่าจะเป็นส่วนตัวหรืออาชีพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ต้องการคนเรียนเก่ง

: คนเรียนเก่งสุดๆ กระตุ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงในบริบทและจะดีที่สุดในสิ่งที่เขาไม่ ที่ขับเคลื่อนโดยคนเรียนเก่งต้องไปเกินความสามารถของเขา และเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ จุดมุ่งหมายของเขาเกี่ยวข้องกับการกระทำที่มีความหมาย , วัตถุประสงค์ในชีวิต และจะเกินพื้นฐาน ความต้องการของแต่ละบุคคลและสังคมที่คนเรียนเก่งชอบการแข่งขันที่รุนแรงที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมด .

ความรู้ : Overachiever มีแนวโน้มที่จะมีความรู้ขั้นสูงในหนึ่งหรือหลายเขตข้อมูล ความรู้ของเขาบนพื้นฐานของหลักการที่ได้รับเป็นอย่างมีเหตุผลและสร้างเหตุผล ของคนเรียนเก่ง ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้มาจากการสะสมประสบการณ์ การศึกษา วิธีการ ทางวิทยาศาสตร์ระบบการวิจัยและการทดลอง ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้เขาสร้างและจัดระเบียบข้อมูลในรูปแบบของการอธิบายและทดสอบได้คำทำนายเกี่ยวกับโลก การเป็นคนชอบเอาชนะอย่างต่อเนื่องพยายามที่จะใช้ความรู้นี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นดีที่สุด

ค่า : คนเรียนเก่ง เป็นคนที่เรียกร้องที่ต้องการจะดีที่สุด และรู้ว่าอะไรดีสำหรับเขาค่านิยมของบุคคลขั้นพื้นฐานของเขาที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่กับความคิดเห็นส่วนตัวของเขา จึงละเลยบรรทัดฐานทางสังคมหรือคุณค่าที่รับรู้ ค่านิยมพื้นฐาน หรือสัญชาตญาณให้คนเรียนเก่งต้องแยกแยะระหว่างความดีและความชั่วร้ายจากมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา มีคนที่ประสบความสำเร็จมากอาจมีปัญหากับการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เพราะเขาถูกมองว่าก้าวร้าวเกินไป


ต้องการฉวยโอกาส

:การกระทำที่ฉวยโอกาสทะเยอทะยานเพื่อตอบสนองความต้องการที่จะทำให้เขาพอใจ พวกนักฉวยโอกาสตะกรุมตะกราม pursues หมายถึงการตอบสนองและเกินความต้องการ instinctual

ความรู้ : เต่ามะเฟืองเป็นคนรับความเสี่ยงโดยธรรมชาติที่ใช้กึ๋นและตรรกะเพื่อใช้ประโยชน์ทันทีจากโอกาสใหม่ ๆความรู้ของเต่ามะเฟืองจะขึ้นอยู่กับหลักการที่ได้รับอย่างมีเหตุผล และก่อตั้ง ตรรกะ และโดยทั่วไปจะได้รับการยอมรับ พวกนักฉวยโอกาส ได้รับความรู้ผ่านประสบการณ์การทำงาน การศึกษา วิธีการที่เฉพาะเจาะจงหรือการทดลอง เขามีพรสวรรค์ในการจัดระเบียบข้อมูลในรูปแบบของการอธิบายและทดสอบได้คาดการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง ค่า

:พวกนักฉวยโอกาสทํางานเกี่ยวกับ จำกัด สำหรับหลักการ หรือผลกระทบต่อผู้อื่น ค่านิยมของบุคคลขั้นพื้นฐานของเขาที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่ของเขาสัญชาตญาณและประสบการณ์ความรู้ และดังนั้นจึง ปฏิเสธบรรทัดฐานทางสังคมหรือคุณค่าที่รับรู้ ค่านิยมพื้นฐาน หรือสัญชาตญาณให้ฉวยโอกาสในการแยกความแตกต่างระหว่างดีและไม่ดีจากมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาปฏิสัมพันธ์ทางสังคมจะถูก จำกัด การกระทำเป็นหลักโดยการแนะนำ




