20th century EditPre WWIISteam-powe

20th century Edit
Pre WWII
Steam-powered road vehicles, both cars and wagons, reached the peak of their development in the early 1930s with fast-steaming lightweight boilers and efficient engine designs. Internal combustion engines also developed greatly during WWI, becoming simpler to operate and more reliable. The development of the high-speed diesel engine from 1930 began to replace them for wagons, accelerated by tax changes in the UK making steam wagons uneconomic overnight. Although a few designers continued to advocate steam power, no significant developments in production steam cars took place after Doble in 1931.

Post-WWII
Whether steam cars will ever be reborn in later technological eras remains to be seen. Magazines such as Light Steam Power continued to describe them into the 1980s. The 1950s saw interest in steam-turbine cars powered by small nuclear reactors[citation needed] (this was also true of aircraft), but the dangers inherent in nuclear fission technology soon killed these ideas.

Electric automobiles Edit

German Flocken Elektrowagen of 1888, regarded as the first electric car of the world[15]
See also: History of the electric vehicle
In 1828, Ányos Jedlik, a Hungarian who invented an early type of electric motor, created a tiny model car powered by his new motor.[16] In 1834, Vermont blacksmith Thomas Davenport, the inventor of the first American DC electrical motor, installed his motor in a small model car, which he operated on a short circular electrified track.[17] In 1835, Professor Sibrandus Stratingh of Groningen, the Netherlands and his assistant Christopher Becker created a small-scale electrical car, powered by non-rechargeable primary cells.[18] In 1838, Scotsman Robert Davidson built an electric locomotive that attained a speed of 4 miles per hour (6 km/h). In England, a patent was granted in 1840 for the use of rail tracks as conductors of electric current, and similar American patents were issued to Lilley and Colten in 1847. Between 1832 and 1839 (the exact year is uncertain) Robert Anderson of Scotland invented the first crude electric carriage, powered by non-rechargeable primary cells.

The Flocken Elektrowagen of 1888 by German inventor Andreas Flocken is regarded as the first real electric car of the world.[15]

Electric cars enjoyed popularity between the late 19th century and early 20th century, when electricity was among the preferred methods for automobile propulsion, providing a level of comfort and ease of operation that could not be achieved by the gasoline cars of the time. Advances in internal combustion technology, especially the electric starter, soon rendered this advantage moot; the greater range of gasoline cars, quicker refueling times, and growing petroleum infrastructure, along with the mass production of gasoline vehicles by companies such as the Ford Motor Company, which reduced prices of gasoline cars to less than half that of equivalent electric cars, led to a decline in the use of electric propulsion, effectively removing it from important markets such as the United States by the 1930s. However, in recent years, increased concerns over the environmental impact of gasoline cars, higher gasoline prices, improvements in battery technology, and the prospect of peak oil, have brought about renewed interest in electric cars, which are perceived to be more environmentally friendly and cheaper to maintain and run, despite high initial costs, after a failed reappearance in the late-1990s.

Internal combustion engines Edit

1885-built Benz Patent-Motorwagen, the first car to go into production with an internal combustion engine

The second Marcus car of 1888 at the Technical Museum in Vienna
Early attempts at making and using internal combustion engines were hampered by the lack of suitable fuels, particularly liquids, therefore the earliest engines used gas mixtures.

Early experimenters used gases. In 1806, Swiss engineer François Isaac de Rivaz built an engine powered by internal combustion of a hydrogen and oxygen mixture. In 1826, Englishman Samuel Brown tested his hydrogen-fuelled internal combustion engine by using it to propel a vehicle up Shooter's Hill in south-east London. Belgian-born Etienne Lenoir's Hippomobile with a hydrogen-gas-fuelled one-cylinder internal combustion engine made a test drive from Paris to Joinville-le-Pont in 1860, covering some nine kilometres in about three hours.[19] A later version was propelled by coal gas. A Delamare-Deboutteville vehicle was patented and trialled in 1884.

