He emphasizes that the heterogeneit

He emphasizes that the heterogeneity of the prevailing price theory is most unsatisfactory because it explains prices of factors and inputs and of final goods. In order to solve this problem, he develops a special framework which consists of two major elements: methodological individualism and a theory of subjectivist evaluations.
According to this theory, individuals evaluate objects and actions as goods and services according to their subjective preferences only. Menger's analy sis shows that the combination of methodological individualism and the theory of subjective evaluation is especially fruitful for economic analysis.
He also shows that methodological individualism and the theory of subjective evaluations are incompatible with any essentialist approach in economics.
According to him, essentialist doctrines com in three different forms: as a methodological position in the form of methodological inductivist essentialism; in a derivative form of that position as an organic explanation of social phenomena; and in the form of labour cost theoretical explanations of exchange and relative prices.
Smith. In contrast to these essentialist doctrines, Menger intends to develop a nominalist and relational behavioural theory which explains the economie behaviour of individuals under different conditions.
The social sciences is to uncover laws of historical development on the basis of inductive procedures. He aims at clarifying the epistemological status of the social sciences and provides a naturalistic account of the methods of the social and natural sciences developing a satisfactory price theory. That genuine new scientific knowledge can be obtained by inductive procedures only. The results of intellectual activities are the products of this process. He proposes a very rudimentary correspondence theory of truth. In order to solve exchange and relative prices as an unintended outcome of the interplay of individual intended actions, Menger starts his analysis by explaining individual intended actions In order to solve exchange and relative prices as an unintended outcome of the interplay of individual intended actions.
Menger, however, shows that satisfactory theoretical explanations require statements or laws or as he says strict or exact typical relations which are universal and empirical. aim of uncovering laws of historical development by Roscher's inductive procedures cannot be attained for principal logical reasons unless the problem however, since Roscher and other authors of the German Historical School simply disregard this logical and epistemological situation, their position is to be rejected. Moreover, on the basis of their position, the social sciences cannot be demarcated as empirical science and the problem of the epistemological status of the theoretical social sciences still awaits a satisfactory resolution
In Menger's view, however, the task of the theoretical social sciences is explaining the origin of a phenomenon is by no means explained by the assertion that it was present from the very beginning and that it developed originally
According to Menger, the labour cost theories explaining exchange and relative prices constitute a third form of essentialism in economics

