The ancient civilizations of Mesopo

The ancient civilizations of Mesopotamia are the source of the earliest surviving art; these civilizations were situated between the Tigris and the Euphrates Rivers. Dating back to 3500 B.C.E., Mesopotamian art was intended to serve as a way to glorify powerful rulers and their connection to divinity. Art was made from natural resources such as stone, shells, alabaster and marble, and was often created as didactic pieces. No artist signatures can be found on most of the work, because the pieces were meant to embody the subject matter, rather than the creator. Popular items that typify this time period include cylindrical seals, steles, narrative relief sculptures, and lavishly decorated tombs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อารยธรรมโบราณของ Mesopotamia เป็นแหล่งของศิลปะแรกสุดรอดตาย อารยธรรมเหล่านี้มีอยู่ระหว่าง Tigris และแม่น้ำแม่น้ำยูเฟรทีส ศิลปะ Mesopotamian ลช่วย 3500 B.C.E. มีไว้เป็นวิธีการยกย่องผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อกับ divinity ศิลปะจากธรรมชาติเช่นหิน เปลือกหอย อะลาบาสเทอร์ และหินอ่อน และมักจะสร้างเป็นพลวัตชิ้น ลายเซ็นศิลปินไม่สามารถพบในส่วนใหญ่ของงาน เนื่องจากชิ้นส่วนมีความหมายเพื่อรวบรวมสาระ มากกว่าผู้สร้าง สินค้ายอดนิยมที่พลิ้วเวลานี้รวมสัญลักษณ์ทรงกระบอก steles บรรเทาบรรยายประติมากรรม และสถาปัตยกรรมตกแต่งสุสาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อารยธรรมโบราณของโสโปเตเมียเป็นที่มาของงานศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดที่รอดตาย; อารยธรรมเหล่านี้ถูกตั้งอยู่ระหว่างไทกริสและยูเฟรติสแม่น้ำ ย้อนหลังไปถึง 3500 คริสตศักราชศิลปะเมโสโปเตตั้งใจที่จะทำหน้าที่เป็นวิธีที่จะเชิดชูผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อของพวกเขาเพื่อเปรียญ ศิลปะทำจากทรัพยากรทางธรรมชาติเช่นหิน, หอย, เศวตศิลาและหินอ่อนและถูกสร้างขึ้นมักจะเป็นชิ้นส่วนเกี่ยวกับการสอน ไม่มีลายเซ็นศิลปินที่สามารถพบได้ในส่วนของการทำงานเพราะชิ้นส่วนที่มีความหมายที่จะรวบรวมเรื่องมากกว่าผู้สร้าง รายการยอดนิยมที่เป็นสัญลักษณ์ในช่วงเวลานี้ ได้แก่ ซีลกระบอก steles ประติมากรรมบรรเทาการเล่าเรื่องและสุสานตกแต่งอย่างหรูหรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อารยธรรมเมโสโปเตเมียโบราณเป็นแหล่งที่เก่าแก่ที่สุดที่รอดตายศิลปะ อารยธรรมเหล่านี้ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำไทกริสและยูเฟรติส แม่น้ำ ย้อนกลับไป b.c.e 3500 , ศิลปะเมโสโปเตเมียมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นวิธีที่จะให้ผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อกับพระเจ้า . ศิลปะที่ทำจากทรัพยากร ธรรมชาติ เช่น หิน , เปลือกหอย , เศวตศิลาหินอ่อนและมักจะสร้างขึ้น เป็นคำสอนที่ชิ้น ไม่มีลายเซ็นศิลปิน สามารถพบได้ในส่วนของงาน เพราะชิ้น ตั้งใจรวบรวมเรื่อง แทนที่จะสร้าง รายการที่เป็นที่นิยมที่เป็นตัวอย่างในช่วงเวลานี้รวมถึงทรงกระบอกผนึก steles , ประติมากรรมบรรเทาการเล่าเรื่องและตกแต่งอย่างหรูหราหลุมฝังศพ