ฮันเซลและเกรเทล " เป็นนิทานพื้นบ้านของทางทวีบยุโรบซึ่งสองพี่น้องตระกูลกริมม์นำในเนื้อเรื่องนั้นเล่าถึงความรักเรื่องมารวบรวมไว้ให้ได้อ่านกัน ,Hansel doesn't see a bit of money as he said it, he only intended to secretly threw debris หินทิ้ง cubes. Literally act marked the return home only one..ความสามัคคีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของสองพี่น้องที่ได้เกิดมาในครอบครัวของคนที่ยากจนอย่างช่วยไม่ได้เป็นนิทานที่ออกไปในแนวที่น่าสะเทือนใจอยู่เหมือนกันนะขอรับอ่ะเล่าเลยดีกว่าที่ๆใกล้แต่แล้วอยู่ต่อมาไม่นานในวันหนึ่งแม่ของพวกเขาก็มีอันต้องเจ็บป่วยและได้ตายลงไปพ่อได้พาภรรยาคนใหม่เข้ามาที่บ้านและได้บอกว่า " ต่อแต่นี้ไปพวกเราจะได้อยู่กับแม่คนใหม่โดยไม่ต้องร้องไห้อีกต่อไป .มีครอบครัวของคนตัดไม้ที่ยากจนมากอาศัยอยู่ในทุกๆวันผู้เป็นพ่อจะออกไปตัดไม้ที่ในป่าและจะนำเอาไม้เหล่านั้นไปขายที่ในเมืองส่วนลูกๆของเขาซึ่งก็มีลูกชายคนโตชื่อฮันเซลกับลูกสาวคนเล็กชื่อเกรเทล" ฮันเซลกับเกรเทลต้องทำงานอย่างหนักตามคำสั่งของแม่คนใหม่ของพวกเขาแต่ถึงกระนั้นแม่เลี้ยงก็ไม่ค่อยที่จะใจดีกับเด็กทั้งสองด้วยนางเป็นผู้หญิงที่ใจร้าย.บ้านนางก็จะพูดโกหกบอกกับพ่อว่า " เด็กทั้งสองคนเอาแต่เล่นและไม่ยอมช่วยเหลือทำงานอะไรเลยสักอย่างเดียว . . . . . . . . . . . . . . " อยู่ต่อมาในปีหนึ่งซึ่งปีนั้นเป็นปีที่แห้งแล้งมากฝนก็ไม่ตกข้าวสาลีและเมื่อเวลาที่พ่อออกไปทำงานแล้วแม่เลี้ยงก็จะออกคำสั่งให้สองพี่น้องทำงานทุกอย่างในบ้านกันอย่างตัวเป็นเกลียวส่วนตัวนางเองนั้นจะหนีเข้าไปหาที่หลับนอนอยู่อย่างสุขสบายโดยไม่คิดที่จะทำอะไรเลยทั้งสิ้น" เธอคิดที่จะทำอย่างไร ? เรากำลังจะไม่มีอาหารอะไรเหลือเพียงพอให้สำหรับพวกเด็กๆแล้วนะคุณพ่อบอกกับแม่เลี้ยง
" ?แม่เลี้ยงจึงพูดว่า " ถ้าเป็นอย่างนั้นในวันพรุ่งนี้แกก็ต้องพาเด็กทั้งสองเข้าไปที่ในป่าลึกแล้วปล่อยพวกเขาไว้ที่นั่นเท่านั้นเองเป็นทางเลือกที่จะช่วยเหลือเราทั้งสองไว้ได้โดยไม่ต้องอดตายตามไปเสียด้วย "อาหารเหลือน้อยลงดังนั้นที่บ้านของคนตัดไม้ที่มีอยู่ตั้งสี่คนก็เช่นกันถ้าไม่มีมาตรการและทำอะไรลงไปสักอย่างทุกคนจะต้องหิวโหยและอาจตายลงไปได้
" ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกเด็กจะจะต้องตายลงไปอย่างแน่นอน .. ถ้าขืนเราทำแบบนั้น " แม่เลี้ยงจึงพูดว่า " อ้อนี่แกว่าถ้าอาหารหมดลงแล้วเราทั้งสองคนก็จะต้องมาอดตายตามลงไปด้วยอย่างนั้นมันดีหรือไง ?" ในที่สุดพ่อก็จำใจที่จะต้องเห็นตามแม่เลี้ยงไปด้วยอย่างที่ก็ได้นึกตำหนิในความคิดของนางและในตอนนั้นฮันเซลกับ
