Tagasaste is suited to sandy, well-

Tagasaste is suited to sandy, well-drained soils of pH range 4–7. On deep, freely drained soils its roots can extend down to at least 10 metres. Any physical or chemical barrier in the soil that restricts root growth will reduce the productivity and survival of tagasaste. Cultivars from arid sandy areas are very susceptible to root rot fungus on poorly drained soils, specifically Fusarium, Pythium and Rhizotona.[2] It will tolerate winter temperatures as low as −9 °C, but cultivars exist that can handle winter temperatures down to minus 15°C as in Orange, Eastern Australia.[3] Tagasaste leaves will be burnt by frost and seedlings can be killed at temperatures below 0 °C. Growth of mature trees will slow at winter temperatures below 20 °C. Tagasaste can tolerate temperatures up to 50 °C, but above 36 °C leaves close up from stress. Tagasaste flowers during the early rainy season, typically June to October in Australia, New Zealand and East Africa.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Tagasaste เหมาะกับดินเนื้อปูนทราย นยกของช่วง pH 4-7 ในลึก อิสระระบายออกดินเนื้อปูนรากของมันสามารถขยายลงไป 10 เมตร อุปสรรคใด ๆ ทางกายภาพ หรือทางเคมีในดินที่จำกัดการเจริญเติบโตของรากจะลดประสิทธิภาพและความอยู่รอดของ tagasaste พันธุ์จากพื้นที่แห้งแล้งทรายมีมากความไวต่อเชื้อรา rot รากในดินเนื้อปูนระบายน้ำไม่ดี เฉพาะ Fusarium ปริมาณเชื้อ และ Rhizotona [2] มันจะทนหนาวที่อุณหภูมิต่ำเป็น −9 ° C แต่พันธุ์ที่มีอยู่สามารถจัดการอุณหภูมิหนาวลงถึงลบ 15 องศาเซลเซียสในส้ม ออสเตรเลียตะวันออก [3] ใบไม้ Tagasaste จะถูกเผา โดยน้ำแข็ง และกล้าไม้สามารถถูกฆ่าได้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส เจริญเติบโตของต้นไม้ที่เติบโตจะช้าลงในฤดูหนาวอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส Tagasaste สามารถทนอุณหภูมิขึ้น ถึง 50 ° C แต่ เหนือ 36 ° C ใบปิดจากความเครียด ดอกไม้ Tagasaste ในช่วงต้นฤดูฝน โดยทั่วไปเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาตะวันออก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Tagasaste เหมาะกับทรายดินระบายน้ำดีในช่วงที่พีเอช 4-7 เมื่อวันที่ลึกดินระบายน้ำได้อย่างอิสระรากของมันสามารถขยายลงไปอย่างน้อย 10 เมตร ใดกีดขวางทางกายภาพหรือสารเคมีในดินที่ จำกัด การเจริญเติบโตของรากจะช่วยลดการผลิตและการอยู่รอดของ tagasaste พันธุ์จากพื้นที่ทรายแห้งแล้งมีความอ่อนไหวมากที่จะเชื้อราโรครากเน่าในดินระบายน้ำไม่ดีโดยเฉพาะเชื้อรา Fusarium, Pythium และ Rhizotona. [2] มันจะทนต่ออุณหภูมิในช่วงฤดู​​หนาวที่ต่ำเป็น -9 ° C แต่สายพันธุ์ที่มีอยู่ที่สามารถจัดการกับฤดูหนาวอุณหภูมิลงไป ลบ 15 องศาเซลเซียสในขณะที่ออเรนจ์ตะวันออกออสเตรเลีย. [3] ใบ Tagasaste จะถูกเผาโดยน้ำค้างแข็งและต้นกล้าจะถูกฆ่าตายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส การเจริญเติบโตของต้นไม้ใหญ่จะชะลอตัวในช่วงฤดู​​หนาวที่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส Tagasaste สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 50 องศาเซลเซียส แต่เหนือ 36 ° C ใบปิดขึ้นจากความเครียด ดอกไม้ Tagasaste ในช่วงฤดู​​ต้นฝนตกมักจะมิถุนายน-ตุลาคมในออสเตรเลียนิวซีแลนด์และแอฟริกาตะวันออก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

tagasaste เหมาะกับทราย ดีเนื้อดินช่วง pH 4 – 7 ลึก , อิสระเนื้อดินที่รากของมันสามารถขยายลงอย่างน้อย 10 เมตร สิ่งกีดขวางทางกายภาพหรือสารเคมีใด ๆ ในดินที่จำกัดการเจริญเติบโตของรากจะลดประสิทธิภาพ และความอยู่รอดของ tagasaste . สายพันธุ์และแซนดี้ พื้นที่มีความไวต่อเชื้อราโรครากเน่าในงานเนื้อดิน โดยเฉพาะ Fusarium ,และที่ rhizotona [ 2 ] จะทนต่ออุณหภูมิในฤดูหนาวเป็นต่ำเป็น− 9 ° C แต่พันธุ์ที่มีอยู่สามารถจัดการกับฤดูหนาวอุณหภูมิลดลงถึงลบ 15 °องศาเซลเซียสในออเรนจ์ , ออสเตรเลียตะวันออก [ 3 ] tagasaste ใบจะไหม้ โดยฟรอสต์และต้นกล้าสามารถฆ่าที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศา การเจริญเติบโตของ ต้นไม้ที่ผู้ใหญ่จะชะลอตัวในฤดูหนาวอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาtagasaste สามารถทนอุณหภูมิสูงถึง 50 องศา C แต่เหนือ 36 ° C ใบปิดขึ้นจากความเครียด tagasaste ออกดอกช่วงฤดูฝน มิถุนายน - ตุลาคม โดยทั่วไปในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาตะวันออก