and increased deposition of fibrin

and increased deposition of fibrin within the vascular bed.
In our study, there was no significant effect of magnesium
sulfate on platelet count. This finding is similar to
Moghadas et al.’s preterm labor study. But, there was no
significant effect of magnesium on bleeding time.
The discrepancy might be resulted from the study designs
[22]. In addition to its antithrombotic effects, MgSO
4
decreases BP, abolishing vasoconstriction induced by
endothelin 1 and peroxides in placental vasculature [23].
We found in this study that magnesium sulfate decreases
each of the systolic and diastolic BP values. Thus, the
systemic use of magnesium sulfate in preeclampsia lowers
the resistance in the peripheral vascular bed. The decreasing
effect of magnesium sulfate on the resistance of the vascular
bed explains the statistical difference of creatinine values
between the pretreatment and post-treatment group.
Having applied 6 g of magnesium sulfate rather than 4 g
as a bolus dose, and checking the magnesium blood level
before it probably had reached the steady state may be
some limiting points in our study. However, the mean of
post-treatment magnesium sulfate value (3.22
+
0.63 mg/
dl) of our study was high enough for treatment.
In conclusion, this practice of administering magnesium
(a 6-g bolus followed by 2 g/h) to patients with severe
preeclampsia did not influence the platelet count at the end
of the second hour, but it prolongs the bleeding time in our
study. We speculated that this can be clinically important if
it is used for a long time or in high doses, in severe
preeclamptic or HELLP cases, worsening this condition
and causing possible complications on bleeding. Larger
studies inspecting dose and time effect of magnesium
infusion are needed to clarify the correlation between
magnesium use and clotting disorders in preeclamptic
cases.
Declaration of interest:
The authors report no conflicts
of interest. The authors alone are responsible for the
content and writing of the paper.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

และสะสมเพิ่มขึ้นของ fibrin ภายในเตียงของหลอดเลือดในการศึกษาของเรา มีไม่มีผลสำคัญของแมกนีเซียมซัลเฟตในการนับจำนวนเกล็ดเลือด ค้นหานี้จะคล้ายกับการศึกษาแรงงาน preterm Moghadas et al. แต่ มีไม่ลักษณะสำคัญของแมกนีเซียมในเลือดความขัดแย้งอาจเป็นผลมาจากการออกแบบการศึกษา[22] นอกจากลักษณะพิเศษของ antithrombotic, MgSO4ลด BP, abolishing vasoconstriction ที่เหนี่ยวนำโดยendothelin 1 และ peroxides ในรกลอก vasculature [23]เราพบในการศึกษานี้ว่าแมกนีเซียมซัลเฟตลดลงแต่ละค่า BP systolic และ diastolic ดังนั้น การใช้ระบบของแมกนีเซียมซัลเฟตใน preeclampsia ลดความต้านทานในการต่อพ่วงของหลอดเลือด ลดลงผลของแมกนีเซียมซัลเฟตความต้านทานของหลอดเลือดเตียงอธิบายความแตกต่างทางสถิติของค่า creatinineระหว่างกลุ่ม pretreatment และหลังการรักษามีใช้ 6 กรัมของแมกนีเซียมซัลเฟตมากกว่า 4 กรัมปริมาณ bolus และตรวจสอบระดับเลือดแมกนีเซียมก่อนมันคงมาถึง ท่อนอาจบางจุดจำกัดในการศึกษาของเรา อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ยของค่ารักษาหลังแมกนีเซียมซัลเฟต (3.22+0.63 มิลลิกรัม /dl) การศึกษาของเราไม่สูงพอที่จะรักษาในสรุป ปฏิบัตินี้จัดการแมกนีเซียม(bolus 6 g ตาม ด้วย 2 g/h) เพื่อผู้ป่วยที่มีความรุนแรงpreeclampsia ได้มีอิทธิพลต่อจำนวนเกล็ดเลือดที่สิ้นสุดที่สอง ชั่วโมง แต่ยืดเวลามีเลือดออกในของเราศึกษา เราคาดว่า นี้อาจมีความสำคัญทางคลินิกถ้ามันใช้เวลานาน หรือ ใน ปริมาณสูง รับpreeclamptic หรือ กรณี HELLP กำเริบเงื่อนไขนี้และก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ในเลือด มีขนาดใหญ่ศึกษาตรวจสอบปริมาณรังสีและเวลาผลของแมกนีเซียมคอนกรีตจะต้องชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างแมกนีเซียมใช้และแข็งตัวโรคใน preeclampticกรณีรายงานน่าสนใจ:ผู้เขียนรายงานไม่มีความขัดแย้งน่าสนใจ ผู้เขียนคนเดียวรับผิดชอบในการเนื้อหาและการเขียนของกระดาษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