เกรเทลก็แอบมาได้ยินพ่อกับแม่เลี้ยงพูดกันถึงตนทั้งสองจากเงามืดที่ตรงประตู . . . . . . ." พรุ่งนี้เราทั้งสองคนจะต้องโดนเอาไปปล่อยที่ในป่าแล้วก็จะไม่มีทางได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว . . . . . . ." เอกอี้เอ็กเอก " เมื่อถึงเวลาเช้าตรู่ผู้เป็นแม่เลี้ยงก็เข้ามาปลุกเด็กทั้งสอง " ตื่นขึ้นมาเร็วจะได้แล้ว " นางเรียก " พ่อของแกกำลังจะเข้าไปตัดไม้ที่ในป่าเราจะตามไปกับเขาด้วย "" เกรเทลเริ่มร้องไห้ " อย่ากลัวไปเลยพี่มีแผนการณ์บางอย่าง " และหลังจากนั้นในทันทีที่ทุกคนหลับไปแล้วฮันเซลก็ได้แอบเดินย่องออกไปสู่ลานหน้าบ้านบนพื้นข้างนอกนั้นเกลื่อนไปด้วยก้อนกรวดเล็กไม่มีไม่ต้องกลัวฮันเซลจึงได้รีบแอบกระซิบปลอบใจน้องว่า " . . . . . . . ถ้าเราอธิฐาน .พระเจ้าจะต้องปกป้องช่วยเราอย่างแน่นอน "
.?" ฮันเซลได้ตอบว่า " ก็มันเหมือนมีเศษเงินตกอยู่นี่ " พ่อได้พูดว่านั่นมันไม่ใช่เศษเงินตกอยู่หรอกมันเป็นแค่เพียงเศษก้อนหินที่กระทบกับแสงแดดแล้วทำให้เกิดเป็นแสงขึ้นมาเท่านั้นเอง "
"ฮันเซลและเกรเทลเดินตามพ่อกับแม่เลี้ยงเข้ามาที่ในป่าและในระหว่างทางฮันเซลทำท่าเหมือนมองไปที่ด้านหลังอย่างซ้ำๆหลายครั้งหลายครา " นี่ฮันเซลทำไมเจ้าจะต้องทำท่าหันไปมองที่ด้านหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่าฮันเซลไม่ได้มองเห็นเศษเงินอย่างที่เขาพูดหรอกเขาเพียงแต่ตั้งใจหันไปแอบโยนเศษก้อนหินทิ้งเอาไว้หมายทำเป็นเครื่องหมายทางขากลับบ้านเท่านั้นเองต่างหาก . . . . . . .ฮันเซลกับเกรเทลกินขนมปังที่ได้มาในไม่ช้าเด็กทั้งสองจึงเริ่มง่วงและในที่สุดก็เคลิ้มหลับไปตรงข้างกองไฟจนถึงเวลากลางคืนเขาทั้งสองด้วยความหนาวจึงรู้สึกตัวและตื่นขึ้นมา " พี่และในไม่นานเมื่อทั้งหมดพากันมาถึงที่ข้างในป่าลึกแล้วคนตัดไม้กับแม่เลี้ยงก็ก่อกองไฟขึ้นมากองหนึ่งและได้พูดโกหกบอกพวกเขาว่าจะเข้าไปตัดไม้ที่อื่นโดยให้เขาทั้งสองนั่งรอและได้พากันหนีกลับไป
. . . . . . .? " ฮันเซลจึงปลอบน้องว่าไม่ต้องกลัวเชื่อพี่สิน้องรัก " . . . . . . . . . . . . . .เมื่อพระจันทร์ขึ้นเต็มดวงแล้วเราก็จะสามารถหาทางกลับบ้านได้ " เศษก้อนหินที่ฮันเซลได้แอบโยนทิ้งทำทางขากลับเอาไว้เมื่อตอนกลางวันนั้นเมื่อต้องแสงของพระจันทร์ก็ทำให้เกิดเป็นแสงเรืองๆสะท้อนให้เห็นเป็นทางเมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่างเด็กทั้งสองก็มาถึงกระท่อมผู้เป็นแม่เลี้ยงค่อนข้างจะขัดเคืองใจเมื่อเห็นเด็กทั้งสองกลับมาเป็นอย่างมากคืนนี้นเองแม่เลี้ยงจึงพูดกับพ่อของเด็กๆว่า " เด็กสองคนหาทางกลับมาได้อย่างไร ?. . . . . . . วันนั้นทั้งสองทำอะไรที่เป็นที่น่าสงสัยอะไรหรือเปล่า ? ? " พ่อจึงพูดว่า " ถ้าจะมีก็เพียงแต่ฮันเซลจะเดินและหันหลังไปดูเศษก้อนหินหลายครั้งเท่านั้นเอง " แม่เลี้ยงเมื่อได้ฟังดังนั้นจึงบอกว่า " นั่นแหละ !ฉันรู้แล้ว . . . . . . .ก้อนหินพวกนั้นแหละเป็นเครื่องหมายแสดงทางขากลับมาบ้านได้ " แม่เลี้ยงได้สั่งให้พ่อเอาฆ้อนและตะปูไปตอกติดปิดห้องของเด็กทั้งสองเอาไว้เพื่อไม่ให้ฮันเซลมีโอกาสได้ออกไปหาเก็บเศษก้อนหินมาเตรียมเอาไว้พรุ่งนี้จะต้องทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน " และสิ่งนี้เกรเทลก็แอบได้ยินที่นางพูด " คราวต่อไปเราคงจะไม่มีทางกลับมาที่นี่ได้อีกอย่างแน่นอนไม่ต้องกลัวสิฮันเซลกล่าวพระเจ้าจะต้องช่วยเหลือเรา " " " . . . . . . .
การแปล กรุณารอสักครู่..