A secured creditor takes a security

A secured creditor takes a security interest to enforce its rights against collateral in case the debtor defaults on the obligation. If the debtor goes bankrupt, a secured creditor takes precedence over unsecured creditors in the distribution.

There are other reasons that people sometimes take security over assets. In shareholders' agreements involving two parties (such as a joint venture), sometimes the shareholders will each charge their shares in favor of the other as security for the performance of their obligations under the agreement to prevent the other shareholder selling their shares to a third party[clarification needed]. It is sometimes suggested that banks may take floating charges over companies by way of security - not so much for the security for payment of their own debts, but because this ensures that no other bank will, ordinarily, lend to the company; thereby almost granting a monopoly in favour of the bank holding the floating charge on lending to the company.[a]

Some economists question the utility of security interests and secured lending generally. Proponents argue that secured interests lower the risk for the lender, and in turn allows the lender to charge lower interest, thereby lowering the cost of capital for the borrower. For example, interest rates for a mortgage loan (for which the mortgage is secured by the real property) are considerably lower than for a credit card debt (where there may be no collateral at all, or such collateral is easily hidden or depreciates rapidly).

Detractors argue that creditors with security interests can destroy companies that are in financial difficulty, but which might still recover and be profitable. The secured lenders might get nervous and enforce the security early, repossessing key assets and forcing the company into bankruptcy. Further, the general principle of most insolvency regimes is that creditors should be treated equally (or pari passu), and allowing secured creditors a preference to certain assets upsets the conceptual basis of an insolvency.[b]

More sophisticated criticisms of security point out that although unsecured creditors will receive less on insolvency, they should be able to compensate by charging a higher interest rate. However, since many unsecured creditors are unable to adjust their "interest rates" upwards (tort claimants, employees), the company benefits from a cheaper rate of credit, to the detriment of these non-adjusting creditors. There is thus a transfer of value from these parties to secured borrowers.[3]