About 1870, in Vienna, Austria (then the Austro-Hungarian Empire), inventor Siegfried Marcus put a liquid-fuelled internal combustion engine on a simple handcart which made him the first man to propel a vehicle by means of gasoline. Today, this car is known as "the first Marcus car". In 1883, Marcus secured a German patent for a low-voltage ignition system of the magneto type; this was his only automotive patent. This design was used for all f

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศตวรรษที่ 20 แก้ไขก่อนสงครามถนนไอน้ำขับเคลื่อนยานพาหนะ รถยนต์และรถบรรทุก ถึงจุดสูงสุดของพัฒนาการในช่วงทศวรรษ 1930 ต้นกับหม้อนึ่งอย่างรวดเร็วน้ำหนักเบาและการออกแบบเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ เครื่องยนต์สันดาปภายในยังพัฒนาอย่างมากในช่วงสงคราม ใช้งานง่าย และเชื่อถือได้ การพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลความเร็วสูงจาก 1930 เริ่มแทนที่สำหรับรถบรรทุก เร่ง โดยการเปลี่ยนแปลงภาษีในสหราชอาณาจักรที่ทำให้ไอน้ำที่ค้างคืนรถบรรทุกบุคคล แม้ว่านักออกแบบบางอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานไอน้ำ ไม่มีพัฒนาการที่สำคัญในการผลิตรถยนต์ไอน้ำเกิดขึ้นหลัง Doble ในปี 1931โพสต์สงครามว่ารถไอน้ำเคยจะเกิดใหม่ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีใหม่กว่ายังคงจะมองเห็นได้ นิตยสารต่าง ๆ เช่นแสงพลังไอน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่ออธิบายให้พวกเขาในปี 1980 ปี 1950 เห็นสนใจในกังหันไอน้ำรถยนต์ที่ขับเคลื่อน โดยเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก [แก้] (ก็จริงของเครื่องบิน), แต่อันตรายโดยธรรมชาติเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิชชันในเร็ว ๆ นี้ฆ่าความคิดเหล่านี้รถยนต์ไฟฟ้าแก้Elektrowagen Flocken เยอรมันค.ศ. 1888 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรกของโลก [15]ดูเพิ่ม: ประวัติของยานพาหนะไฟฟ้าบังเหียน Ányos Jedlik ฮังการีที่ชนิดของมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นต้นการคิดค้นสร้างรถรุ่นเล็ก ๆ ขับเคลื่อน ด้วยมอเตอร์ใหม่ของเขา ค.ศ.ในปี 1834 ช่างตีเหล็กเวอร์มอนท์ทอมัสดาเวนพอร์ท ผู้ประดิษฐ์แรกอเมริกัน DC มอเตอร์ไฟฟ้า ติดตั้งมอเตอร์ของเขาในรถรุ่นเล็ก ซึ่งเขาดำเนินการในการติดตามไฟฟ้าสั้นกลม [17] ในปีค.ศ. 1835 ศาสตราจารย์ Sibrandus Stratingh โกรนิงเกน เนเธอร์แลนด์ และผู้ช่วยของเขาคริสโตเฟอร์เบกเกอร์สร้างเล็กไฟฟ้ารถยนต์ ขับเคลื่อน โดยเซลล์หลักแบบ [18] ใน 1,838, Scotsman โรเบิร์ตเดวิดสันสร้างขึ้นหัวรถจักรไฟฟ้าที่ความเร็ว 4 ไมล์ต่อชั่วโมง (6 km/h) ในอังกฤษ จดสิทธิบัตรได้รับใน 1840 ใช้รางรถไฟเป็นตัวนำไฟฟ้าในปัจจุบัน และคล้ายอเมริกันสิทธิบัตรออกไปลิลลี่และ Colten ใน 1847 โรเบิร์ตแอนเดอร์สันของสกอตแลนด์คิดค้นแรกดิบไฟฟ้าขนส่ง ขับเคลื่อน โดยเซลล์หลักแบบระหว่าง 1832 1839 (ปีที่แน่นอนคือความไม่แน่นอน)Flocken Elektrowagen ปีค.ศ. 1888 โดยนักประดิษฐ์เยอรมัน Andreas Flocken ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจริงครั้งแรกของโลก [15]รถยนต์ไฟฟ้าเพลิดเพลินกับความนิยมระหว่างปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อไฟฟ้าเป็นหนึ่งในวิธีการที่ต้องการสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน ระดับของความสะดวกสบายและความสะดวกในการดำเนินการที่ไม่สามารถทำได้ โดยรถยนต์น้ำมันเบนซินของเวลา ความก้าวหน้าเทคโนโลยีสันดาปภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสตาร์ทไฟฟ้า แสดงเร็ว ๆ นี้สงสัยประโยชน์ รถเบนซิน เร็วเติมน้ำมันครั้ง และโครงสร้างพื้นฐานปิโตรเลียม พร้อมกับการผลิตมวลของรถถังน้ำมันโดยบริษัทฟอร์ดมอเตอร์ บริษัท ลดราคาน้ำมันเบนซินรถยนต์ลงครึ่งหนึ่งเช่นการเจริญเติบโตที่ได้หลากหลายยิ่งขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้าที่เทียบเท่า นำไปสู่การลดลงของการใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อน ได้อย่างมีประสิทธิภาพถอดออกจากตลาดสำคัญเช่นสหรัฐอเมริกาโดยปี 1930 อย่างไรก็ตาม ในปี ความกังวลเพิ่มขึ้นมากกว่าผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของรถเบนซิน ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น การปรับปรุงในเทคโนโลยีแบตเตอรี่ และโอกาสของน้ำมันสูงสุด ได้นำเกี่ยวกับดอกเบี้ย renewed ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีการรับรู้จะเพิ่มเติมสิ่งแวดล้อม และราคาถูกกว่าที่จะรักษา และเรียก ใช้ แม้ มีต้นทุนสูง หลังจากที่ reappearance ล้มเหลวในการปลายปี 1990เครื่องยนต์สันดาปภายในแก้สร้าง 1885 เบนซ์สิทธิบัตร-Motorwagen รถคันแรกไปสู่การผลิต ด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในมาร์คัสรถสองปีค.ศ. 1888 ที่พิพิธภัณฑ์ทางเทคนิคในเวียนนาต้นความพยายามที่ทำ และใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในถูกขัดขวาง โดยการขาดเชื้อเพลิงเหมาะสม ของเหลวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดังนั้น เครื่องยนต์ที่เร็วที่สุดใช้ผสมก๊าซวิจัยต้นใช้ก๊าซ ใน 1806 วิศวกรสวิสฟรังซัวไอแซคเดอ Rivaz สร้างเครื่องยนต์ที่ใช้พลังงานจากการสันดาปภายในของการผสมผสานระหว่างไฮโดรเจนและออกซิเจน ใน 1826 น้ำตาลซามูเอลชาวอังกฤษที่ทดสอบเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ผลักดันไฮโดรเจนของเขา โดยใช้ขับเคลื่อนยานพาหนะขึ้นมายิงของฮิลล์ในลอนดอนตะวันออกเฉียงใต้ เกิดเบลเยียม Etienne Lenoir Hippomobile กับเครื่องยนต์ผลักดันไฮโดรเจนก๊าซเผาไหม้ภายในกระบอกหนึ่งผู้ทดลองขับจากปารีสไปจอยน์วิลล์ปองต์ 1860 ครอบคลุมบางเก้ากิโลเมตรประมาณสามชั่วโมง [19] รุ่นที่ใหม่กว่าถูกขับเคลื่อน โดยก๊าซถ่านหิน รถ Delamare-Deboutteville ได้จดสิทธิบัตร และ trialled ใน 1884เกี่ยวกับ 1870 ในเวียนนา ออสเตรีย (แล้วจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี), มาร์คัสซีกฟรีดนักประดิษฐ์ทำเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ผลักดันของเหลว handcart ง่ายซึ่งทำให้เขาเป็นมนุษย์คนแรกที่ขับเคลื่อนรถยนต์โดยใช้น้ำมันเบนซิน วันนี้ รถคันนี้เรียกว่า "แรกมาร์คัสรถ" ลอน มาร์คัสปลอดภัยสิทธิบัตรระบบการจุดระเบิดแรงดันต่ำชนิด magneto เยอรมัน นี้เป็นสิทธิบัตรของเขายานยนต์เท่านั้น การออกแบบนี้ใช้สำหรับ f ทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศตวรรษที่ 20 การแก้ไข
ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง
ไอน้ำขับเคลื่อนยานพาหนะถนนทั้งรถยนต์และรถบรรทุกมาถึงจุดสูงสุดของการพัฒนาของพวกเขาในช่วงต้นทศวรรษที่ 1930 ด้วยหม้อไอน้ำที่มีน้ำหนักเบาอย่างรวดเร็วนึ่งและการออกแบบเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ เครื่องยนต์สันดาปภายในยังมีการพัฒนาอย่างมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่กลายเป็นง่ายต่อการทำงานและน่าเชื่อถือมากขึ้น การพัฒนาของเครื่องยนต์ดีเซลความเร็วสูงจาก 1930 เริ่มเปลี่ยนพวกเขาสำหรับรถบรรทุกเร่งโดยการเปลี่ยนแปลงภาษีในสหราชอาณาจักรทำให้เกวียนอบไอน้ำไม่ได้ผลในชั่วข้ามคืน แม้ว่าจะเป็นนักออกแบบไม่กี่อย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนพลังงานไอน้ำไม่มีการพัฒนาที่สำคัญในการผลิตรถยนต์อบไอน้ำเกิดขึ้นหลังจากเบล่ในปี 1931

