King Bhumibol Adulyadej (Rama IX) w

King Bhumibol Adulyadej (Rama IX) was born in Cambridge, Massachusetts, United States of America, on 5 December 1927, youngest son of Their Royal Highnesses Prince Mahidol of Songkla and the Princess Sri Nagarindra, the Princess Mother (formerly Miss Sangwal Talapat), and is the direct grandson of His Majesty King Chulalongkorn (Rama V) and Queen Savang. His Majesty the King had one older sister, Her Royal Highness Princess Galayani Vadhana of Naradhivas, and one older brother, His Majesty King Ananda Mahidol (Rama VIII). His Majesty became King of the Kingdom on Thailand on 9 June 1946. The Coronation Ceremony came later on 5 May 1950. His Majesty continued his education in Switzerland, and returned to Thailand in 1951. While in Switzerland, he met the aristocratic Mom Rajawongse Sirikit Kitiyakara, who has since become HM Queen Sirikit.
During that time, Siam had become Thailand, and was still unstable since the change from Absolute Monarchy to Constitutional Monarchy in 1932. The people of Thailand was still in need of a King who can guide the country into prosperity. The Thai Kingship was, and still is, seen as a strong pillar for the Thai people to hold on to, while there is still uncertainty in the political arena, even to this day. More than 60 years on, many can still remember His Majesty's Oath of Succession to the Throne :

"We will reign with righteousness for the benefit and happiness of the Siamese people."


And what the King has said, he has done, and continues to do.

.


His Majesty the King has been the guiding light during his more than 60 years as King of Thailand, making him currently the longest reigning monarch in the world. He has seen 27 Prime Ministers come and go, and is currently with the 28th Prime Minister of Thailand. These two dozens or so prime ministers represented different political parties, different thinkings, different view points, so it can be said that His Majesty has seen them all, as he went through so many changes, disruptions, political turmoils and more. As a constitutional monarch, he is above politics. His main focus has thus been trying to better the livelihood of the Thai people, especially in the rural area, and far-reaching corners of the kingdom. He has also played the perfect diplomat between two warring sides of the different governments and political opponents during the many political upheavals in the recent Thai history. With all the political turmoils, the King has stood by the Thai people, and act as a strong pillar of righteousness and guiding light for the people to hold on to.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (ร ๙) เกิดในเคมบริดจ์ แมสซาชูเซตส์ สหรัฐ อเมริกา 5 1927 ธันวาคม บุตรคนเล็กของพวกเขารอยัล Highnesses เจ้ามหิดลสงขลาและปริ๊นเซสศรีนครินทร์ สมเด็จย่า (ชื่อเดิมนางสาว Sangwal Talapat), และเป็นหลานโดยตรงของพระสมเด็จจุฬาลงกรณ์ (จุลจอมเกล้า) และซาวางควีน พระราชามีพี่หนึ่ง เธอพี่ Galayani เจ้าฟ้าหญิงของ Naradhivas พี่หนึ่ง สมเด็จพระอานันทมหิดล (พระราม VIII) พระเป็น กษัตริย์ของราชอาณาจักรไทยใน 9 1946 มิถุนายน พิธีราชาภิเษกมาในภายหลัง 5 1950 พฤษภาคม พระยังคงศึกษาในสวิตเซอร์แลนด์ และกลับสู่ประเทศไทยในปีค.ศ. ในขณะที่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เขาได้พบในรูปหม่อมมิลล์สิริกิติ์พงศ์ ที่มีตั้งแต่เป็น HM ควีนสิริกิติ์
ระหว่าง สยามได้กลายเป็น ไทย และยังไม่เสถียรเนื่องจากการเปลี่ยนจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์สู่ระบอบรัฐธรรมนูญในปี 1932 คนไทยยังต้องการกษัตริย์ที่สามารถนำประเทศไปเจริญได้ ราชย์ไทยได้ และยังคง อยู่ เห็นเป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งสำหรับคนไทยคงอยู่ ในขณะที่มียังคงความไม่แน่นอนในเวทีทางการเมือง แม้จนถึงทุกวันนี้ มากกว่า 60 ปี จำนวนมากยังสามารถจำหัวฯ สาบานของลำดับการสืบราชบัลลังก์:

"เราจะครอบครอง ด้วยความชอบธรรมประโยชน์และความสุขของชาวสยาม"


และกษัตริย์ได้พูด เขาทำ ยังไม่

.