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เขาเน้นที่ heterogeneity ของทฤษฎีราคาค่าสุดเฉย ๆ เพราะมันอธิบายถึงราคา ของปัจจัยและปัจจัยการผลิต และสินค้าขั้นสุดท้าย เพื่อแก้ปัญหานี้ เขาพัฒนากรอบพิเศษซึ่งประกอบด้วยสององค์ประกอบที่สำคัญ: methodological ปัจเจกนิยมและทฤษฎีของ subjectivist ประเมิน ตามทฤษฎีนี้ บุคคลประเมินวัตถุและการดำเนินการที่เป็นสินค้าและบริการตามกำหนดลักษณะตามอัตวิสัยของพวกเขาเท่านั้น Sis Menger ของ analy แสดงการรวมกันของปัจเจก methodological และทฤษฎีการประเมินตามอัตวิสัยประสบโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์เศรษฐกิจ เขายังแสดง methodological ปัจเจกนิยมและทฤษฎีของการประเมินตามอัตวิสัยเข้ากันกับวิธี essentialist ใด ๆ ในเศรษฐศาสตร์ ตามเขา อยู่ essentialist com ในสามแบบฟอร์ม: เป็นตำแหน่ง methodological ในรูปแบบของ methodological inductivist essentialism ในตำแหน่งที่เป็นคำอธิบายปรากฏการณ์สังคม อินทรีย์รูปแบบพัฒนา และ ในรูปแบบของคำอธิบายทฤษฎีของการแลกเปลี่ยนและราคาสัมพัทธ์ต้นทุนแรงงาน สมิธ ตรงข้ามเหล่านี้ essentialist อยู่ Menger มุ่งมั่นพัฒนา nominalist และทฤษฎีพฤติกรรมเชิงสัมพันธ์ซึ่งอธิบายพฤติกรรม economie ของแต่ละบุคคลภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ สังคมวิทยาคือการ ค้นพบกฎของการพัฒนาทางประวัติศาสตร์โดยใช้วิธีเชิงอุปนัย เขามีวัตถุประสงค์เพื่อทำสถานะ epistemological ของสังคมศาสตร์ และบัญชี naturalistic วิธีของสังคมและธรรมชาติวิทยาศาสตร์พัฒนาทฤษฎีราคาพอ สามารถได้รับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ที่แท้ โดยวิธีเชิงอุปนัยเท่านั้น ผลลัพธ์ของกิจกรรมทางปัญญาเป็นผลิตภัณฑ์ของกระบวนการนี้ เขาเสนอทฤษฎีติดต่อ rudimentary มากจริง การแลกเปลี่ยนและราคาสัมพัทธ์เป็นผลของล้อแต่ละการกระทำที่ตั้งใจไม่ตั้งใจ Menger เริ่มวิเคราะห์ของเขา โดยการอธิบายการดำเนินการตามแต่ละการแลกเปลี่ยนและราคาสัมพัทธ์เป็นผลของล้อแต่ละการกระทำที่ตั้งใจไม่ตั้งใจ Menger ไร แสดงคำอธิบายทฤษฎีพอต้องคำสั่งหรือกฎหมายหรือเขากล่าวว่า แน่นอน หรือเข้มงวดโดยทั่วไปความสัมพันธ์ซึ่งเป็นสากล และผลการ จุดมุ่งหมายของกฎหมาย uncovering ของการพัฒนาทางประวัติศาสตร์โดยวิธีเชิงอุปนัยของ Roscher ไม่ได้เหตุผลตรรกะหลักยกเว้นปัญหาอย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Roscher และอื่น ๆ ผู้เขียนของเยอรมันประวัติศาสตร์โรงเรียนเพียงไม่สนใจสถานการณ์นี้ตรรกะ และ epistemological ตำแหน่งของพวกเขาจะถูกปฏิเสธได้ นอกจากนี้ โดยใช้ตำแหน่งของพวกเขา สังคมศาสตร์ที่ไม่สามารถแบ่งเป็นวิทยาศาสตร์ประจักษ์ และปัญหาสถานะ epistemological ของทฤษฎีสังคมวิทยายังคงรอความละเอียดพอ ในมุมมองของ Menger อย่างไรก็ตาม งานของทฤษฎีสังคมวิทยาจะอธิบายโดยไม่มีอธิบายมาของปรากฏการณ์ โดยยืนยันว่า มีอยู่แต่เริ่ม และมันพัฒนาเดิมตาม Menger ทฤษฎีต้นทุนแรงงานที่อธิบายถึงการแลกเปลี่ยนและราคาสัมพัทธ์เป็นแบบที่สามของ essentialism ในเศรษฐศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เขาเน้นที่ความแตกต่างของทฤษฎีราคาแลกเปลี่ยนเป็นที่น่าพอใจมากที่สุดเพราะมันอธิบายถึงราคาของปัจจัยและปัจจัยการผลิตและสินค้าขั้นสุดท้าย เพื่อที่จะแก้ปัญหานี้เขาพัฒนากรอบการทำงานพิเศษซึ่งประกอบด้วยสององค์ประกอบที่สำคัญ:. ปัจเจกระเบียบวิธีการและทฤษฎีของการประเมินผล subjectivist
ตามทฤษฎีนี้บุคคลประเมินวัตถุและการกระทำที่เป็นสินค้าและบริการตามการตั้งค่าส่วนตัวของพวกเขาเท่านั้น พี่มีส่วน Menger แสดงให้เห็นว่าการรวมกันของปัจเจกระเบียบวิธีการและทฤษฎีของการประเมินผลอัตนัยมีผลโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ.
นอกจากนี้เขายังแสดงให้เห็นว่าปัจเจกระเบียบวิธีการและทฤษฎีของการประเมินผลอัตนัยเข้ากันไม่ได้ด้วยวิธีการใด ๆ essentialist เศรษฐศาสตร์.
ตามที่เขาพูดคำสอน essentialist ดอทคอมในสามรูปแบบที่แตกต่างกันเป็นตำแหน่งวิธีการในรูปแบบของ essentialism inductivist วิธีการนั้น ในรูปแบบที่มาของตำแหน่งนั้นเป็นคำอธิบายอินทรีย์ของปรากฏการณ์ทางสังคม และในรูปแบบของค่าแรงงานคำอธิบายทางทฤษฎีของการแลกเปลี่ยนและราคาญาติ.