โพสต์สงครามโลกครั้งที่สอง
ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์อบไอน้ำจะเคยเกิดใหม่ในยุคเทคโนโลยีในภายหลังคงที่จะเห็น นิตยสารต่าง ๆ เช่นเพาเวอร์เบาอบไอน้ำอย่างต่อเนื่องที่จะอธิบายให้พวกเขาเข้ามาในช่วงปี 1980 1950 เห็นความสนใจในรถยนต์ไอกังหันขับเคลื่อนโดยเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก [ต้องการอ้างอิง] (นี่คือความจริงของเครื่องบิน) แต่อันตรายที่อยู่ในเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในเร็ว ๆ นี้ฆ่าความคิดเหล่านี้.

รถยนต์ไฟฟ้าแก้ไข

เยอรมัน Flocken Elektrowagen 1888 ได้รับการยกย่อง เป็นรถยนต์ไฟฟ้าคนแรกของโลก [15]
ดูเพิ่มเติม: ประวัติของรถยนต์ไฟฟ้า
ใน 1828 Anyos Jedlik, ฮังการีที่คิดค้นประเภทแรกของมอเตอร์ไฟฟ้าสร้างรถรุ่นเล็กขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ใหม่ของเขา [16]. ใน 1,834 เวอร์มอนต์เหล็กโทมัสดาเวนพอร์ประดิษฐ์ของชาวอเมริกันคนแรกมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงที่ติดตั้งมอเตอร์ของเขาในรถรุ่นเล็ก ๆ ซึ่งเขาดำเนินการในการติดตามกอกกลมสั้น. [17] ในปี 1835 ศาสตราจารย์ Sibrandus Stratingh โกรนิงที่ ประเทศเนเธอร์แลนด์และผู้ช่วยของเขาคริสเบกเกอร์สร้างรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กโดยใช้พลังงานจากเซลล์หลักไม่ชาร์จ. [18] ในปี 1838 สกอตโรเบิร์ตเดวิดสันสร้างรถจักรไฟฟ้าที่บรรลุความเร็ว 4 ไมล์ต่อชั่วโมง (6 กิโลเมตร / เอช) . ในประเทศอังกฤษที่ได้รับสิทธิบัตรในปี 1840 สำหรับการใช้รถไฟเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าและสิทธิบัตรอเมริกันที่คล้ายกันออกไปลิลลี่และ Colten ใน 1847 ระหว่าง 1832 และ 1839 (ที่ปีที่แน่นอนคือความไม่แน่นอน) โรเบิร์ตเดอร์สันแห่งสกอตแลนด์คิดค้น ครั้งแรกที่สายการบินไฟฟ้าน้ำมันดิบขับเคลื่อนโดยเซลล์หลักไม่ชาร์จ.

