Workplace safety is a constant conc

Workplace safety is a constant concern for organizations across
the globe. Occupational injury and fatality statistics demonstrate
that this concern is for good reason. For example, estimate that in 1998 there were over
350,000 fatal and 264 million nonfatal occupational accidents
worldwide. Likewise, a recent study by the National Safety Council
(2006) found that in the United States nearly 5000 accidental fatalities
and as many as 3.7 million nonfatal injuries occur in the workplace
each year, with estimated direct and indirect costs of these
injuries totaling over $140 billion in wage and productivity losses,
property damage, and other associated costs. Some researchers
maintain that the total number of workplace injuries may be even
higher than previous estimates suggest, since many injuries go
unreported . Furthermore, accidents
threaten organizations’ integrity, through personal injury, lawsuits,
and wasted materials .
Human error is believed to be a factor in as many as 80–90% of
work accidents . Consequently, researchers
have sought to identify individual differences that predict safe
workplace behavior, as these may assist organizations in identifying
applicants who are more likely to work safely on the job. Research
and industry practice emphasize the usefulness of
personality-based assessment in this regard . Recent meta-analyses have shown that Big Five personality
dimensions such as emotional stability, agreeableness, and
conscientiousness correlate negatively with workplace accidents.
Nevertheless, the relationship between Big Five personality dimensions
and workplace safety is not fully understood, and Clarke and
Robertson (2008) suggest that it may be useful to consider variables
that moderate personality – safety relationships. In the current
study, we contribute to this growing research literature by
examining whether conscientiousness is moderated by cognitive
ability when predicting workplace safety behavior. First, we briefly
review the relevant literatures on conscientiousness and cognitive
ability. Next, we describe the results of a field study involving 219
participants. We conclude by discussing the implications of our
findings for research and practice.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความปลอดภัยในการทำงานจะต้องคำนึงถึงคงที่สำหรับองค์กรทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงสถิติการบาดเจ็บและผิวอาชีวว่า ความกังวลนี้เป็นเหตุผลที่ดี ตัวอย่าง ประเมินว่า ในปี 1998 มีมากกว่า350000 ที่ร้ายแรงและอุบัติเหตุอาชีว nonfatal 264 ล้านทั่วโลก ในทำนองเดียวกัน การศึกษาล่าสุด โดยคณะกรรมการความปลอดภัยแห่งชาติ(2006) พบว่า ในสหรัฐอเมริกาผู้เกือบ 5000 โดยไม่ตั้งใจและจำนวน 3.7 ล้าน nonfatal บาดเจ็บเกิดขึ้นในทำงานแต่ละปี กับประมาณการต้นทุนทางตรง และทางอ้อมเหล่านี้บาดเจ็บรวมกว่า $140 ล้านสูญเสียผลผลิตและค่าจ้างทรัพย์สิน และต้นทุนที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ นักวิจัยบางรักษาที่ จำนวนของการบาดเจ็บที่ทำงานอาจจะได้สูงกว่าที่แนะนำประเมินก่อนหน้านี้ เนื่องจากบาดเจ็บมากไปไม่ถูกรายงาน นอกจากนี้ อุบัติเหตุคุกคามความสมบูรณ์ขององค์กร ผ่านการบาดเจ็บส่วนบุคคล เป็นความและวัสดุสิ้นเปลืองข้อผิดพลาดที่มนุษย์เชื่อว่าเป็นตัวเป็น 80 – 90% ของงานอุบัติเหตุ ดังนั้น นักวิจัยได้พยายามที่จะระบุความแตกต่างของแต่ละที่ทำนายว่า ปลอดภัยที่ทำงานลักษณะการทำงาน เป็นเหล่านี้อาจช่วยองค์กรในการระบุผู้สมัครที่มีแนวโน้มที่จะทำงานได้อย่างปลอดภัย วิจัยและปฏิบัติการอุตสาหกรรมเน้นประโยชน์ของประเมินที่ใช้บุคลิกภาพในเรื่องนี้ Meta-วิเคราะห์ล่าสุดได้แสดงให้เห็นบุคลิกภาพที่ห้าใหญ่มิติเช่นความมั่นคงทางอารมณ์ agreeableness และconscientiousness ซึ่งส่งผลเสียกับอุบัติเหตุที่ทำงานอย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลิกภาพห้าใหญ่ขนาดและความปลอดภัยที่ทำงานไม่เต็มที่เข้าใจ และคลาร์ก และโรเบิร์ตสัน (2008) แนะนำว่า มันอาจเป็นประโยชน์ในการพิจารณาตัวแปรที่บรรเทาบุคลิกภาพความสัมพันธ์ด้านความปลอดภัย ในปัจจุบันศึกษา เรานำเอกสารประกอบการวิจัยนี้เติบโตตามตรวจสอบว่า conscientiousness จะมีควบคุม โดยการรับรู้ความสามารถเมื่อคาดการณ์พฤติกรรมความปลอดภัยที่ทำงาน แรก เรา brieflyทบทวน literatures เกี่ยวข้อง conscientiousness และรับรู้ความสามารถในการ ถัดไป เราอธิบายผลลัพธ์ของการศึกษา field รวม 219ผู้เข้าร่วม เราสรุป โดยนัยของการสนทนาของเราfindings วิจัยและฝึก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความปลอดภัยในสถานที่ทำงานมีความกังวลอย่างต่อเนื่องสำหรับองค์กรต่างๆ
โลก อุบัติเหตุและสถิติการเสียชีวิตสาธิต
ที่เกี่ยวข้องนี้สำหรับเหตุผลที่ดี ตัวอย่างเช่น ประมาณการว่า ในปี 1998 มีกว่า 350 , 000 เสียชีวิต 264 ล้านอุบัติเหตุ

