As the saying goes, necessity is th

As the saying goes, necessity is the mother of invention, and nowhere in the world is there more need than in underdeveloped and emerging markets. Social entrepreneurs worldwide are aggressively working to find ways to increase quality of life in these regions. One such entrepreneur is Saloni Malhotra, a young Indian woman with a dream to create sustainable advancement for the people of her beloved country.
India has made waves in the global economy with its re-ranked as the ninth largest economy in the world and the fourth based on purchase power parity, India has played a crucial role in globalization and the rise of emerging markets since economic liberalization in 1991. With a population of nearly 1.2 billion, it is not surprising that the people of India have become the country’s greatest asset. As outsourcing started to become popular with corporations in the Western world, India stepped up and made sure they were the front-runner in providing an educated workforce for lucrative industries such as computer software and technology, telecommunications, and engineering. However, the demographic disparity that had existed for centuries among the people in the region became more apparent with the emergence of prosperity in the urban areas. The growing job market within the large cities such as New Delhi, Mumbai, Bangalore, Kolkata, and Chennai caused an urban migration from the countryside. However, the already overcrowded cities could not support the entire population, much less give them a better quality of life, and so the chasm continued to widen

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นคำกล่าวที่ว่าไป ความจำเป็นเป็นแม่ของประดิษฐ์ และไม่มีที่ไหนในโลกมีต้องเพิ่มมากขึ้นกว่าธรรมชาติ และเกิดขึ้น อุกอาจกำลังผู้ประกอบการสังคมทั่วโลกเพื่อค้นหาวิธีการเพิ่มคุณภาพชีวิตในภูมิภาคเหล่านี้ ผู้ประกอบการดังกล่าวหนึ่งคือ Saloni Malhotra สาวอินเดียที่ มีความฝันในการสร้างความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนสำหรับคนของเธอรักประเทศ
ได้คลื่นอยู่ในเศรษฐกิจโลกกับการจัดอันดับใหม่เป็นเศรษฐกิจ ninth ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและสี่ตามความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้ออินเดีย อินเดียมีบทบาทสำคัญในโลกาภิวัตน์และการเพิ่มขึ้นของตลาดเกิดใหม่ตั้งแต่เปิดเสรีทางเศรษฐกิจในปีพ.ศ. 2534 มีประชากรเกือบ 1.2 ล้าน ไม่น่าแปลกใจว่า ชาวอินเดียได้กลายเป็น สินทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ เป็นผู้รับเหมาช่วงเริ่มเป็นที่นิยมของบริษัทในโลกตะวันตก อินเดียก้าวขึ้น และทำให้แน่ใจว่า พวกเขา front-runner ในการให้การศึกษาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรมที่ร่ำรวยเช่นคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยี โทร คมนาคม และวิศวกรรม อย่างไรก็ตาม disparity ประชากรที่มีอยู่มานานหลายศตวรรษในหมู่คนในภูมิภาค กลายเป็นชัดเจนขึ้นกับการเกิดขึ้นของความเจริญในพื้นที่เขตเมือง ตลาดงานเติบโตในเมืองใหญ่เช่นนิวเดลี มุมไบ บังกาลอร์ กาล และไนทำให้เกิดการย้ายเมืองจากชนบท อย่างไรก็ตาม เมืองแล้วเหนื่อยเมื่อยล้าไม่สามารถสนับสนุนประชากรทั้งหมด