ณ บ้านหลังหนึ่ง ครอบครัวนั้นประกอบไปด้วย พ่อเลี้ยง แม่ ลูกชาย และลูกสาว( อายุ12ปี ) พ่อเลี้ยงมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ส่วนแม่ทำอาชีพค้าขาย เพื่อที่จะส่งลูกสาวและลูกชายได้เรียนหนังสือ ณ บ้านเช่าหลังน้อยหลังหนึ่ง
พ่อ : นี่แม่ วันนี้พ่อกลับดึกหน่อยนะ
แม่ : ทำไมหละจ๊ะพี่ พ่อ : อย่าถามเยอะ รำคาญ!!
แม่ : จ๊ะพี่ ลูกสาวก้ได้แต่แอบฟังพ่อกับแม่คุยกันภายในห้องนอน
แม่ : แจ่มเอ้ย แจ่ม ( ลูกสาว ) แม่ร้องเรียกลูกสาวจากหน้าบ้าน
แจ่ม : จ้าแม่ แม่ : วันนี้เอ็งอยู่บ้านนะ แม่จะออกไปขายข้าวแกงที่ตลาด ถ้าไอ่เอ็ม (ลูกชาย) กลับมาบอกให้มันทำความสะอาดบ้านเราด้วยนะ แจ่ม : จ๊ะแม่
ตกเย็น
แจ่ม : อ้าวพี่เอ็ม กลับมาแล้วหรอ กลิ่นเหล้าหึ่งเชียว
เอ็ม : มึงไม่ต้องมายุ่งกับกู ละอย่าแอบไปฟ้องพ่อกับแม่หละว่ากูไปกินเหล้ามา
แจ่ม : ทำไมหละจ๊ะ
เอ็ม : มึงเลิกถามได้ละ เดี๋ยวกูจะไปร้านเกมส์ต่อ
แจ่ม : แต่แม่บอกให้พี่ทำความสะอาดบ้านนะจ๊ะ ไม่ให้ไปไหน
เอ็ม : มึงก้ทำแทนกูที.. มึงมีเงินให้ยืมไปใช้หน่อยมั้ย กูจะไปร้านเกมส์ แจ่ม : ไม่มีเลยจ๊ะ
เอ็ม : มึงอย่าโกหกกู กูเห็นมึงเก็บเงินไว้ในกระปุกออมสิน จากนั้นเอ็มก็ไปยังห้องนอนของน้องสาวและนำเงินของน้องสาวที่เก็บไว้ไปยังร้านเกมส์
แจ่ม : พี่จ๋า อย่าเอาไปเลย
เอ็ม : มึงอย่าฟ้องแม่นะ ไม่งั้นมึงเจ็บตัวแน่ ตกค่ำ..
พ่อ : มีใครอยู่บ้างมั้ยวะ ทำไมบ้านมืดจัง พ่อกลับบ้านมาด้วยความเมา..
แจ่มเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำเพียงลำพังในห้องนอน พ่อจึงเดินเข้าไปในห้องนอน เห็นลูกสาวนอนอยู่จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงพยายามปลุกปล้ำลูกสาว
พ่อ : มึงนี่มันสวยจริงๆเลยนังแจ่ม แจ่มลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ
แจ่ม : อย่าทำอะไรหนูเลยนะพ่อ... ช่วยด้วยค่ะ ช่วยหนูด้วยยย
เสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือของแจ่มดังมากจึงทำให้เพื่อนบ้านวิ่งเข้ามาช่วย
เพื่อนบ้าน : เห้ย!! มึงจะทำอะไรลูกมึงวะ หลังจากนั้นพ่อของแจ่มก็ถูกชาวบ้านรุมกระทืบและแจ้งความจับพ่อของแจ่ม ประจวบกับแม่ของแจ่มและพี่ชายของแจ่มกลับมาบ้าน
แม่ : เกิดอะไรขึ้นแจ่ม แจ่มร้องไห้ด้วยความตกใจและกลัว แม่ : เกิดอะไรขึ้นบอกที ทำไมสามีฉันถึงถูกจับ
เพื่อนบ้าน : ก็ผัวเอ็งหนะสิ จะข่มขืนนังแจ่มมัน
แจ่ม : แม่จ๋าา แจ่มกลัว แม่ : แม่อยู่ตรงนี้แล้วนะลูก อย่ากลัวไปเลย แม่ขอโทษนะที่ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว
เอ็ม : แจ่มพี่ก็ขอโทษเหมือนกันนะที่ปล่อยให้แกอยู่เพียงลำพัง
วันต่อมา แม่จึงพาแจ่มไปพบนักสังคมฯ เพื่อขอคำปรึกษา
นักสังคม : สวัสดีค่ะ เชิญนั่งก่อนค่ะ
แม่ : ค่ะ ขอบคุณค่ะ
แจ่ม : ขอบคุณค่ะ
นักสังคม : วันนี้คุณมีความกังวลในเรื่องใดคะพอจะเล่าให้ดิฉันฟังได้ไหมคะ
แม่ : คือลูกสาวดิฉัน ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน แต่สภาพจิตใจลูกสาวของดิฉันไม่ดีขึ้นเลยค่ะ ลูกสาวของดิฉันมีความหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ
นักสังคม : ค่ะคุณแม่ ตอนนี้คุณแม่ใจเย็นๆก่อนนะคะ.. สวัสดีจ่ะหนู ชื่ออะไรเอ่ย พี่เป็นนักสังคมสงเคราะห์นะคะ พอจะบอกชื่อของหนูให้พี่ฟังได้ไหม
แจ่ม : หนูชื่อแจ่มค่ะ
นักสังคม : พอจะเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้พี่ฟังได้ไหมคะ
แจ่มได้แต่หลบสายตาและร้องไห้ออกมา
นักสังคม : ไม่เป็นไรนะคะ ถ้าหนูยังไม่พร้อมที่จะเล่าให้พี่ฟัง
แม่ : ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ
นักสังคม : ตอนนี้คุณแม่อย่าเป็นกังวลไปนะคะ แจ่มยังคงอยู่ในอาการหวาดกลัว จากเหตุการณ์ที่คุณแม่เล่ามา ตอนนี้มีกฎหมายคุ้มครองสิทธิของลูก และปกป้องจากการถูกเอาเปรียบ หรือทำร้าย ในกรณีที่ว่า ผู้ใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้องของเด็กหรือไม่ ถ้ากระทำความผิดต่อเด็ก จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย เช่น- การข่มขืนกระทำชำเรา อนาจารเด็ก อายุไม่เกิน 15 ปี บทลงโทษคือการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ตามมาตรา 277ค่ะคุณแม่ ทางที่ดีคุณแม้ควรไปดำเนินคดีไว้นะคะ
แม่ : ขอบคุณมากๆนะคะ ที่ให้คำปรึกษาให้ครอบครัวดิฉัน
นักสังคม : เรื่องที่คุณเล่าให้ฉันฟังในวันนี้ ดิฉันสัญญานะคะจะเก็บไว้เป็นความลับ คุณแม่อย่ากังวลเลยนะคะ ดิฉันยินดีให้คำปรึกษาแก่ทุกคนเสมอค่ะ
แม่ : ขอบคุณมากๆนะคะ
นักสังคม : ด้วยความยินดีค่ะ