สมิ ธ ในทางตรงกันข้ามกับคำสอนเหล่านี้ essentialist, Menger มุ่งมั่นที่จะพัฒนา nominalist และทฤษฎีพฤติกรรมเชิงสัมพันธ์ซึ่งจะอธิบายพฤติกรรม Economie ของบุคคลภายใต้เงื่อนไขที่แตกต่างกัน.
วิทยาศาสตร์ทางสังคมคือการค้นพบกฎของประวัติศาสตร์การพัฒนาบนพื้นฐานของวิธีการอุปนัย เขามีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนสถานะญาณวิทยาของสังคมศาสตร์และให้บัญชีธรรมชาติของวิธีการของวิทยาศาสตร์สังคมและธรรมชาติพัฒนาทฤษฎีราคาที่น่าพอใจ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ของแท้ใหม่สามารถหาได้โดยวิธีการอุปนัยเท่านั้น ผลที่ได้จากกิจกรรมทางปัญญาเป็นผลิตภัณฑ์ของกระบวนการนี้ เขาเสนอทฤษฎีการติดต่อพื้นฐานของความเป็นจริงมาก เพื่อที่จะแก้แลกเปลี่ยนและราคาญาติเป็นผลที่ไม่ตั้งใจของกันและกันของการกระทำที่ตั้งใจไว้แต่ละ Menger เริ่มต้นการวิเคราะห์ของเขาด้วยการอธิบายการกระทำที่มีจุดมุ่งหมายของแต่ละบุคคลในการที่จะแก้ปัญหาการแลกเปลี่ยนและราคาญาติเป็นผลที่ไม่ตั้งใจของกันและกันของการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของแต่ละบุคคล.
Menger แต่แสดงให้เห็นว่าคำอธิบายที่น่าพอใจทางทฤษฎีต้องใช้งบหรือกฎหมายหรือเป็นเขากล่าวว่าความสัมพันธ์ที่เข้มงวดหรือทั่วไปที่แน่นอนที่เป็นสากลและเชิงประจักษ์ จุดมุ่งหมายของการเปิดโปงกฎหมายของพัฒนาการทางประวัติศาสตร์โดยขั้นตอนการอุปนัย Roscher ไม่สามารถบรรลุได้ด้วยเหตุผลตรรกะหลักเว้นแต่ปัญหา แต่เนื่องจาก Roscher และนักเขียนคนอื่น ๆ ในโรงเรียนประวัติศาสตร์เยอรมันก็ไม่สนใจสถานการณ์นี้ตรรกะและญาณวิทยา, ตำแหน่งของพวกเขาคือการถูกปฏิเสธ นอกจากนี้บนพื้นฐานของตำแหน่งของพวกเขา,
สังคมศาสตร์ไม่สามารถเขตแดนเป็นวิทยาศาสตร์เชิงประจักษ์และปัญหาที่เกิดจากสถานะทางญาณวิทยาของสังคมศาสตร์ทฤษฎียังคงรอคอยความละเอียดที่น่าพอใจในมุมมองของMenger แต่งานของวิทยาศาสตร์ทางสังคมในทางทฤษฎีจะอธิบาย
ที่มาของปรากฏการณ์ที่เป็นโดยไม่อธิบายโดยยืนยันว่ามันเป็นของขวัญจากจุดเริ่มต้นมากและมันพัฒนามาตามMenger, ทฤษฎีค่าแรงงานอธิบายแลกเปลี่ยนและราคาญาติเป็นรูปแบบที่สามของ essentialism ในทางเศรษฐศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เขาเน้นที่ความหลากหลายของทฤษฎีแลกเปลี่ยนราคาเป็นที่น่าพอใจมากที่สุดเพราะมันอธิบายราคา ปัจจัยและปัจจัยการผลิตและสินค้าขั้นสุดท้าย เพื่อแก้ไขปัญหานี้ เขาพัฒนาพิเศษกรอบซึ่งประกอบด้วยสององค์ประกอบหลัก : ปัจเจกนิยมวิธีการและทฤษฎีการประเมิน subjectivist .
