The Royal Thai Government has been

The Royal Thai Government has been aware of the
challenges arising out of population ageing and has given
increasing priority to the issues relating to older persons.
Following the World Assembly on Ageing held in Vienna in
1982, Thailand formulated the National Long-term Plan of
Action for the Elderly (1986-2001). The Plan covered health,
education, income and employment, and social and
cultural aspects. Later, a Working Committee on Policy and
Action for the Elderly was set up to formulate the Essence
of the Long-term Policies and Measures for the Elderly (1992-
2011) to help accelerate welfare actions.
In 1997, constitutional provisions were made to give older
persons with insufficient income the right to receive aid
from the State. In 1999, the Government established the
National Commission on the Elderly which formulated the
currently operational Second National Plan for Older
Persons (2002-2021). This Plan focuses on the preparation
for quality ageing, the well being of older persons, social
security for older persons and research to support policies
and programmes. The Bureau of Empowerment for Older
Persons was also created as the focal point on population
ageing in Thailand.
These policy instruments, together with the Act on Older
Persons 2003 provide the policy framework for welfare
promotion, protection and empowerment of older persons
throughout the country.
The Government provides social welfare assistance of 300
baht per month to older persons having an annual income
of less than 10,000 baht. It is planned to increase the
coverage of this assistance to 76 per cent of all eligible
poor older persons in Thailand. The Government has also
created an Older Persons’ Fund with an initial outlay of 60
million baht. Adults who take care of their old parents have
been given entitlement to tax exemptions up to a specified
maximum based on their income.
The 30 baht Universal Health Care Scheme helps reduce
the burden of the families in supporting the health care
needs of their elderly parents and relatives. The Ministry of
Public Health is encouraging community hospitals to run
elderly clinics periodically and to provide home health
services by visiting older persons at their place of residence.
Older people are entitled for free health care services at all
state-run health stations/hospitals. Emphasis is also laid on
health promotion for the elderly through temples and older
people’s clubs.
In addition, the Government has taken other initiatives,
such as support to strengthen income security at old age,
life-long education, day centres for health care and
promotion, family assistance, counseling, and other social
activities for the elderly, promotion of healthy behaviours
from younger ages and creating awareness among the
community by organizing social activities for older persons.
The Government seeks to inculcate a positive attitude in
the society towards ageing.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รัฐบาลไทยได้ตระหนักถึงการความท้าทายที่เกิดจากประชากรสูงอายุ และได้ให้เพิ่มความสำคัญกับประเด็นเกี่ยวข้องกับคนเก่าต่อแอสเซมบลีโลกในอายุที่จัดขึ้นในกรุงเวียนนาใน1982 ไทยสูตรชาติ Long-term แผนการของการดำเนินการสำหรับผู้สูงอายุ (1986-2001) แผนคุ้มครองสุขภาพการศึกษา รายได้ และการจ้างงาน และสังคม และด้านวัฒนธรรม ภายหลัง การทำงานคณะกรรมการนโยบาย และการดำเนินการสำหรับผู้สูงอายุถูกกำหนดขึ้นเพื่อกำหนดสาระสำคัญนโยบายระยะยาวและมาตรการสำหรับผู้สูงอายุ (1992-2011) เพื่อช่วยเร่งการดำเนินการสวัสดิการในปี 1997 บทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่ทำให้เก่าคน มีรายได้ไม่เพียงพอด้านขวาจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐ ในปี 1999 รัฐบาลก่อตั้งขึ้นคณะกรรมการแห่งชาติเกี่ยวกับผู้สูงอายุซึ่งสูตรปัจจุบันดำเนินงานสองชาติแผน Olderคน (2002-2021) แผนนี้เน้นการเตรียมสำหรับคุณภาพดี สุขภาพดีของคนรุ่นเก่า สังคมความปลอดภัยเก่าคนวิจัยและเพื่อสนับสนุนนโยบายและโปรแกรม สำนักงานเสริมสร้างพลังอำนาจสำหรับรุ่นเก่าท่านยังสร้างเป็นจุดโฟกัสในประชากรอายุในประเทศไทยเครื่องมือเหล่านี้นโยบาย กับการกระทำบน Olderบุคคล 2003 ให้กรอบนโยบายสวัสดิการส่งเสริม ป้องกัน และเสริมสร้างพลังอำนาจของคนรุ่นเก่าทั่วประเทศรัฐบาลให้ความช่วยเหลือสวัสดิการสังคมของ 300baht per month to older persons having an annual incomeof less than 10,000 baht. It is planned to increase thecoverage of this