James MadisonJames Madison was born

James Madison
James Madison was born on March 16, 1751 in King George County, Virginia. He graduated from Princeton University at the age of 20 in 1771. His political career began soon after as he served in the Virginia Constitutional Convention in 1776, and in 1780, as a delegate to the Second Continental Congress. Madison served as the chief recorder at the Constitutional Convention in 1787. In 1789, Madison was elected to the House of Representatives, where he helped draft The Bill of Rights and fought against passage of the Alien and Sedition Acts. Madison married Dolley Payne Todd in 1794. He helped found the Democratic Party and was chosen as Thomas Jefferson's Secretary of State in 1801.

Madison was elected as America's fourth president in 1808. George Clinton was appointed vice president but died in office in 1812. Madison's first term was plagued by tensions with Great Britain and his foreign policy was widely criticized. Despite the problems that characterized his first term, Madison was re-elected in 1812 for a second term. Elbridge Gerry was appointed vice president, but he too died in office in 1814. During Madison's second term, he guided the nation through The War of 1812 with Great Britain, which many called the second American Revolution. Unfortunately, the peace treaty signed between the two countries ultimately settled few of the issues between the countries.

In 1817, after this second term, James Madison retired to his estate at Montpelier, Virginia. In 1829 he served as a delegate to the Virginia Constitutional Convention before his death on June 28, 1836. He was the last surviving signer of the Constitution. Madison was honored on the United States $5,000 bill before it was taken out of circulation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมดิสัน Jamesเมดิสัน James เกิดบน 16 มีนาคม 1751 เนียคิงจอร์จเขต ศึกษาจากมหาวิทยาลัยปรินซ์ตันอายุ 20 ใน 1771 เริ่มอาชีพทางการเมืองของเขาหลังจากเขาทำหน้าที่ในเวอร์จิเนียรัฐธรรมนูญอนุสัญญา ใน 1776 และ ในค.ศ. 1780 เป็นผู้รับมอบสิทธิ์สภายุโรปสอง เมดิสันทำหน้าที่เป็นตัวบันทึกประธานที่ประชุมรัฐธรรมนูญใน 1787 ในค.ศ. 1789 เมดิสันได้รับเลือกให้ราษฎร ซึ่งเขาช่วยร่างสิทธิตั๋ว และสู้รบกับเส้นทางของคนต่างด้าวและ Sedition กระทำ เมดิสันสมรส Dolley Payne ทอดด์ใน 1794 เขาช่วยพบพรรคประชาธิปไตย และเลือกเป็น Thomas Jefferson เสนาบดีใน 1801เมดิสันได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของอเมริกาสี่ใน 1808 จอร์จคลินตันแต่งตั้งรองประธาน แต่เสียชีวิตในสำนักงานใน 1812 ระยะแรกของเมดิสันได้เลือก โดยความตึงเครียดกับสหราชอาณาจักร และนโยบายต่างประเทศของเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง แม้ มีปัญหาที่ลักษณะของเขาคำ เมดิสันได้รับเลือกตั้งใน 1812 สำหรับระยะที่สอง เจอร์รี่ Elbridge ถูกแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ แต่เขาไปตายใน office ใน ๑๙๕๗ ในช่วงระยะที่สองของเมดิสัน เขานำประเทศผ่านสงคราม 1812 กับสหราชอาณาจักร กลุ่มที่เรียกว่าการปฏิวัติอเมริกันสอง อับ สนธิสัญญาลงนามระหว่างสองประเทศในที่สุดแล้วไม่กี่ปัญหาระหว่างประเทศ ใน 1817 หลังจากระยะนี้สอง เมดิสัน James ถอนให้ทรัพย์สินของเขาที่เปลิ เวอร์จิเนีย ใน 1829 เขาให้บริการเป็นผู้รับมอบสิทธิ์เวอร์จิเนียรัฐธรรมนูญอนุสัญญาก่อนตายบน 28 มิถุนายน 1836 เขาเป็นผู้ลงนามรอดตายสุดท้ายของรัฐธรรมนูญ เมดิสันได้รับในสหรัฐอเมริกา $5000 รายการก่อนที่จะถูกนำออกจากระบบหมุนเวียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เจมส์เมดิสัน
เจมส์เมดิสันเกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 1751 ในกษัตริย์จอร์จเคาน์ตี้เวอร์จิเนีย เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันตอนอายุ 20 ใน 1771 อาชีพทางการเมืองของเขาเริ่มไม่นานหลังจากที่เขาทำหน้าที่ในเวอร์จิเนียรัฐธรรมนูญใน 1776 และใน 1780 เป็นตัวแทนไปสองทวีปรัฐสภา เมดิสันทำหน้าที่เป็นหัวหน้าที่บันทึกในรัฐธรรมนูญ 1787 ใน 1789, เมดิสันได้รับเลือกให้สภาผู้แทนราษฎรที่เขาช่วยร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและการต่อสู้กับทางเดินของคนต่างด้าวและการกระทำปลุกระดม เมดิสันแต่งงานกับเดลลีนเพนโทดด์ใน 1794 เขาช่วยพบพรรคประชาธิปัตย์และได้รับเลือกให้เป็นโทมัสเจฟเฟอร์สันเลขาธิการแห่งรัฐใน 1,801. เมดิสันได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอเมริกาที่สี่ใน 1808 จอร์จคลินตันได้รับการแต่งตั้งรองประธาน แต่เสียชีวิตในปี 1812 สำนักงานในเมดิสัน ระยะแรกที่ถูกรบกวนด้วยความตึงเครียดกับสหราชอาณาจักรและนโยบายต่างประเทศของเขาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง แม้จะมีปัญหาที่โดดเด่นในระยะแรกของเมดิสันเป็นอีกครั้งที่ได้รับการเลือกตั้งใน 1812 เป็นสมัยที่สอง Elbridge เจอร์รี่ได้รับการแต่งตั้งรองประธาน แต่เขาก็เสียชีวิตในปี 1814 สำนักงานในช่วงระยะที่สองของเมดิสันเขานำประเทศผ่านสงคราม 1812 กับบริเตนใหญ่ซึ่งหลายคนเรียกว่าสองปฏิวัติอเมริกา แต่น่าเสียดายที่ในสนธิสัญญาสันติภาพลงนามระหว่างสองประเทศในที่สุดตัดสินไม่กี่ประเด็นระหว่างประเทศ. ใน 1817 หลังจากระยะที่สองนี้เจมส์เมดิสันออกไปที่ดินของเขาที่มอนเวอร์จิเนีย ใน 1829 เขาทำหน้าที่เป็นตัวแทนไปเวอร์จิเนียรัฐธรรมนูญก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1836 เขาเป็นผู้ลงนามรอดตายสุดท้ายของรัฐธรรมนูญ เมดิสันได้รับเกียรติในสหรัฐอเมริกา $ 5,000 ใบเรียกเก็บเงินก่อนที่จะถูกนำออกมาจากการไหลเวียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เจมส์เมดิสัน
เจมส์เมดิสัน เกิดเมื่อ 16 มีนาคม 1956 ในคิงจอร์จเคาน์ตี้ เวอร์จิเนีย เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน เมื่ออายุ 20 ใน 1771 . อาชีพทางการเมืองของเขาเริ่มหลังจากที่เขาเสิร์ฟในเวอร์จิเนียรัฐธรรมนูญการประชุมใน 1776 และใน 1 , เป็นผู้แทนรัฐสภายุโรป 2 เมดิสัน ในฐานะหัวหน้าบันทึกในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญใน 1787 .ใน 1789 เมดิสันได้รับเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เขาช่วยร่างบิลสิทธิและต่อสู้กับเนื้อเรื่องของคนต่างด้าว และการกระทำปลุกระดม . เมดิสันแต่งงานดอลีย์ เพนทอดด์ใน 1794 . เขาช่วยพบว่าพรรคประชาธิปัตย์และได้รับเลือกเป็น โทมัส เจฟเฟอร์สัน เลขานุการของรัฐใน ค.ศ. 1801 .