ตามทฤษฎีนี้วัตถุและการกระทำที่บุคคลประเมินสินค้าและบริการตามความชอบส่วนตัวของตนเองเท่านั้น เมนเจอร์ของเครื่องพี่ แสดงให้เห็นว่า การรวมกันของวิธีการปัจเจกนิยมและทฤษฎีของการประเมินที่เป็นอัตนัย โดยมีผลการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้เขายังแสดงให้เห็นว่าบุคคลวิธีการและทฤษฎีของหัวข้อเรื่องการประเมินผลสอดคล้องกับแนวทาง essentialist ในเศรษฐศาสตร์
ตามเขา essentialist ลัทธิคอมในสามรูปแบบที่แตกต่างกัน : ในฐานะวิธีการในรูปแบบของวิธีการ inductivist 1 ; ในรูปอนุพันธ์ของตำแหน่งที่เป็นคำอธิบายอินทรีย์ของปรากฏการณ์ทางสังคมและในรูปแบบของต้นทุนแรงงานทฤษฎีการอธิบายแลกเปลี่ยน และราคาเปรียบเทียบ
สมิธ ในทางตรงกันข้ามกับคำสอน essentialist เหล่านี้ เมนเกอร์ ตั้งใจที่จะพัฒนา nominalist เชิงพฤติกรรมและทฤษฎีที่อธิบายพฤติกรรมของบุคคล economie
ภายใต้เงื่อนไขที่แตกต่างกันสังคมศาสตร์คือการค้นพบกฎของประวัติศาสตร์การพัฒนาบนพื้นฐานของวิธีการอุปนัย เขามีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงสถานภาพทางญาณวิทยาของวิทยาศาสตร์สังคมและมีบัญชีในสภาพธรรมชาติของวิธีการสังคมและวิทยาศาสตร์พัฒนาทฤษฎีราคาน่าพอใจ ที่ แท้ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ได้โดยวิธีการอุปนัยเท่านั้นผลของกิจกรรมทางปัญญาเป็นผลิตภัณฑ์ของกระบวนการนี้ เขาได้เสนอทฤษฎีพื้นฐานการมากจริง เพื่อแก้ปัญหาการแลกเปลี่ยนและราคาเปรียบเทียบเป็นชนวนที่ไม่ได้ตั้งใจของความต่างของแต่ละคนตั้งใจกระทำเมนเจอร์เริ่มการวิเคราะห์ของเขาด้วยการอธิบายแต่ละวัตถุประสงค์การกระทำเพื่อแก้ปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนและราคาเปรียบเทียบเป็นชนวนที่ไม่ได้ตั้งใจของความต่างของแต่ละวัตถุประสงค์การกระทํา .
เมนเกอร์ อย่างไรก็ตาม พบว่า ความพึงพอใจทางทฤษฎีอธิบายต้องงบหรือกฎหมายหรือตามที่เขากล่าวอย่างเข้มงวดหรือแน่นอนความสัมพันธ์ทั่วไปที่เป็นสากลและเชิงประจักษ์จุดมุ่งหมายของการกฎหมายของการพัฒนาของประวัติศาสตร์ โดย roscher อุปนัยขั้นตอนไม่สามารถบรรลุเหตุผลหลักตรรกะ นอกจากปัญหาแต่เนื่องจาก roscher และผู้เขียนอื่น ๆของโรงเรียนประวัติศาสตร์เยอรมันเพียงไม่สนใจนี้ตรรกะและญาณวิทยา สถานการณ์ ตำแหน่งของพวกเขาจะถูกปฏิเสธ นอกจากนี้บนพื้นฐานของตำแหน่งของพวกเขาสังคมศาสตร์ไม่สามารถ demarcated เป็นวิทยาศาสตร์เชิงประจักษ์ และปัญหาของสถานภาพทางญาณวิทยาของทฤษฎีสังคมศาสตร์ยังรอเป็น
ละเอียดเป็นที่พอใจใน เมนเกอร์ของมุมมอง , อย่างไรก็ตามงานของทฤษฎีสังคมศาสตร์จะอธิบายที่มาของปรากฏการณ์ที่เป็นโดยไม่ได้ชี้แจงโดยยืนยันว่ามันเป็นปัจจุบัน จากจุดเริ่มต้นมากและมันพัฒนาเดิม
ตามเมนเจอร์ ต้นทุนแรงงานทฤษฎีที่อธิบายแลกเปลี่ยน และราคาเทียบเป็น 1 ใน 3 ของเศรษฐศาสตร์
แบบฟอร์ม