ต้องการนักคิดอิสระ : นักคิดอิสระคือแรงผลักดันจากความต้องการของตนเอง วิชชา จุดมุ่งหมายของเขาเกี่ยวข้องกับการกระทำที่มีความหมาย , วัตถุประสงค์ในชีวิต และจะเกินพื้นฐาน ความต้องการของแต่ละบุคคลและสังคม

ความรู้ : นักคิดอิสระเป็นคนที่ลึกลึกและสัญชาตญาณความรู้ที่ใช้งานง่ายช่วยให้นักคิดอิสระที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาในทุกสถานการณ์ ความรู้ที่ใช้งานง่ายของเขาบนพื้นฐานของหลักการที่สร้างแรงบันดาลใจที่มักก่อกวน ไม่จําเป็นต้องสอดคล้องกับมาตรฐานสังคม บางคนอาจเห็นความรู้ที่เป็นนักคิดที่ " ปัญญา " ที่ยิ่งใหญ่ ในขณะที่คนอื่นอาจจะดูเป็นวิธีที่อธิบายโลกใช้งานง่ายไดรฟ์นักคิดอิสระให้ความรู้อย่างต่อเนื่องส่วนบุคคลค้นหา ซึ่งบางครั้งผลักเขาถอยหลังจากกิจกรรมทางสังคม ค่า

: นักคิดอิสระเป็นคนที่มองหาคำตอบในตัวเอง ค่านิยมของบุคคลขั้นพื้นฐานของเขาที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่ของเขาสัญชาตญาณและความรู้ที่ใช้งานง่ายจึงละเลยบรรทัดฐานทางสังคมหรือคุณค่าที่รับรู้ค่านิยมพื้นฐาน หรือสัญชาตญาณให้นักคิดอิสระที่จะแยกแยะระหว่างดีและไม่ดีจากเอกลักษณ์ของเขาภายในเน้นมุมมอง


ทรงกลมของคุณมีอิทธิพล

ทรงกลมของคุณมีอิทธิพล คือ โดดเอง

เราใช้ทรัพยากรส่วนตัวของเรามีอิทธิพลต่อคนอื่น ๆ ในขณะที่ความสัมพันธ์ของอาคาร ดังนั้นเราแต่ละคนก็มีวิธีการที่แตกต่างกันของการมีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อม ของเราเองpraditus เชื่อว่าบุคคลสามารถทำงานบนสามระดับของอิทธิพล : ตัวเอง ผู้อื่น และสังคม ดังนั้น สิ่งที่เราเรียก " เขตอิทธิพล " ในความเป็นจริงว่าคุณใช้ทรัพยากรส่วนตัวของคุณจะมีผลกระทบในระดับที่คุณต้องการใช้งาน :

ตัวเอง :ในขั้นตอนนี้ คุณเชื่อว่า คุณสามารถใช้แหล่งข้อมูลส่วนบุคคลของคุณและการกระทำส่วนใหญ่จะมีผลต่อความต้องการของคุณเองและการตัดสินใจ .
คนอื่น : ในขั้นตอนนี้คุณจะตระหนักถึงความเป็นไปได้ของการมีอิทธิพลต่อคนอื่น เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว และเพื่อนๆ โดยการใช้ทรัพยากรส่วนตัวของคุณ
สังคม : ในขั้นตอนนี้คุณมีสติ ตั้งใจจะให้เปลี่ยน ทำเมื่อเป็นจำนวนมากของผู้คน :ไม่ใช่แค่ตัวคุณเอง ญาติ และเพื่อนสนิท แต่ยังทุกคนที่คุณพบในกิจกรรมประจำวันของคุณ ไม่ว่าส่วนตัวหรือมืออาชีพ .