We separated the patients into two

We separated the patients into two groups by indication for RDS: Group I (HT alone, n = 102) and group II (RF alone or with HT, n = 112). When group I was compared with group II, there were significant differences in gender (50% vs 67% male; P = .013), age (50.9 ± 18.5 vs 60.0 ± 14.8 years; P < .001), mean arterial pressure (103.1 ± 18.8 vs 85.7 ± 17.0 mm Hg; P < .001), and creatinine (0.95 ± 0.35 vs 2.25 ± 1.07 mg/dL; P < .001). In group I patients, 86 (84.3%) had normal parenchymal resistance, whereas in group II patients, 68 (60.7%) had abnormally increased parenchymal resistance unilaterally or bilaterally (P < .001). Unilateral or bilateral renal artery stenosis was identified in six group I patients and in three group II patients (P = .315). Evaluation of group II patients revealed a diagnosis of decompensated congestive heart failure (CHF) and the presence of unilateral or bilateral increased parenchymal resistance in 27 of 68 (39.7%) vs nine of 44 (20.4%) with CHF and normal parenchymal resistance. One renal artery angioplasty was performed in a patient with unilateral renal artery stenosis and fibromuscular dysplasia.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราแบ่งผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่ม โดยข้อบ่งชี้สำหรับ RDS: กลุ่มฉัน (เอชทีเพียงอย่างเดียว n = 102) และกลุ่มที่สอง (RF คนเดียว หรือ กับเอชที n = 112) เมื่อฉันถูกเปรียบเทียบกับกลุ่มกลุ่ม II มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในเพศ (เพศชาย 67% เทียบกับ 50% P =.013), อายุ (50.9 ± 18.5 vs 60.0 ± 14.8 ปี P < .001), หมายถึง ความดันต้ว (103.1 ± 18.8 เทียบกับ 85.7 ± 17.0 mm Hg P < .001), และ creatinine (0.95 ± 0.35 เทียบกับ 2.25 ± 1.07 มิลลิกรัม/dL P < .001). ในกลุ่มผมผู้ป่วย 86 (84.3%) มีความต้านทาน parenchymal ปกติ ในขณะที่ในผู้ป่วยกลุ่ม II, 68 (60.7%) ได้อย่างผิดปกติเพิ่มความต้านทาน parenchymal unilaterally หรือ bilaterally (P < .001). ระบุฝ่าย หรือทวิภาคีไตหลอดเลือดแดงตีบใน 6 กลุ่มฉันผู้ป่วยและ ในสามกลุ่ม II ผู้ป่วย (P =.315). การประเมินผู้ป่วยกลุ่ม II เปิดเผยการวินิจฉัย decompensated congestive หัวใจล้มเหลว (CHF) และสถานะของฝ่าย หรือทวิภาคีเพิ่ม parenchymal ต้านทานใน 27 68 (39.7%) เทียบกับเก้าของ 44 (ยัง 20.4%) กับ CHF และต้านทาน parenchymal ปกติ Angioplasty หลอดเลือดแดงไตหนึ่งที่ดำเนินการในผู้ป่วยกับฝ่ายไตหลอดเลือดแดงตีบและ fibromuscular แบบไม่สามารถ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราแยกผู้ป่วยออกเป็นสองกลุ่มโดยมีข้อบ่งชี้สำหรับ RDS: กลุ่ม (HT คนเดียว, n = 102) และกลุ่มที่สอง (RF คนเดียวหรือกับ HT, n = 112) เมื่อกลุ่มที่ฉันถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มที่สองมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในทางเพศ (50% เทียบกับ 67% เพศชาย; p = 0.013) อายุ (50.9 ± 18.5 vs 60.0 ± 14.8 ปี; p <.001) หมายถึงความดันโลหิต ( 103.1 ± 18.8 vs 85.7 ± 17.0 มิลลิเมตรปรอท; p <0.001) และ creatinine (0.95 ± 0.35 vs 2.25 ± 1.07 mg / dL; p <0.001) ในกลุ่มผู้ป่วยที่ฉัน, 86 (84.3%) มีความต้านทาน parenchymal ปกติในขณะที่กลุ่มผู้ป่วยครั้งที่สอง 68 (60.7%) ได้เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติต้านทาน parenchymal หงส์หรือทั้งสองข้าง (p <0.001) ข้างเดียวหรือทวิภาคีตีบหลอดเลือดแดงไตถูกระบุในหกผู้ป่วยกลุ่มที่หนึ่งและสามในกลุ่มผู้ป่วยที่สอง (P = 0.315) การประเมินผลของผู้ป่วยกลุ่มที่สองพบว่าการวินิจฉัยของ decompensated หัวใจล้มเหลว (CHF) และการปรากฏตัวของฝ่ายเดียวหรือทวิภาคีต้านทาน parenchymal เพิ่มขึ้นใน 27 จาก 68 (39.7%) vs เก้า 44 (20.4%) มี CHF และต้านทาน parenchymal ปกติ หนึ่ง angioplasty หลอดเลือดแดงไตได้รับการดำเนินการในผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดแดงตีบเดียวไตและ dysplasia Fibromuscular

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราแบ่งผู้ป่วยออกเป็นสองกลุ่ม โดยบ่งชี้ RDS : กลุ่มผม ( HT คนเดียว , N รึเปล่า = 102 ) และกลุ่มที่ 2 ( RF คนเดียวหรือกับ HT , N รึเปล่า = 112 ) เมื่อกลุ่มผม เทียบ กับ กลุ่มที่ 2 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในเรื่องเพศ ( 50% vs 67 % เพศชาย ; P รึเปล่า = . 013 ) , อายุ ( 50.9  ± 18.5 vs 60.0  ± 14.8  ปี  ; p < . 001 ) ความดันเลือดแดงเฉลี่ย ( 103.1  ± 18.8 vs 15  ± 17.0 อะไร mm Hg ;   P < . 001 ) และครี ( 0.95  ± 035 vs 2.25  ± 1.07    mg / dl ; P < . 001 ) ในกลุ่มผู้ป่วย 86 ( 84.3 % ) มีความต้านทาน parenchymal ปกติ ส่วนในผู้ป่วยกลุ่มที่ 2 , 68 ( 60.7 % ) มีมวลเพิ่มขึ้น parenchymal ต้านทานเพียงฝ่ายเดียว หรือทั้งสองข้าง ( P รึเปล่า < . 001 ) ฝ่ายเดียวหรือทวิภาคีลัตเวียถูกระบุใน 6 กลุ่มผู้ป่วยและผู้ป่วย 3 กลุ่มที่ 2 ( p รึเปล่า = . 315 )การประเมินผลของผู้ป่วยกลุ่มที่ 2 พบว่า การวินิจฉัยไม่สามารถชดเชยได้หัวใจล้มเหลว ( CHF ) และการปรากฏตัวของฝ่ายเดียวหรือทวิภาคี เพิ่มความต้านทานใน parenchymal 27 68 ( 39.7 % ) VS เก้า 44 ( 20.4 เปอร์เซ็นต์ ) parenchymal CHF และความต้านทานปกติ หนึ่งในหลอดเลือดไตส่วนในการปฏิบัติกับผู้ป่วยหลอดเลือดแดงไตตีบและฝ่ายเดียว fibromuscular dysplasia .