มากน้อยให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตดีขึ้น และเพื่อ chasm ยังคงถ่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นว่าไปความจำเป็นเป็นมารดาของประดิษฐ์และไม่มีที่ไหนเลยในโลกที่มีความต้องการมากขึ้นกว่าในตลาดด้อยพัฒนาและเกิดขึ้นใหม่ ผู้ประกอบการทางสังคมทั่วโลกกำลังอุกอาจทำงานเพื่อหาวิธีที่จะเพิ่มคุณภาพชีวิตในภูมิภาคเหล่านี้ หนึ่งในผู้ประกอบการดังกล่าวเป็นความงาม Malhotra, ผู้หญิงอินเดียหนุ่มที่มีความฝันที่จะสร้างความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนสำหรับคนของประเทศอันเป็นที่รักของเธอ
อินเดียได้ทำคลื่นในระบบเศรษฐกิจโลกที่มีของใหม่จัดอันดับให้เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เก้าและสี่ ขึ้นอยู่กับการเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ, อินเดียมีบทบาทสำคัญในโลกาภิวัตน์และการเพิ่มขึ้นของตลาดเกิดใหม่นับตั้งแต่เปิดเสรีทางเศรษฐกิจในปี 1991. มีประชากรเกือบ 1.2 พันล้านก็ไม่น่าแปลกใจที่คนของประเทศอินเดียได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ในขณะที่การจ้างเริ่มที่จะกลายเป็นที่นิยมกับ บริษัท ในโลกตะวันตก, อินเดียก้าวขึ้นและทำให้แน่ใจว่าพวกเขาเป็นนักวิ่งหน้าในการให้แรงงานที่มีการศึกษาสำหรับอุตสาหกรรมร่ำรวยเช่นซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมและวิศวกรรม แต่ความแตกต่างของประชากรที่มีอยู่มานานหลายศตวรรษในหมู่ผู้คนในภูมิภาคนี้กลายเป็นชัดเจนมากขึ้นมีการเกิดขึ้นของความมั่งคั่งในเขตเมือง ตลาดงานที่เพิ่มมากขึ้นในเมืองใหญ่เช่นนิวเดลี, มุมไบ, บังกาลอร์โกลกาตาเชนไนและเกิดการย้ายถิ่นจากชนบทในเมือง แต่เมืองที่แออัดอยู่แล้วไม่สามารถรองรับประชากรทั้งหมดมากน้อยให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและเพื่อให้ช่องว่างที่จะขยายอย่างต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นว่าไปความจำเป็นเป็นตัวกำเนิดของสิ่งประดิษฐ์ และไม่มีที่ไหนในโลกจะต้องมีมากขึ้นกว่าในตลาดที่พัฒนาและที่เกิดขึ้นใหม่ ผู้ประกอบการทางสังคมทั่วโลกยังคงทำงานเพื่อหาแนวทางในการเพิ่มคุณภาพของชีวิตในพื้นที่เหล่านี้ ผู้ประกอบการหนึ่งเช่นซาโลนี มัลโฮทรา ,ผู้หญิงอินเดียนแดงหนุ่มที่มีความฝันที่จะสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับประชาชนของประเทศอันเป็นที่รัก
อินเดียได้ทำให้คลื่นในเศรษฐกิจโลก เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของเรื่อง อันดับ 9 ในโลกและที่สี่บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกันซื้อพลังงาน อินเดีย มีการเล่นที่สำคัญบทบาทในโลกาภิวัตน์และการเติบโตของตลาดเกิดใหม่ตั้งแต่ การเปิดเสรีทางเศรษฐกิจในปี 1991มีประชากรเกือบ 1.2 พันล้าน มันไม่น่าแปลกใจที่คนอินเดียได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ เป็น outsourcing เริ่มกลายเป็นที่นิยมกับ บริษัท ในโลกตะวันตก อินเดียก้าวขึ้นและทำให้แน่ใจว่าพวกเขาเป็นนักวิ่งหน้าในการให้การศึกษาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยี โทรคมนาคมและวิศวกรรม อย่างไรก็ตาม ประชากรมีความต่างที่มีชีวิตอยู่มานานหลายศตวรรษ ระหว่างประชาชนในภูมิภาคกลายเป็นชัดเจนมากขึ้นกับการเกิดขึ้นของความเจริญรุ่งเรืองในเขตเมือง การเติบโตตลาดงานในเมืองใหญ่เช่นนิวเดลี , มุมไบ , บังกาลอร์ , โกลกาตา เชนไน และทำให้เมืองการย้ายถิ่นจากชนบท อย่างไรก็ตามแล้วเมืองที่แออัดไม่สามารถรองรับประชากรทั้งหมดมากน้อยให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้น เหวอย่างต่อเนื่องเพื่อขยาย