Methodism was itself a product of t

Methodism was itself a product of the industrial revolution in Britain, having been directed, in particular, to the emerging working class of the northern river valleys (Troeltsch 1949; War- ner 1930; cf. Weber 1958). Drawing on metaphors from the factory and the foundry, it spoke of individual salvation through arduous self-construction. And its emissaries to the slothful heathen-the "lazy Kafir," as Molema (1920:254) bluntly puts it-tried to make their stations living examples of productive enterprise. Here they demonstrated the utility of the plow and the pump, preached the virtues of sober discipline, and installed the clock and bell to mark out routines and ensure that time was well spent (Moffat 1842:339; cf. Wilson 1971:72; Oliver 1952:42). Here too, as the other side of their spiritual coin, they taught the value of the "varied treasures of commerce" (Mackenzie in Dachs [ed.] 1975:72) and the supreme enabling power of money (Warner 1930:125).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Methodism เป็นผลิตภัณฑ์ของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในสหราชอาณาจักร มีได้โดยตรง โดยเฉพาะ ชั้นแรงงานเกิดขึ้นของหุบเขาแม่น้ำเหนือ (Troeltsch 1949 ตัวเอง สงคราม-1930 อีกฝ่าย cf. 1958 เวเบอร์) มันวาดบนคำเปรียบเปรยจากโรงงานและการหล่อ พูดของรอดละก่อสร้างลำบากที่ตนเอง และของ emissaries ไป slothful โดย "ขี้เกียจ Kafir เท่าที่โผงผางทำ Molema (1920:254) ไอพยายามทำให้สถานีของตนตัวอย่างขององค์กรที่มีประสิทธิภาพ นี่แสดงอรรถประโยชน์ของการไถและปั๊ม ประกาศคุณค่าของวินัยการนัดพบ และติดตั้งนาฬิกาและระฆังเพื่อทำเครื่องหมายออกตามปกติ และให้เวลาที่ถูกใช้ไปด้วย (ทั้ง 1842:339; cf. 1971:72 วิลสัน 1952:42 โอลิเวอร์) ที่นี่มากเกินไป เป็นอีกด้านหนึ่งของเหรียญทางจิตวิญญาณของพวกเขา พวกเขาสอนค่าของ "สมบัติหลากหลายของ commerce" (ชื่อใน 1975:72 Dachs [ed.]) และฎีกาเปิดใช้พลังของเงิน (วอร์เนอร์ 1930:125)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ท๊เป็นตัวเองผลิตภัณฑ์ของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษที่ได้รับการกำกับการแสดงโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเรียนการทำงานที่เกิดขึ้นใหม่ของหุบเขาแม่น้ำภาคเหนือ (Troeltsch 1949; War- เนอร์ 1930; cf เลย Weber 1958) การวาดภาพบนอุปมาอุปมัยจากโรงงานและโรงหล่อก็พูดถึงความรอดของแต่ละบุคคลผ่านลำบากก่อสร้างด้วยตนเอง และทูตของตนเพื่อคนเกียจคร้านประชาชาติที่ "ขี้เกียจ Kafir" เป็น Molema (1920: 254) โผงผางทำให้มันพยายามที่จะทำให้สถานีตัวอย่างขององค์กรการผลิตที่อยู่อาศัย ที่นี่พวกเขาแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการไถและปั๊มเทศน์คุณธรรมของการมีวินัยมีสติและติดตั้งนาฬิกาและระฆังเพื่อทำเครื่องหมายออกจากการปฏิบัติและตรวจสอบเวลาที่ใช้จ่ายได้ดี (มอฟแฟต 1842: 339; cf เลยวิลสัน 1971: 72; โอลิเวอร์ 1952: 42) นี่เกินไปเป็นอีกด้านหนึ่งของเหรียญจิตวิญญาณของพวกเขาพวกเขาสอนค่าของ "สมบัติที่แตกต่างกันของการค้าว่า" (แม็คเคนซี่ใน Dachs 1975 [เอ็ด.]: 72) และการเปิดใช้อำนาจสูงสุดของเงิน (วอร์เนอร์ 1930: 125)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นิกายโรมันคาทอลิกคือตัวเองเป็นผลิตภัณฑ์ของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ ได้โดยตรง โดยเฉพาะการเกิดชนชั้นของแม่น้ำเหนือหุบเขา ( troeltsch 1949 ; สงคราม - เนอร์ 1930 ; โฆษณาเวเบอร์ 1958 ) การวาดภาพบนอุปลักษณ์จากโรงงาน และหล่อมันพูดเรื่องความรอดบุคคลผ่านการก่อสร้างตนเองลำบาก และคณะทูตเพื่อคนเกียจคร้านประชาชาติ " คาเฟอร์ขี้เกียจ " เป็น molema ( 1920:254 ) โผงผาง ทำให้มันพยายามทำให้สถานีชีวิตตัวอย่างขององค์กรที่มีประสิทธิภาพ ที่นี่พวกเขาแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการไถและปั๊ม , เทศนาคุณธรรม วินัย มีสติและติดตั้งนาฬิกากระดิ่งให้มาร์คออกตามปกติ และมั่นใจว่า เวลาก็ใช้ดี ( มอฟแฟต 1842:339 ; CF . วิลสัน 1971:72 ; โอลิเวอร์ 1952:42 ) ที่นี่ก็เป็นอีกด้านหนึ่งของเหรียญทางจิตวิญญาณของพวกเขา พวกเขาสอนค่าของ " สมบัติที่แตกต่างกันของการพาณิชย์ " ( แม็คเคนซี่ใน dachs [ เอ็ด ] 1975:72 ) และศาลฎีกาให้ อำนาจของเงิน ( วอร์เนอร์ 1930:125 )