และเพิ่มการสะสมของไฟบรินเตียงภายในหลอดเลือด.
ในการศึกษาของเราไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญของแมกนีเซียมซัลเฟตนับเกล็ดเลือด
การค้นพบนี้มีความคล้ายคลึงกับ
Moghadas et al. การศึกษาของแรงงานคลอดก่อนกำหนด แต่ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญของแมกนีเซียมในเวลาที่มีเลือดออก. คลาดเคลื่อนอาจจะเป็นผลมาจากการออกแบบการศึกษา[22] นอกเหนือไปจากผลกระทบลิ่มเลือดของ MgSO 4 ลดลง BP ยกเลิก vasoconstriction ที่เกิดจากลิเปอร์ออกไซด์ที่1 และในเส้นเลือดรก [23]. เราพบในการศึกษานี้ว่าแมกนีเซียมซัลเฟตลดลงแต่ละ systolic และ diastolic BP ค่า ดังนั้นการใช้ระบบของแมกนีเซียมซัลเฟตในครรภ์เป็นพิษลดความต้านทานในเตียงหลอดเลือดอุปกรณ์ต่อพ่วง ลดผลกระทบของแมกนีเซียมซัลเฟตความต้านทานของหลอดเลือดเตียงอธิบายถึงความแตกต่างทางสถิติของค่าcreatinine ระหว่างการปรับสภาพและกลุ่มหลังการรักษา. ต้องใช้ 6 กรัมแมกนีเซียมซัลเฟตมากกว่า 4 กรัมเป็นยาลูกกลอนและการตรวจสอบเลือดแมกนีเซียมระดับก่อนที่มันอาจมาถึงความมั่นคงของรัฐอาจจะมีบางจุดที่จำกัด ในการศึกษาของเรา แต่ค่าเฉลี่ยของค่าแมกนีเซียมซัลเฟตหลังการรักษา (3.22 + 0.63 มก. / ดล) จากการศึกษาของเราอยู่ในระดับสูงพอสำหรับการรักษา. สรุปได้ว่าการปฏิบัติของการบริหารแมกนีเซียมนี้(เป็นยาลูกกลอน 6 กรัมตามด้วย 2 กรัม / เอช) ที่จะ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงpreeclampsia ไม่ได้มีผลต่อการนับเกล็ดเลือดที่สิ้นสุดของสองชั่วโมงแต่มันยืดเวลามีเลือดออกในของเราการศึกษา เราคาดการณ์ว่านี้จะมีความสำคัญทางคลินิกถ้ามีการใช้งานมาเป็นเวลานานหรือในปริมาณที่สูงในอย่างรุนแรงกรณีหญิงครรภ์เป็นพิษหรือHELLP ถดถอยสภาพนี้และก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นไปได้ในการมีเลือดออก ขนาดใหญ่การศึกษาตรวจสอบปริมาณและเวลาที่ผลของแมกนีเซียมยาที่มีความจำเป็นที่จะชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างการใช้แมกนีเซียมและความผิดปกติของการแข็งตัวของหญิงครรภ์เป็นพิษในกรณี. ประกาศที่น่าสนใจ: ผู้เขียนรายงานความขัดแย้งไม่มีที่น่าสนใจ ผู้เขียนคนเดียวที่มีความรับผิดชอบในเนื้อหาและการเขียนของกระดาษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และเพิ่มการสะสมของไฟบรินภายในหลอดเลือด .
ในการศึกษาของเรา ไม่มีผลของแมกนีเซียมซัลเฟตต่อเกล็ดเลือด
. การค้นหานี้จะคล้ายกับ
moghadas et al . การศึกษาแรงงานคลอดก่อนกำหนด . แต่มันไม่มีผลของแมกนีเซียมในเลือด
.
ความแตกต่างอาจจะมาจากการศึกษาการออกแบบ
[ 22 ] นอกจากผลกระทบอื่นๆของแมกนีเซียมซัลเฟต 4

ลด / ยกเลิกการขาดที่ชักนำด้วย
endothelin 1 และ peroxides ในคนไทย vasculature [ 23 ] .
เราในการศึกษานี้พบว่าแมกนีเซียมซัลเฟตลดลงของ systolic และ diastolic
แต่ละสัปดาห์ค่า ดังนั้น การใช้แมกนีเซียมซัลเฟตในระบบ

preeclampsia ลดความต้านทานในหลอดเลือดที่ต่อพ่วง ลดลง
ผลกระทบของแมกนีเซียมซัลเฟตต่อความต้านทานของหลอดเลือด
อธิบายถึงความแตกต่างทางสถิติของค่า creatinine
ระหว่างการโพสต์การรักษากลุ่ม
มีใช้ 6 กรัมแมกนีเซียมซัลเฟตมากกว่า 4 G
เป็นปริมาณแมกนีเซียมในเลือดเพิ่ม และการตรวจสอบระดับ
ก่อนมันคงมาถึงสถานะคงตัวอาจ
บาง จำกัดจุดในการศึกษาของเรา อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ย
แมกนีเซียมซัลเฟต ( 3.22 ค่าการ 0.63 มก. / ดล.


) ของการศึกษาของเราคือสูงพอสำหรับการรักษา .
สรุป นี้ฝึกให้แมกนีเซียม
( 6-g ตำหนิติเตียนตามด้วย 2 g / H ) ผู้ป่วย preeclampsia รุนแรง
ไม่ได้มีผลต่อเกล็ดเลือดที่สิ้นสุด
ของชั่วโมงสอง แต่มันยืด เลือดออก เวลาในการศึกษาของเรา

เราสันนิษฐานว่ามันสามารถทางคลินิกที่สำคัญถ้า
มันใช้นานๆ หรือในปริมาณสูง ในรายที่รุนแรง หรือ hellp channel

ลดเงื่อนไขและก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นไปได้ในเลือดออก การศึกษาปริมาณและเวลาตรวจสอบใหญ่

) ผลของแมกนีเซียมจะต้องการที่จะชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่าง
ใช้แมกนีเซียมและการแข็งตัวของเลือดผิดปกติในกรณี channel

ประกาศความสนใจ : รายงานความขัดแย้งไม่น่าสนใจ

ผู้เขียน ผู้เขียนคนเดียวรับผิดชอบเนื้อหาและการเขียนกระดาษ