Most insolvency law allows mutual debts to be set-off, allowing certain creditors (those who also owe money to the insolvent debtor) a pre-preferential position. In some countries, "involuntary" creditors (such as tort victims) also have preferential status, and in others environmental claims have special preferred rights for cleanup costs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เจ้าหนี้มีหลักประกันจะเป็นดอกเบี้ยความปลอดภัยในการบังคับใช้สิทธิกับหลักประกันในกรณีที่ลูกหนี้เป็นค่าเริ่มต้นในเกณฑ์ ถ้าลูกหนี้ล้มละลาย เจ้าหนี้มีหลักประกันจะมีความสำคัญกว่าเจ้าหนี้ไม่มีหลักประกันในการกระจายมีเหตุผลอื่น ๆ ที่คนบางครั้งใช้ปลอดภัยกว่าสินทรัพย์ ในหุ้นข้อตกลงสองฝ่าย (เช่นการร่วมทุน), เกี่ยวข้องกับบางครั้งผู้ถือหุ้นจะแต่ละชาร์จหุ้นในความโปรดปรานของอื่น ๆ ที่เป็นความปลอดภัยสำหรับการปฏิบัติตนภายใต้ข้อตกลงการป้องกันอื่น ๆ หุ้นขายหุ้นแก่บุคคลวัฒนธรรม] บางครั้งแนะนำว่า ธนาคารอาจใช้ค่าลอยผ่านบริษัทโดยวิธีการรักษาความปลอดภัย - ไม่มากสำหรับการรักษาความปลอดภัยสำหรับการชำระหนี้ของตนเอง แต่เนื่องจากแน่ใจว่า ไม่มีธนาคารอื่น ๆ จะ ปกติ ยืมบริษัท จึงเกือบจะอนุญาตให้ผูกขาดสนับสนุนค่าลอยให้กู้ยืมเงินกับบริษัทที่ถือหุ้นธนาคาร [a]นักเศรษฐศาสตร์บางคนถามอรรถประโยชน์ความปลอดภัยและให้สินเชื่อมีความปลอดภัยโดยทั่วไป ผู้เสนอโต้แย้งว่า ความสนใจมีความปลอดภัยลดความเสี่ยงสำหรับผู้ให้กู้ และจะช่วยให้ผู้ให้กู้จะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงช่วยลดต้นทุนของเงินทุนสำหรับผู้กู้ เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง (ที่จำนองมีความปลอดภัย โดยทรัพย์สินจริง) จะต่ำกว่าหนี้บัตรเครดิต (ที่อาจจะไม่มีหลักประกันทั้งหมด หรือหลักทรัพย์ดังกล่าวได้ถูกซ่อน หรือ depreciates อย่างรวดเร็ว) มากด้านเถียงว่า เจ้าหนี้ มีความสนใจความปลอดภัยสามารถทำลายบริษัทที่อยู่ในความยากลำบากทางการเงิน แต่ที่อาจยังคงสามารถกู้คืน และทำกำไรได้ ผู้ให้กู้มีหลักประกันอาจหวั่นไหว และบังคับใช้การรักษาความปลอดภัยก่อน repossessing สินทรัพย์สำคัญ และบังคับให้บริษัทล้มละลายลงใน เพิ่มเติม หลักการทั่วไปของระบอบล้มละลายมากที่สุดคือ เจ้าหนี้ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน (หรือจจุ), และอนุญาตให้เจ้าหนี้มีหลักประกันมีความต้องการสินทรัพย์บางตทุกพื้นฐานแนวคิดของการล้มละลาย [b]วิพากษ์วิจารณ์มีความซับซ้อนมากขึ้นความปลอดภัยชี้ว่า แม้ว่าเจ้าหนี้ไม่มีหลักประกันจะได้รับน้อยลงในการล้มละลาย พวกเขาควรจะชดเชย โดยการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเจ้าหนี้ไม่มีหลักประกันจำนวนมากไม่สามารถปรับตน "อัตราดอกเบี้ย" ขึ้นไป (ละเมิดที่เกี่ยวข้อง พนักงาน), บริษัทผลประโยชน์จากราคาถูกกว่าของเครดิต กบุคคลเจ้าหนี้เหล่านี้ไม่ใช่การปรับ จึงมีการโอนย้ายค่าจากบุคคลเหล่านี้ให้ผู้กู้มีหลักประกัน [3]กฎหมายล้มละลายส่วนใหญ่ช่วยให้หนี้ซึ่งกันและกันให้ชุดปิด อนุญาตให้เฉพาะเจ้าหนี้ (ผู้ที่ยัง ค้างชำระเงินบุคคลล้มละลายลูกหนี้) ตำแหน่งพิเศษล่วงหน้า ในบางประเทศ เจ้าหนี้ "โดยไม่ตั้งใจ" (เช่นเหยื่อละเมิด) ยังมีสิทธิพิเศษสถานะ และคนอื่น ๆ เรียกร้องสิ่งแวดล้อมมีสิทธิพิเศษต้องล้างข้อมูลค่าใช้จ่าย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เจ้าหนี้การรักษาความปลอดภัยจะใช้เวลาที่น่าสนใจการรักษาความปลอดภัยในการบังคับใช้สิทธิของตนกับหลักประกันในกรณีที่ลูกหนี้ผิดนัดในภาระหน้าที่ที่ หากลูกหนี้ล้มละลายเป็นเจ้าหนี้ที่มีหลักประกันจะเหนือกว่าเจ้าหนี้ไม่มีประกันในการจัดจำหน่าย.

มีเหตุผลอื่น ๆ ที่บางคนใช้เวลาการรักษาความปลอดภัยมากกว่าสินทรัพย์ ในสัญญาผู้ถือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองฝ่าย (เช่นการร่วมทุน) บางครั้งผู้ถือหุ้นแต่ละคนจะคิดค่าหุ้นของพวกเขาในความโปรดปรานของอื่น ๆ เช่นการรักษาความปลอดภัยสำหรับการทำงานของภาระหน้าที่ของตนภายใต้ข้อตกลงที่จะป้องกันไม่ให้ผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ขายหุ้นของพวกเขาจะเป็นหนึ่งในสาม บุคคล [ชี้แจงจำเป็น] บางครั้งมันเป็นปัญหาว่าธนาคารอาจต้องใช้เวลามากกว่าค่าใช้จ่ายที่ บริษัท ลอยโดยวิธีการรักษาความปลอดภัย - ไม่มากสำหรับการรักษาความปลอดภัยในการชำระหนี้ของตัวเอง แต่เพราะนี่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีธนาคารอื่น ๆ จะปกติปล่อยกู้ให้กับ บริษัท ฯ จึงอนุญาตให้เกือบผูกขาดในความโปรดปรานของธนาคารที่ถือค่าใช้จ่ายที่ลอยอยู่บนการให้กู้ยืมเงินให้กับ บริษัท . [A]