อาชีพที่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิตทั่วโลก อนึ่ง การศึกษาล่าสุดโดยสภาความปลอดภัยแห่งชาติ
( 2006 ) พบว่าในสหรัฐอเมริกาเกือบ 5000 อุบัติเหตุเสียชีวิต
และการบาดเจ็บที่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิตมากเป็น 3.7 ล้านเกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน
แต่ละปี โดยประมาณการทางตรง และต้นทุนทางอ้อมเหล่านี้
บาดเจ็บรวมกว่า $ 140 พันล้านในค่าจ้างและการสูญเสียผลผลิต ,
ความเสียหายทางทรัพย์สิน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง . นักวิจัยบางคน
รักษาจำนวนของการบาดเจ็บในสถานที่ทำงานอาจ
สูงกว่าประมาณการเดิม แนะนำ ตั้งแต่หลาย บาดเจ็บไป
unreported . นอกจากนี้ อุบัติเหตุ
คุกคามความสมบูรณ์ขององค์กรผ่านการบาดเจ็บส่วนบุคคล ลักษณะ และวัสดุเหลือใช้
.
ข้อผิดพลาดของมนุษย์เชื่อว่าเป็นองค์ประกอบมากถึง 80 - 90 %
อุบัติเหตุการทำงาน จากนั้น นักวิจัย
ขอระบุความแตกต่างที่ทำนายพฤติกรรมการทำงานที่ปลอดภัย
,เป็นเหล่านี้จะช่วยองค์กรในการระบุ
ผู้สมัครมีโอกาสที่จะทำงานได้อย่างปลอดภัย ในงาน การวิจัยและการประเมินการปฏิบัติตามอุตสาหกรรม

เน้นประโยชน์ของบุคคลในเรื่องนี้ ล่าสุด โดยวิธีการวิเคราะห์เมต้าได้แสดงให้เห็นว่าบุคลิกภาพห้า
มิติ เช่น ความมั่นคง ความน่าดึงดูดอารมณ์และบุคลิกภาพมีความสัมพันธ์ทางลบกับ

เกิดอุบัติเหตุในที่ทำงานอย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลิกภาพห้ามิติ
และความปลอดภัยที่ทำงานไม่เต็มที่เข้าใจ และคลาร์กและ
โรเบิร์ตสัน ( 2008 ) แนะนำว่ามันอาจจะมีประโยชน์ที่จะพิจารณาตัวแปร
ที่ปานกลาง–ความปลอดภัยบุคลิกภาพความสัมพันธ์ ในการศึกษาปัจจุบัน
, เราสนับสนุนการเติบโตนี้งานวิจัยโดยการตรวจสอบว่า ความซื่อตรงเป็นหลัก

ทางปัญญาความสามารถในการทำงานเมื่อพยากรณ์พฤติกรรมความปลอดภัย . แรกเราบรีfl Y
ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับบุคลิกภาพและความสามารถในการคิด

ต่อไป เราจะได้อธิบายผลของการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับจึงละมั่ง
219 คน เราสรุปโดยพูดถึงความหมายของ ndings จึงของเรา
การปฏิบัติงานวิจัย