The degradation of guanosine monoph

The degradation of guanosine monophosphate yields xanthine as an intermediate product which is then converted in the same way to uric acid with the formation of hydrogen peroxide.[12]

Eggs of sea urchin, shortly after fertilization by a sperm, produce hydrogen peroxide. It is then quickly dissociated to OH· radicals. The radicals serve as initiator of radical polymerization, which surrounds the eggs with a protective layer of polymer.[13]

The bombardier beetle has a device which allows it to shoot corrosive and foul-smelling bubbles at its enemies. The beetle produces and stores hydroquinone and hydrogen peroxide, in two separate reservoirs in the rear tip of its abdomen. When threatened, the beetle contracts muscles that force the two reactants through valved tubes into a mixing chamber containing water and a mixture of catalytic enzymes. When combined, the reactants undergo a violent exothermic chemical reaction, raising the temperature to near the boiling point of water. The boiling, foul-smelling liquid partially becomes a gas (flash evaporation) and is expelled through an outlet valve with a loud popping sound.[14][15][16]

Hydrogen peroxide is a signaling molecule of plant defense against pathogens.[17]

In firefly, oxidation of luciferins, which is catalyzed by luciferases, yields a peroxy compound 1,2-dioxetane. The dioxetane is unstable and decays spontaneously to carbon dioxide and excited ketones, which release excess energy by emitting light (bioluminescence)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การย่อยสลายของ Guanosine โมโนทำให้ xanthine เป็นผลิตภัณฑ์กลางที่ถูกแปลงแล้วในลักษณะเดียวกับกรดยูริคที่มีการก่อตัวของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์. [12] ไข่ของเม่นทะเลหลังจากการปฏิสนธิโดยตัวอสุจิ, การผลิตไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ แล้วมันจะแยกตัวออกอย่างรวดเร็วเพื่อ OH ·อนุมูล อนุมูลทำหน้าที่เป็นผู้ริเริ่มของพอลิเมอหัวรุนแรงซึ่งล้อมรอบไข่ที่มีชั้นป้องกันของพอลิเมอ. [13] ด้วงปืนใหญ่ที่มีอุปกรณ์ที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพกัดกร่อนและกลิ่นเหม็นฟองอากาศที่ศัตรูของมัน ด้วงผลิตและเก็บ hydroquinone และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในสองอ่างเก็บน้ำแยกจากกันในปลายด้านหลังของช่องท้องของมัน เมื่อถูกคุกคามด้วงสัญญาที่บังคับให้กล้ามเนื้อทั้งสองสารตั้งต้นผ่านท่อ valved เข้าไปในห้องผสมน้ำและมีส่วนผสมของเอนไซม์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา เมื่อรวมสารตั้งต้นผ่านปฏิกิริยาเคมีคายความร้อนรุนแรงเพิ่มอุณหภูมิใกล้จุดเดือดของน้ำ เดือดของเหลวกลิ่นเหม็นบางส่วนจะกลายเป็นก๊าซ (แฟลชระเหย) และถูกไล่ออกผ่านวาล์วทางออกด้วยเสียงดัง. [14] [15] [16] ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นโมเลกุลส่งสัญญาณของการป้องกันพืชกับเชื้อโรค. [ 17] ในหิ่งห้อย, ออกซิเดชันของ luciferins ซึ่งเป็นที่เร่งปฏิกิริยาด้วย luciferases, ทำให้สารประกอบ Peroxy 1,2-dioxetane dioxetane ไม่เสถียรและสลายตัวตามธรรมชาติคาร์บอนไดออกไซด์และตื่นเต้นคีโตนซึ่งปล่อยพลังงานส่วนเกินโดยการเปล่งแสง (ชีวิตเรืองแสง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การย่อยสลายของกัวโนซีนโมโนฟอสเฟตผลผลิตแซนทิน เป็นตัวกลาง ซึ่งสินค้าที่ถูกแปลงแล้วในลักษณะเดียวกันกับกรดยูริกที่มีการก่อตัวของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ [ 12 ]

ไข่หอยเม่น หลังจากปฏิสนธิโดยตัวอสุจิ ผลิต ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ มันรีบทางใจกับโอด้วยอนุมูลอิสระ อนุมูลเป็นผู้ริเริ่มของพอลิเมอไรเซชันหัวรุนแรงที่ล้อมรอบไข่ด้วยชั้นป้องกันของพอลิเมอร์ [ 13 ]

เดียร์ด้วงมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้การถ่ายภาพที่กัดกร่อนและเหม็นกลิ่นฟองที่ศัตรูของมัน ด้วงผลิตและร้านค้า ไฮโดรควิโนน และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยแยกเป็น 2 แหล่งในปลายด้านหลังของท้อง เมื่อถูกคุกคามสัญญาด้วงกล้ามเนื้อที่บังคับให้สองหลอดเป็น valved ตั้งต้นผ่านห้องผสมที่มีส่วนผสมของน้ำและปฏิกิริยาเอนไซม์ เมื่อรวม สารตั้งต้นผ่านปฏิกิริยาคายความร้อนที่รุนแรง การเพิ่มอุณหภูมิใกล้จุดเดือดของน้ำ การเดือดเหม็นกลิ่นน้ำบางส่วนกลายเป็นก๊าซ ( การระเหยแฟลช ) และจะถูกขับผ่านวาล์วเต้าเสียบกับเสียง popping . [ 14 ] [ 15 ] [ 16 ]

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นสัญญาณโมเลกุลของพืชป้องกันเชื้อโรค [ 17 ]

ในหิ่งห้อย ออกซิเดชันของ luciferins ซึ่งเร่งปฏิกิริยาด้วย luciferases ผลผลิต , สารประกอบเปอร์ออกซี 1,2-dioxetane .การ dioxetane ไม่แน่นอนและสลายตัวเองให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และตื่นเต้น คีโตน ซึ่งปลดปล่อยพลังงานส่วนเกินโดยการเปล่งแสง ( ไบโอลูมิเนสเซน )