นักเศรษฐศาสตร์บางคนตั้งคำถามกับยูทิลิตี้ของผลประโยชน์ของการรักษาความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยการให้กู้ยืมเงินโดยทั่วไป ผู้เสนอผลประโยชน์ให้เหตุผลว่ามีความปลอดภัยลดความเสี่ยงสำหรับผู้ให้กู้และจะช่วยให้ผู้ให้กู้คิดดอกเบี้ยต่ำจึงช่วยลดต้นทุนของเงินทุนสำหรับผู้กู้ ยกตัวอย่างเช่นอัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้จำนอง (ซึ่งจำนองค้ำประกันโดยอสังหาริมทรัพย์) มีมากต่ำกว่าสำหรับหนี้บัตรเครดิต (ที่อาจจะมีหลักประกันที่ทุกคนหรือหลักประกันดังกล่าวจะถูกซ่อนได้ง่ายหรืออ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว) .

ผู้ว่ายืนยันว่าเจ้าหนี้การรักษาความปลอดภัยที่มีความสนใจสามารถทำลาย บริษัท ที่อยู่ในความยากลำบากทางการเงิน แต่ที่อาจยังคงฟื้นตัวและสามารถทำกำไรได้ ตลอดจนการรักษาความปลอดภัยอาจได้รับประสาทและการบังคับใช้การรักษาความปลอดภัยในช่วงต้นยึดสินทรัพย์ที่สำคัญและบังคับให้ บริษัท เข้าสู่ภาวะล้มละลาย นอกจากนี้หลักการทั่วไปส่วนใหญ่ที่แฝงเร้นล้มละลายคือการที่เจ้าหนี้ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน (หรือเท่าเทียมกัน) และช่วยให้เจ้าหนี้มีประกันการตั้งค่าให้สินทรัพย์บางอย่างพลิกพื้นฐานแนวความคิดของการล้มละลาย. [b]

การวิพากษ์วิจารณ์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้นของจุดรักษาความปลอดภัยให้เห็นว่า แม้ว่าเจ้าหนี้ไม่มีประกันจะได้รับน้อยลงในการล้มละลายของพวกเขาควรจะสามารถชดเชยโดยคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากเจ้าหนี้ไม่มีประกันจำนวนมากไม่สามารถที่จะปรับ "อัตราดอกเบี้ย" ของพวกเขาขึ้นไป (ผู้เรียกร้องละเมิดพนักงาน) บริษัท ได้รับประโยชน์จากอัตราที่ถูกกว่าของบัตรเครดิตเพื่อความเสียหายของเจ้าหนี้ที่ไม่ใช่การปรับเหล่านี้ นอกจากนี้ทำให้การถ่ายโอนค่าจากบุคคลเหล่านี้เพื่อให้ผู้กู้ที่มีความปลอดภัย. [3]