เมดิสันได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของอเมริกาที่สี่ใน 1808 .จอร์จคลินตันได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธานแต่เสียชีวิตในที่ทำงานใน 1812 . เทอมแรกเมดิสันเป็น plagued โดยความตึงเครียดกับบริเตนใหญ่ และนโยบายต่างประเทศของเขาถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง แม้จะมีปัญหาที่โดดเด่นในระยะแรกของเขา เมดิสันเป็นอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 1812 เป็นสมัยที่สอง เอลบริจเจอร์รี่ได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธาน แต่เขาก็เสียชีวิตในที่ทำงานใน 1814 . ในช่วงระยะที่สอง เมดิสัน ,เขานำประเทศผ่านสงครามกับสหราชอาณาจักรซึ่งหลายที่เรียกว่าการปฏิวัติครั้งที่สอง ขออภัย สันติภาพสนธิสัญญาระหว่างสองประเทศสุดลงตัวน้อยของปัญหาระหว่างประเทศ

ปี 1817 หลังจากเทอมสองนี้ เจมส์ เมดิสันปลดเกษียณอสังหาริมทรัพย์ของเขาใน Montpelier , เวอร์จิเนียใน 1829 เขาทำหน้าที่เป็นผู้แทนในการประชุมรัฐธรรมนูญเวอร์จิเนียก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1788 . เขาเป็นคนสุดท้ายที่ได้ลงนามในรัฐธรรมนูญ เมดิสันได้รับเกียรติในสหรัฐอเมริกา $ 5 , 000 ใบ ก่อนที่จะนำออกมาจากการหมุนเวียน