assistance to 76 per cent of all eligiblepoor older persons in Thailand. The Government has alsocreated an Older Persons’ Fund with an initial outlay of 60million baht. Adults who take care of their old parents havebeen given entitlement to tax exemptions up to a specifiedmaximum based on their income.The 30 baht Universal Health Care Scheme helps reducethe burden of the families in supporting the health careneeds of their elderly parents and relatives. The Ministry ofPublic Health is encouraging community hospitals to runelderly clinics periodically and to provide home healthservices by visiting older persons at their place of residence.Older people are entitled for free health care services at allstate-run health stations/hospitals. Emphasis is also laid onhealth promotion for the elderly through temples and olderpeople’s clubs.In addition, the Government has taken other initiatives,such as support to strengthen income security at old age,life-long education, day centres for health care andpromotion, family assistance, counseling, and other socialactivities for the elderly, promotion of healthy behavioursfrom younger ages and creating awareness among thecommunity by organizing social activities for older persons.The Government seeks to inculcate a positive attitude inthe society towards ageing.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รัฐบาลไทยได้ตระหนักถึง
ความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการเสื่อมสภาพของประชากรและได้ให้
ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ.
หลังจากที่ประชุมสมัชชาโลกเอจจิ้งที่จัดขึ้นในกรุงเวียนนาใน
ปี 1982 ประเทศไทยสูตรแห่งชาติแผนระยะยาวของ
การดำเนินการ สำหรับผู้สูงอายุ (1986-2001) แผนครอบคลุมสุขภาพ
การศึกษารายได้และการจ้างงานและสังคมและ
วัฒนธรรม ต่อมาคณะทำงานเกี่ยวกับนโยบายและ
การดำเนินการสำหรับผู้สูงอายุถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อกำหนดสาระสำคัญ
ของนโยบายระยะยาวและมาตรการสำหรับผู้สูงอายุ (1992-
2011) ที่จะช่วยเร่งการดำเนินการสวัสดิการ.
ในปี 1997 บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ ที่มีอายุมากกว่า
คนที่มีรายได้ไม่เพียงพอที่เหมาะสมที่จะได้รับความช่วยเหลือ
จากรัฐ ในปี 1999 รัฐบาลจัดตั้ง
คณะกรรมการแห่งชาติในผู้สูงอายุซึ่งสูตร
แห่งชาติแผนดำเนินงานในขณะที่สองสำหรับผู้สูงอายุ
คน (2002-2021) แผนนี้จะเน้นที่การเตรียมความพร้อม
สำหรับริ้วรอยที่มีคุณภาพความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุสังคม
รักษาความปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุและการวิจัยเพื่อสนับสนุนนโยบาย
และโปรแกรม สำนักส่งเสริมและพิทักษ์ผู้สูงอายุ
คนที่ถูกสร้างขึ้นนอกจากนี้ยังเป็นจุดโฟกัสประชากร
ริ้วรอยในประเทศไทย.
เครื่องมือทางนโยบายเหล่านี้ร่วมกับพระราชบัญญัติเก่า
คน 2003 ให้กรอบนโยบายเพื่อสวัสดิการ
การส่งเสริมการป้องกันและการเสริมสร้างศักยภาพของผู้สูงอายุ
ทั่วประเทศ
รัฐบาลให้ความช่วยเหลือสวัสดิการสังคม 300
บาทต่อเดือนเพื่อให้ผู้สูงอายุมีรายได้ต่อปี
น้อยกว่า 10,000 บาท มันมีการวางแผนที่จะเพิ่ม
ความคุ้มครองของความช่วยเหลือนี้ถึง 76 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดมีสิทธิ์
ผู้สูงอายุที่ยากจนในประเทศไทย รัฐบาลยังได้
สร้างกองทุนผู้สูงอายุที่มีการใช้จ่ายเริ่มต้น 60
ล้านบาท ผู้ใหญ่ที่ดูแลพ่อแม่เก่าของพวกเขาได้
รับสิทธิในการยกเว้นภาษีขึ้นอยู่กับที่ระบุไว้
สูงสุดขึ้นอยู่กับรายได้ของพวกเขา.
30 บาทโครงการสุขภาพถ้วนหน้าจะช่วยลด
ภาระของครอบครัวในการสนับสนุนการดูแลสุขภาพ
ความต้องการของพ่อแม่ผู้สูงอายุของพวกเขาและ ญาติพี่น้อง กระทรวง
สาธารณสุขจะส่งเสริมให้โรงพยาบาลชุมชนที่จะทำงาน
คลินิกผู้สูงอายุเป็นระยะ ๆ และเพื่อให้สุขภาพที่บ้าน
โดยการเยี่ยมชมการให้บริการผู้สูงอายุในสถานที่ที่พวกเขาอยู่อาศัย.
ผู้สูงอายุจะได้รับสิทธิสำหรับการให้บริการการดูแลสุขภาพฟรีในทุก
สถานีอนามัยรัฐทำงาน / โรงพยาบาล เน้นวางยังอยู่ใน
การส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุผ่านวัดและผู้สูงอายุ
ชมรมผู้คน.
นอกจากนี้รัฐบาลได้นำความคิดริเริ่มอื่น ๆ
เช่นการสนับสนุนการเสริมสร้างความปลอดภัยรายได้ที่อายุ
การศึกษาตลอดชีวิต, ศูนย์วันสำหรับการดูแลสุขภาพและ
การส่งเสริมการขาย ช่วยเหลือครอบครัวให้คำปรึกษาและอื่น ๆ ในสังคม
กิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ, การส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพ
จากทุกเพศทุกวัยที่มีอายุน้อยกว่าและการสร้างความตระหนักในหมู่
ชุมชนโดยการจัดกิจกรรมทางสังคมสำหรับผู้สูงอายุ.
รัฐบาลพยายามที่จะปลูกฝังทัศนคติที่ดีใน
สังคมต่อการเกิดริ้วรอย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รัฐบาลไทยได้ตระหนักถึงความท้าทายที่เกิดขึ้น จากจำนวนประชากรอายุ