กฎหมายล้มละลายส่วนใหญ่จะช่วยให้หนี้ร่วมกันที่จะตั้งปิดที่ช่วยให้เจ้าหนี้บางราย (คนที่ยังเป็นหนี้เงินให้ลูกหนี้ล้มละลาย) ตำแหน่งก่อนให้สิทธิพิเศษ ในบางประเทศ "ไม่ได้ตั้งใจ" เจ้าหนี้ (เช่นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการละเมิด) นอกจากนี้ยังมีสถานะพิเศษในการเรียกร้องและสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ที่ต้องการมีสิทธิพิเศษสำหรับค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เจ้าหนี้จะสนใจความปลอดภัยการรักษาความปลอดภัยเพื่อบังคับใช้สิทธิของหลักประกันในกรณีที่ลูกหนี้ผิดสัญญาในภาระหน้าที่ ถ้าลูกหนี้ล้มละลาย เจ้าหนี้มีหลักประกันที่เจ้าหนี้จะเหนือกว่าในการกระจายสินค้ามีเหตุผลอื่น ๆคนที่บางครั้งใช้รักษาความปลอดภัย กว่าทรัพย์สิน ในข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นทั้งสองฝ่าย ( เช่น บริษัท ร่วมทุน ) บางครั้งผู้ถือหุ้นจะค่าใช้จ่ายแต่ละหุ้นของพวกเขาในความโปรดปรานของอื่นเป็นหลักประกันการชำระหนี้ของพวกเขาภายใต้ข้อตกลงเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ถือหุ้นอื่น ๆที่ขายหุ้นของตนให้กับพรรค [ 3 ชี้แจงจำเป็น ] บางครั้งมันก็ชี้ให้เห็นว่าธนาคารอาจจะลอยค่าใช้จ่ายกว่าบริษัทโดยวิธีการรักษาความปลอดภัยไม่มากดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสำหรับการชำระเงินของหนี้สินของตนเอง แต่เพราะเรื่องนี้ ยืนยันว่า ไม่มีอื่น ๆ ธนาคารจะให้ยืมแล้ว บริษัทฯ จึงจะอนุญาตให้ผูกขาดในความโปรดปรานของธนาคารถือลอยค่าใช้จ่ายในการให้กู้ยืมเงินเพื่อบริษัท [ ]นักเศรษฐศาสตร์บางคนถามประโยชน์ของผลประโยชน์การรักษาความปลอดภัยและหลักประกันการให้กู้ยืมโดยทั่วไป ผู้เสนอบอกว่ามีความสนใจลดความเสี่ยงสำหรับผู้ให้กู้ และจะช่วยให้ผู้ให้กู้จะเรียกดอกเบี้ยต่ำ เพื่อลดต้นทุนของเงินทุนสำหรับผู้กู้ ตัวอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง ( ซึ่งจำนองเป็นหลักประกันโดยทรัพย์สินจริง ) จะต่ำกว่าสำหรับหนี้บัตรเครดิต ( ที่อาจจะไม่มีหลักประกัน หรือหลักประกันทั้งหมด เช่น สามารถซ่อน หรืออ่อนค่าอย่างรวดเร็ว )detractors โต้เถียงว่า เจ้าหนี้ที่มีผลประโยชน์การรักษาความปลอดภัยสามารถทำลาย บริษัท ที่อยู่ในปัญหาทางการเงิน แต่ที่ยังอาจกู้คืนและการทำกำไร มีความปลอดภัย ตลอดจนอาจได้รับประสาทและการบังคับใช้การรักษาความปลอดภัยก่อน repossessing สินทรัพย์หลัก และบังคับให้บริษัทล้มละลาย เพิ่มเติมหลักการทั่วไปของระบบการล้มละลายที่สุดก็คือเจ้าหนี้ควรปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ( หรือปาริค้ำ ) และอนุญาตให้เจ้าหนี้มีประกันความพึงพอใจสินทรัพย์บาง upsets พื้นฐานแนวคิดของการล้มละลาย [ b ]ที่ซับซ้อนมากขึ้น วิพากษ์วิจารณ์จุดรักษาความปลอดภัยจากที่แม้ว่าจะได้รับน้อยกว่าในการล้มละลายเจ้าหนี้ไม่มีประกัน พวกเขาควรจะสามารถที่จะชดเชยโดยคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเจ้าหนี้ไม่มีประกันมากไม่สามารถปรับตน " อัตรา " ดอกเบี้ยขึ้น ( ละเมิดสิทธิพนักงาน ) บริษัทได้รับประโยชน์จากอัตราที่ถูกกว่าของสินเชื่อเพื่อความเสียหายของเหล่านี้ไม่ใช่การปรับหนี้ มันจึงโอนค่าจากบุคคลเหล่านี้ไปยังผู้กู้ที่มีความปลอดภัย [ 4 ]ส่วนใหญ่กฎหมายช่วยให้หนี้ทั้งสองฝ่ายจะตั้งปิดให้เจ้าหนี้บาง ( ผู้ที่ยังเป็นหนี้ลูกหนี้ล้มละลาย ) ก่อนพิเศษตำแหน่ง ในบางประเทศ " ไม่ได้ตั้งใจ " เจ้าหนี้ ( เช่นเหยื่อการละเมิด ) มีสถานะพิเศษและอื่น ๆด้านสิ่งแวดล้อมเรียกร้องสิทธิที่ต้องการพิเศษสำหรับการล้างข้อมูลต้นทุน