พระราชาได้รับแสงแนวทาง ระหว่างเขา มากกว่า 60 ปีเป็นพระมหากษัตริย์ของไทย ทำให้เขาอยู่ในขณะนี้พระมหากษัตริย์ครองราชย์ยาวที่สุดในโลก เขาได้เห็นการมาของนายกรัฐมนตรีและไป 27 และอยู่กับนายกรัฐมนตรี 28 ของประเทศไทย หลายสิบสองเหล่านี้หรือเพื่อ ให้นายกรัฐมนตรีแสดงพรรคการเมืองต่าง ๆ ต่าง thinkings จุดมุมมองที่แตกต่างกัน ดังนั้น มันสามารถจะกล่าวว่า พระบาทของพระองค์ได้เห็นพวกเขาทั้งหมด เป็นเขาผ่านหลายแปลง หยุดชะงัก turmoils ทางการเมือง และอื่น ๆ เป็นพระมหากษัตริย์รัฐธรรมนูญ เขาจะอยู่เหนือการเมือง จึงได้ถูกกำลังของเขามุ่งดีดำรงชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบท และมุมผับของราชอาณาจักร เขายังได้เล่นทูตโกระหว่างสองด้าน warring ของรัฐบาลแตกต่างกันและคู่แข่งทางการเมืองระหว่าง upheavals ทางการเมืองมากมายในประวัติศาสตร์ไทยล่าสุด มีทั้งหมด turmoils การเมืองการ กษัตริย์ได้จัดยืน โดยคนไทย และพระราชบัญญัติเป็นเสาที่แข็งแรงความชอบธรรมและการนำไฟคนให้คงอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (พระรามเก้า) เกิดในเคมบริดจ์, แมสซาชูเซต, สหรัฐอเมริกา, 5 ธันวาคม 1927 ลูกชายคนสุดท้องของพวกเขารอยัล Highnesses สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลสงขลานครินทร์และปริ๊นเซศรีนครินทร์, เจ้าหญิงแม่ (ก่อนนางสาว Sangwal Talapat) และเป็นหลานชายโดยตรงของพระบาทสมเด็จจุฬาลงกรณ์ (จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) และราชินีนครหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีหนึ่งพี่สาวสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า Galayani วัฒนาของ Naradhivas และพี่ชายหนึ่งเก่าพระบาทสมเด็จพระอนันดามหิดล (รัชกาลที่ VIII) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นกษัตริย์ของราชอาณาจักรในประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 1946. พิธีฉัตรมงคลมาในภายหลัง 5 พฤษภาคม 1950. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างต่อเนื่องการศึกษาของเขาในสวิสและกลับถึงประเทศไทยในปี 1951. ในขณะที่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์เขาได้พบกับขุนนางหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ Kitiyakara ที่ได้กลายเป็น HM สิริกิติ์
ในช่วงเวลานั้นสยามได้กลายเป็นประเทศไทยและยังคงมีความไม่แน่นอนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงจากระบอบกษัตริย์ที่จะแอ๊บโซลูระบอบในปี 1932. คนไทยก็ยังคงอยู่ในความต้องการของพระมหากษัตริย์ที่สามารถแนะนำ ประเทศเข้าสู่ความเจริญรุ่งเรือง สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นและยังคงเป็นที่เห็นเป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งสำหรับคนไทยที่จะยึดมั่นในขณะที่ยังคงมีความไม่แน่นอนในเวทีทางการเมืองไปจนถึงวันนี้ กว่า 60 ปีที่ผ่านมาหลายคนยังคงจำได้สาบานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของสืบทอดราชบัลลังก์ที่: ". เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์และความสุขของคนไทย" และสิ่งที่พระมหากษัตริย์ได้กล่าวว่าเขาได้ทำและยังคง ทำ. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รับแสงนำทางในกว่า 60 ปีของเขาในฐานะพระมหากษัตริย์ไทยทำให้เขาอยู่ในขณะนี้พระมหากษัตริย์ครองราชย์ยาวที่สุดในโลก เขาได้เห็น 27 นายกรัฐมนตรีมาและไปและปัจจุบันกับ 28 นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ทั้งสองหลายสิบหรือเพื่อให้นายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนของพรรคการเมืองที่แตกต่างกันที่แตกต่างกัน thinkings จุดมุมมองที่แตกต่างกันดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เห็นพวกเขาทั้งหมดในขณะที่เขาเดินผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมายหยุดชะงัก turmoils ทางการเมืองและอื่น ๆ ในฐานะที่เป็นพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญเขาเป็นเหนือการเมือง จุดสนใจหลักของเขาได้รับจึงพยายามที่จะดีกว่าการทำมาหากินของคนไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทและมุมกว้างไกลของสหราชอาณาจักร นอกจากนี้เขายังมีการเล่นที่สมบูรณ์แบบนักการทูตระหว่างทั้งสองฝ่ายรบของรัฐบาลที่แตกต่างกันและฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองในช่วงวุ่นวายทางการเมืองจำนวนมากในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ผ่านมา กับทุก turmoils การเมืองพระมหากษัตริย์มีอยู่โดยคนไทยและทำหน้าที่เป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งของความชอบธรรมและแสงที่แนะนำสำหรับคนที่จะยึดมั่นใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ( รัชกาลที่ 9 ) เกิดใน Cambridge , Massachusetts , สหรัฐอเมริกาของอเมริกา ในวันที่ 5 ธันวาคม ปี ลูกชายคนเล็กของพระองค์หญิง สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลสงขลาและเจ้าหญิงศรีพระนาม องค์หญิงแม่ ( เดิมชื่อ นางสาว sangwal talapat ) และเป็นหลานโดยตรงของจุฬาลงกรณ์ ( พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ) และราชินีเข็ม . พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพี่สาวหนึ่งคนเสด็จฯ galayani ของ naradhivas และพี่ชายหนึ่งคน พระบาทสมเด็จพระอานันทมหิดล ( รัชกาลที่ 8 ) ฝ่าบาทจะเป็นกษัตริย์ของอาณาจักรไทยในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 . พระราชพิธีมาต่อมาเมื่อ 5 พฤษภาคม 1950 ฝ่าบาทยังคงการศึกษาของเขาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเดินทางกลับถึงประเทศไทย ใน 1951 . ขณะที่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เขาได้พบกับฐานันดรสิริกิติ์กิติยากรหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ได้กลายเป็นตั้งแต่หือสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
ตอนนั้น สยาม เป็น ไทย และยังไม่มั่นคง ถ้าเปลี่ยนจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์สู่ระบอบรัฐธรรมนูญใน 1932 . คนไทยยังต้องการกษัตริย์ที่สามารถนำประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย และยังเป็นเห็นเป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งสำหรับคนไทยที่จะถือไว้ ในขณะที่ยังคงมีความไม่แน่นอนในเวทีการเมือง แม้วันนี้ กว่า 60 ปีที่ผ่านมา หลายคนยังจำฝ่าบาทคำสาบานของบัลลังก์ :

" เราจะทรงครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม "


และสิ่งที่กษัตริย์ได้กล่าวว่า เขาได้ทำและยังคงทำ .





พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้รับแสงสว่างตลอดระยะเวลากว่า 60 ปีของเขาเป็นกษัตริย์ของไทยให้เขาในขณะนี้พระมหากษัตริย์ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก เขาได้เห็น 27 นายกรัฐมนตรีมาและไปและปัจจุบันกับนายกรัฐมนตรี ๒๘ ของประเทศไทย เหล่านี้สองโหลหรือดังนั้นนายกรัฐมนตรีแทนฝ่ายการเมืองต่างคิดไม่เหมือนกัน จุดมุมมองที่แตกต่างกันดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เห็นพวกเขาทั้งหมด เขาได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบ ดังนั้นหลาย turmoils ทางการเมืองและอื่น ๆ ในฐานะที่เป็นพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ เขาคือการเมืองข้างต้น เน้นหลักของเขาจึงพยายามจะดีขึ้น ความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะในชนบท และมุมกว้างขวางของอาณาจักรเขายังได้เล่นนักการทูตที่สมบูรณ์แบบระหว่างสองสงครามฝ่ายของรัฐบาลที่แตกต่างกันและฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองในช่วงสถานการณ์ทางการเมืองมากมายในประวัติศาสตร์ไทยล่าสุด กับการเมืองทั้งหมด turmoils ในหลวงทรงยืนโดยคนไทย และทำหน้าที่เป็นเสาหลักของความชอบธรรมและแข็งแรงแสงสว่างให้กับประชาชนเอาไว้