และได้ให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ
ต่อไปนี้โลกที่จัดขึ้นในกรุงเวียนนาในชุมนุมผู้สูงอายุ
1982 , ไทย ยุทธศาสตร์แห่งชาติ แผนระยะยาวของ
ปฏิบัติการเพื่อผู้สูงอายุ ( 1986-2001 ) แผนคุ้มครองสุขภาพ ,
ระดับการศึกษา รายได้ และการจ้างงาน และสังคม
ลักษณะทางวัฒนธรรม ต่อมา คณะทํางานในนโยบายและการดำเนินการสำหรับผู้สูงอายุ
ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อกำหนดสาระสำคัญ
ของนโยบายระยะยาวและมาตรการสำหรับผู้สูงอายุ ( 1992 -
2011 ) เพื่อช่วยเร่งการกระทำสวัสดิการ .
ในปี 1997 บทบัญญัติรัฐธรรมนูญทำเพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เพียงพอ
สิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือ
จากรัฐ ในปี พ.ศ. 2542 รัฐบาล
ตั้งขึ้นคณะกรรมการแห่งชาติในผู้สูงอายุ ซึ่งยุทธศาสตร์การดำเนินงานในปัจจุบันที่สองแห่งชาติ
แผนผู้สูงอายุ
( พ.ศ. 2545-2564 ) แผนนี้จะเน้นที่การเตรียม
สำหรับผู้สูงอายุ คุณภาพความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ ประกันสังคม
สำหรับผู้สูงอายุ และการวิจัยเพื่อสนับสนุนนโยบาย
และโครงการ ของสำนักส่งเสริมผู้สูงอายุ
ยังสร้างเป็นจุดโฟกัสในประชากร
ผู้สูงอายุในประเทศไทย .
เครื่องมือนโยบายเหล่านี้ ร่วมกับ พระเก่า
คน 2003 ให้กรอบนโยบายส่งเสริมสวัสดิภาพ และพิทักษ์เด็กเก่า


คนทั้งประเทศ รัฐบาลให้ความช่วยเหลือสวัสดิการ 300
บาทต่อเดือนให้ผู้สูงอายุมี
รายได้น้อยกว่า 10 , 000 บาท . มันวางแผนที่จะเพิ่ม
ความครอบคลุมของความช่วยเหลือนี้ถึงร้อยละ 76 ของผู้มีสิทธิทั้งหมด
ผู้สูงอายุยากจนในประเทศไทย รัฐบาลยัง
สร้างผู้สูงอายุ กองทุนกับ outlay เริ่มต้น 60
ล้านบาท ผู้ใหญ่ที่ดูแลครอบครัวเก่าของตนมีสิทธิที่จะได้รับการยกเว้นภาษี

ถึงกำหนดสูงสุดตามรายได้ สุขภาพถ้วนหน้า 30 บาท

เพื่อช่วยลดความต้องการของภาระของครอบครัวในการส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุของพวกเขา
พ่อแม่และญาติ กระทรวงสาธารณะสุข โรงพยาบาลชุมชน ที่ให้กำลังใจ

คลินิกผู้สูงอายุ เป็นระยะ ๆเพื่อเรียกใช้และเพื่อให้บริการสุขภาพ
บ้านเยี่ยมผู้สูงอายุที่สถานที่ของพวกเขาที่อยู่อาศัย
ผู้สูงอายุได้รับบริการดูแลสุขภาพฟรีที่ทุกคน
ใช้สถานีอนามัย / โรงพยาบาลเน้นที่ยังวางอยู่บน
ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ผ่านวัดเก่า

คลับของคน นอกจากนี้ รัฐบาลได้นำโครงการริเริ่มอื่น ๆ ,
เช่นการสนับสนุนเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านรายได้ในวัยชรา
, การศึกษาตลอดชีวิต , วันศูนย์ดูแลสุขภาพและ
ส่งเสริมให้ความช่วยเหลือ ปรึกษาครอบครัว และกิจกรรมทางสังคม
อื่นสําหรับผู้สูงอายุ , ส่งเสริมสุขภาพพฤติกรรม
จากวัยเด็ก และการสร้างความตระหนักของชุมชน โดยจัดกิจกรรมสังคม

สำหรับผู้สูงอายุที่รัฐบาลพยายามที่จะปลูกฝังทัศนคติเชิงบวกใน
สังคมต่ออายุ