Flocken Elektrowagen 1888 โดยนักประดิษฐ์ชาวเยอรมัน Andreas Flocken ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่รถยนต์ไฟฟ้าที่แท้จริงของโลก. [15]

รถยนต์ไฟฟ้าความสุขความนิยมระหว่างปลายศตวรรษที่ 19 และต้น ศตวรรษที่ 20 เมื่อไฟฟ้าเป็นหนึ่งในวิธีการที่แนะนำสำหรับการขับเคลื่อนรถยนต์ให้ระดับของความสะดวกสบายและความสะดวกในการดำเนินการที่ไม่สามารถทำได้โดยรถยนต์เบนซินของเวลา ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการเผาไหม้ภายในโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเริ่มต้นระบบไฟฟ้า, การแสดงผลในเร็ว ๆ นี้ความได้เปรียบนี้สงสัย; ช่วงที่มากขึ้นของรถยนต์เบนซินเร็วครั้งเติมน้ำมันและโครงสร้างพื้นฐานปิโตรเลียมที่เพิ่มมากขึ้นพร้อมกับการผลิตมวลของรถเบนซินโดย บริษัท เช่น บริษัท มอเตอร์ฟอร์ดซึ่งราคาที่ลดลงของรถยนต์เบนซินน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของรถยนต์ไฟฟ้าเทียบเท่านำ การลดลงของการใช้งานของเครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพลบออกจากตลาดที่สำคัญเช่นสหรัฐอเมริกาโดยช่วงทศวรรษที่ 1930 อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมาความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของรถยนต์เบนซินราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในการปรับปรุงเทคโนโลยีแบตเตอรี่และโอกาสของน้ำมันสูงสุดที่เพิ่มขึ้นได้นำเกี่ยวกับความสนใจในรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีการรับรู้ให้มากขึ้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและ ราคาถูกกว่าการรักษาและการทำงานแม้จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงหลังจากที่เกิดขึ้นอีกครั้งล้มเหลวในช่วงปลายปี 1990.

เครื่องยนต์สันดาปภายในแก้ไข

ปี 1885 ที่สร้างขึ้นเบนซ์สิทธิบัตร Motorwagen, รถคันแรกที่จะไปสู่การผลิตที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน

ที่สองรถมาร์คัส 1888 ที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงเวียนนา
แรกพยายามที่ทำและใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในถูกขัดขวางโดยขาดเชื้อเพลิงที่เหมาะสมโดยเฉพาะอย่างยิ่งของเหลวจึงเร็วเครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซผสมได้.

ขัดเคืองในช่วงต้นใช้ก๊าซ ในปี 1806 วิศวกรชาวสวิสFrançoisไอแซกเด Rivaz สร้างเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยการเผาไหม้ภายในของไฮโดรเจนและออกซิเจนผสม ในปี 1826 ชาวอังกฤษซามูเอลบราวน์ทดสอบเครื่องยนต์สันดาปของเขาไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงภายในโดยใช้มันเพื่อขับเคลื่อนยานพาหนะขึ้นมือปืนฮิลล์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน เบลเยียมเกิด Etienne Lenoir ของ Hippomobile กับหนึ่งกระบอกสูบเครื่องยนต์สันดาปภายในไฮโดรเจนก๊าซเป็นเชื้อเพลิงทำให้ไดรฟ์ทดสอบจากปารีสไปยัง Joinville-le-Pont ในปี 1860 ครอบคลุมบางเก้ากิโลเมตรในเวลาประมาณสามชั่วโมง. [19] รุ่นต่อมา ขับเคลื่อนด้วยก๊าซถ่านหิน รถ Delamare Deboutteville-ได้รับการจดสิทธิบัตรและ trialled ในปี 1884

เกี่ยวกับปี 1870 ในกรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย (แล้วจักรวรรดิออสเตรียฮังการี) ประดิษฐ์ซิกฟรีดมาร์คัสใส่เครื่องยนต์สันดาปภายในของเหลวเชื้อเพลิงในรถเข็นขนาดเล็กง่ายๆที่ทำให้เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ ขับเคลื่อนยานพาหนะโดยวิธีการของน้ำมันเบนซิน วันนี้รถคันนี้เป็นที่รู้จักกันว่า "รถมาร์คัสครั้งแรก" ใน 1,883 มาร์คัสปลอดภัยสิทธิบัตรเยอรมันสำหรับระบบจุดระเบิดแรงดันต่ำชนิดแม๊ก; นี้เป็นสิทธิบัตรยานยนต์ของเขาเท่านั้น การออกแบบนี้จะถูกนำมาใช้สำหรับทุก F

