Unlike prosecutions of civilian bur

Unlike prosecutions of civilian bureaucrats, there is no explicit policy to make public the outcomes of prosecutions of military and defence officials. This is true for both cases involving and not involving corruption. Before the May 2014 military coup, as stated in the 2013 GI for Thailand, the National Anti-Corruption Commission (NACC) and the Public Sector Anti-Corruption Commission (PACC) monitored most corruption cases, as applied to politicians and civilian bureaucrats alike.

Virtually all military cases of corruption are overseen by military regulations and military courts. None of convictions by these courts are publicly available. The jurisdiction of each entity is clear and there are regulations for the NACC and PACC to avoid conflict as per the Corruption Prevention and Suppression Organic Act (1999). Information is only available about one defence official who was prosecuted by the NACC, but even in this case, no information is available about the results of his trial.

Since the May 2014 military coup, Thailand remains under the Martial Law Act of 1914. As such, Thailand is under martial law, with only military courts allowed to remain operational. Military courts do not make transparent the proceedings of cases while few military court decisions are made public, meaning that ultimately, judicial decisions involving corruption issues remain quite opaque in Thailand.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซึ่งแตกต่างจากการฟ้องร้องของข้าราชการพลเรือนไม่มีนโยบายที่ชัดเจนที่จะทำให้ผลลัพธ์ที่สาธารณะการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ทหารและการป้องกันประเทศ นี้เป็นจริงสำหรับทั้งสองกรณีที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ก่อนที่จะพฤษภาคม 2014 ทหารทำรัฐประหารตามที่ระบุไว้ในปี 2013 กูเกิลประเทศไทย, คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) และภาครัฐต่อต้านการทุจริตคณะกรรมการ (PACC) ตรวจสอบกรณีการทุจริตมากที่สุดในขณะที่นำไปใช้กับนักการเมืองและข้าราชการพลเรือนเหมือนกันแทบทุกกรณีทหารของการทุจริตมีการควบคุมดูแลโดยกฎระเบียบของทหารและศาลทหาร ไม่มีความเชื่อมั่นโดยศาลเหล่านี้เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณชน เขตอำนาจของแต่ละกิจการมีความชัดเจนและมีระเบียบ ป.ป.ช. และ PACC เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเป็นต่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (1999) ข้อมูลจะใช้ได้เฉพาะอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการป้องกันประเทศหนึ่งที่ถูกดำเนินคดีโดย ป.ป.ช. แต่แม้ในกรณีนี้ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลของการทดลองของเขา. ตั้งแต่พฤษภาคม 2014 ทหารทำรัฐประหารประเทศไทยยังคงอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกของปี 1914 ในฐานะที่เป็น เช่นประเทศไทยอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกมีสนามทหารได้รับอนุญาตเท่านั้นที่จะยังคงดำเนินงาน ศาลทหารไม่ทำให้โปร่งใสการดำเนินการในกรณีที่ในขณะที่ไม่กี่การตัดสินใจของศาลทหารจะทำให้ประชาชนมีความหมายว่าในท้ายที่สุดการตัดสินใจการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการทุจริตยังคงค่อนข้างทึบแสงในประเทศไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ซึ่งแตกต่างจากการฟ้องร้องของข้าราชการฝ่ายพลเรือน ไม่มีนโยบายที่ชัดเจน เพื่อให้ประชาชน ผลของการฟ้องร้องของเจ้าหน้าที่ทหารและการป้องกัน นี้เป็นจริงสำหรับทั้งคดีและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทุจริต ก่อนที่จะปีรัฐประหาร ตามที่ระบุไว้ ใน 2013 กีสําหรับประเทศไทยคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช. ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ ( " PACC " ) ตรวจสอบกรณีทุจริตมากที่สุด ใช้กับนักการเมืองและข้าราชการพลเรือนเหมือนกัน

แทบทุกกรณี การทุจริตเป็นทหารดูแลโดยกฎระเบียบของทหารและศาลทหาร ไม่มีความเชื่อมั่นโดยศาลเหล่านี้ต่อสาธารณะอำนาจของแต่ละองค์กรที่ชัดเจน และมีกฎเกณฑ์สำหรับปปช. " PACC " และเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งตามพระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริต อินทรีย์ ( 1999 ) ข้อมูลสามารถใช้ได้เรื่องหนึ่งที่ถูกดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่กลาโหมแทน แต่แม้ในกรณีนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการทดลองของเขา

ตั้งแต่พฤษภาคม 2014 ทหารรัฐประหารประเทศไทยยังคงอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ของ . เช่น ประเทศไทยอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก มีเพียงศาลทหารอนุญาตให้ยังคงปฏิบัติการอยู่ ศาลทหารไม่ทำให้โปร่งใสการดำเนินคดีกรณี ขณะที่ศาลทหารน้อยจะทำให้ประชาชน หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาคอร์รัปชั่นในที่สุด ตุลาการยังคงค่อนข้างทึบแสงในประเทศไทย