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศตวรรษที่ 20 แก้ไขก่อนสงครามโลกครั้งที่สองไอน้ำขับเคลื่อนยานพาหนะบนถนน ทั้งรถและเกวียนถึงจุดสูงสุดของการพัฒนาในทศวรรษ 1930 ที่มีน้ำหนักเบาและรวดเร็วหม้อนึ่งแบบเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ เครื่องยนต์สันดาปภายในยังได้พัฒนาอย่างมากในช่วงสงครามโลก เป็นง่ายต่อการใช้งานและเชื่อถือได้มากขึ้น การพัฒนาของเครื่องยนต์ดีเซลความเร็วสูงจาก 1930 เริ่มแทนที่พวกเขาสำหรับรถบรรทุก , เร่งโดยการเปลี่ยนแปลงภาษีใน UK ทำให้เกวียนไอน้ำ uneconomic ค้างคืน แม้ว่านักออกแบบไม่กี่อย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนพลังไอน้ำไม่พบการพัฒนาในการผลิตไอน้ำรถยนต์เกิดขึ้นหลังจาก doble ในปี 1931 .หลังสงครามโลกครั้งที่สองไม่ว่ารถไอน้ำจะเกิดในยุคที่เทคโนโลยีต่อมายังคงที่จะเห็น นิตยสารเช่นไฟไอน้ำพลังงานอย่างต่อเนื่องเพื่ออธิบายให้เป็นไฟต์ ปี 1950 ได้เห็นความสนใจในรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยกังหันไอน้ำขนาดเล็กเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ [ อ้างอิงที่จำเป็น ] ( อันนี้ก็จริงของเครื่องบิน แต่อันตรายที่แท้จริงในปฏิกิริยานิวเคลียร์เทคโนโลยีแล้วฆ่าความคิดเหล่านี้ไฟฟ้ารถยนต์ แก้ไขเยอรมัน flocken elektrowagen ของระดับนานาชาติ ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแรกของโลก [ 15 ]ดูเพิ่มเติม : ประวัติของรถยนต์ไฟฟ้าใน 1828 Á nyos , jedlik , ฮังการี ที่คิดค้นเป็นประเภทแรกของมอเตอร์ไฟฟ้า สร้างรถรุ่นเล็ก ๆที่ขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ใหม่ของเขา [ 16 ] ใน 1834 , Vermont ช่างตีเหล็ก Thomas Davenport , นักประดิษฐ์ของอเมริกันคนแรกที่ DC มอเตอร์ไฟฟ้า มอเตอร์แบบติดตั้งในรถยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งเขาทำการผ่าตัดสั้นกลมไฟฟ้าติดตาม [ 17 ] ในปี 1835 , ศาสตราจารย์ sibrandus stratingh ของ Groningen , เนเธอร์แลนด์ และผู้ช่วยของเขา คริสโตเฟอร์ จำนวนสร้างน้อย ไฟฟ้ารถยนต์ ขับเคลื่อนโดยการไม่ชาร์จเซลล์ [ 18 ] ในปี 1838 ขยิบ , โรเบิร์ตเดวิดสันสร้างหัวรถจักรไฟฟ้าที่บรรลุความเร็ว 4 ไมล์ต่อชั่วโมง ( 6 กิโลเมตร / ชั่วโมง ) ในอังกฤษ , สิทธิบัตรได้รับใน 1840 สำหรับใช้ทางรถไฟเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้า และสิทธิบัตรอเมริกันที่คล้ายกันได้รับและลิลลี่ colten ใน 1847 . และระหว่าง ค.ศ. 1828 1029 ( ปีแน่นอนคือไม่แน่นอน ) โรเบิร์ต แอนเดอร์สันของสกอตแลนด์ เป็นเจ้าแรกที่คิดค้นโดยไฟฟ้า รถม้า ขับเคลื่อนโดยการไม่ชาร์จเซลล์การ flocken elektrowagen ของนักประดิษฐ์ 1888 เยอรมันโดย Andreas flocken ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจริงแรกของโลก [ 15 ]รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมระหว่างปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อกระแสไฟฟ้าระหว่างวิธีที่ต้องการในการขับเคลื่อนรถยนต์ ให้ระดับของความสะดวกสบายและความสะดวกในการใช้งานที่ไม่สามารถทำได้โดยน้ำมันเบนซินรถยนต์ของเวลา ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการเผาไหม้ภายใน โดยเฉพาะไฟฟ้า เริ่มต้น แล้วให้ประโยชน์นี้ไม่สำคัญ ; มากกว่าช่วงของรถยนต์เบนซินเติมได้เร็วเท่า และเติบโตด้านปิโตรเลียม พร้อมกับการผลิตมวลของรถเบนซิน โดย บริษัท เช่น บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ซึ่งราคาที่ลดลงของรถยนต์เบนซินน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของรถยนต์ไฟฟ้า เทียบเท่า นำไปสู่การลดลงในการใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เอาออกจากตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา โดยช่วงทศวรรษที่ 1930 . อย่างไรก็ตาม ใน ปี ล่าสุด เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของรถยนต์เบนซิน , ราคาน้ํามันเบนซินที่สูงขึ้น , การปรับปรุงในเทคโนโลยีแบตเตอรี่ และโอกาสของน้ำมันสูงสุด ได้นำเรื่องการต่ออายุ ใน terest ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีการรับรู้ที่จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและราคาถูกเพื่อรักษา และวิ่ง แม้จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูง หลังจากล้มเหลวใน late-1990s ปรากฏตัว .เครื่องยนต์สันดาปภายใน แก้ไข1885 สร้างเบนซ์ motorwagen สิทธิบัตร , รถคันแรกที่จะไปสู่การผลิตที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน2 รถของมาร์คัส 1888 ที่พิพิธภัณฑ์ทางเทคนิคในเวียนนาต้นความพยายามในการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเป็น hampered โดยขาดเชื้อเพลิงที่เหมาะสมโดยเฉพาะอย่างยิ่งของเหลว ดังนั้น โดยเครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซผสม .ต้นผู้ทดลองใช้ก๊าซ ใน 1806 , สวิสเซอร์แลนด์ วิศวกร ฟรองซัวส์ ไอแซค เดอ rivaz สร้างเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยการเผาไหม้ภายในของไฮโดรเจนผสมกับออกซิเจน ใน 1826 อังกฤษซามูเอลสีน้ำตาล , ทดสอบเชื้อเพลิงไฮโดรเจนของเครื่องยนต์สันดาปภายในโดยการใช้มันเพื่อขับเคลื่อนรถขึ้นเนินเขาของมือปืนในตะวันออกเฉียงใต้ของลอนดอน เบลเยียมเกิดเป็นเทียน เลอนัวร์ hippomobile กับก๊าซไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงถังเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทำไดรฟ์ทดสอบจากปารีสไปยัง Joinville Le Pont ใน 1860 , ครอบคลุมบางเก้ากิโลเมตรประมาณ 3 ชั่วโมง [ 19 ] รุ่นต่อมาถูกขับเคลื่อนโดยก๊าซถ่านหิน เป็น delamare deboutteville ยานพาหนะถูกจดสิทธิบัตรและ trialled ในปี 1884 .เกี่ยวกับ 1870 ในเวียนนา , ออสเตรีย ( แล้ว austro ฮังการีจักรวรรดิ ) นักประดิษฐ์ Siegfried Marcus ใส่ของเหลวเชื้อเพลิงเครื่องยนต์สันดาปภายในที่เรียบง่าย รถเข็นขนาดเล็กซึ่งทำให้เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่จะขับเคลื่อนรถโดยวิธีการของเครื่องยนต์เบนซิน วันนี้รถคันนี้เรียกว่า " ครั้งแรกมาร์คัสรถ " ใน 1883 , มาร์คัส ความปลอดภัยสิทธิบัตรเยอรมันสำหรับแรงดันระบบการจุดระเบิดของประเภทแมกนีโต ; นี้เป็นสิทธิบัตรเครื่องยนต์ของเขาเท่านั้น การออกแบบนี้ใช้ F ทั้งหมด