Opponents to CSR claim CSR to be ou

Opponents to CSR claim CSR to be outside the shareholders
best interest and that the only social responsibility a
firm has is to maximize profit for its owners (Friedman
1970). CSR opponents continue to repeat the view that
firms should not engage in CSR due to uncertain financial
effects or as a potential distraction from a firm’s business
focus (KPMG 2011; Wood 2010). One area that the
opponents and proponents agree upon is that profit arises
from successful interactions with their primary market
stakeholder—their customers. However, CSR proponents
both address the economic argument and lack of business
focus by arguing that immediate impact should not be
sought (Carroll and Shabana 2010) as reputation just like
branding takes considerable time to create and achieve.
Research suggests that CSR instead should be viewed in a
broader, holistic and long term perspective covering more
than immediate financial performance (Carroll and Shabana
2010; KPMG 2011).
Other research suggests that

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรียกร้องฝ่ายตรงข้ามเพื่อ CSR CSR จะนอกผู้ถือหุ้นดอกเบี้ยและที่ดีที่สุดสังคมเท่าบริษัทคือการ เพิ่มกำไรสำหรับเจ้าของ (ฟรีดแมน1970) . CSR ฝ่ายตรงข้ามต่อไปดูที่บริษัทควรมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเงินผลกระทบหรือ เป็นการรบกวนที่อาจเกิดขึ้นจากธุรกิจของบริษัทโฟกัส (สอบ 2011 ไม้ 2010) หนึ่งในพื้นที่ที่การฝ่ายตรงข้ามและผู้เสนอตกลงเป็นว่า กำไรที่เกิดขึ้นจากปฏิสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จกับตลาดหลักของพวกเขาผล — ลูกค้าของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ผู้เสนอ CSRทั้งเศรษฐกิจอาร์กิวเมนต์และการขาดของธุรกิจโฟกัส ด้วยการโต้เถียงที่ ได้ผลทันทีไม่ควรขอ (คาร์โรลล์และ 2553 Shabana) เป็นชื่อเสียงเหมือนตราสินค้าใช้เวลามากในการสร้าง และบรรลุวิจัยชี้ให้เห็นว่า CSR แต่ควรดูในการมุมกว้าง แบบองค์รวม และ ระยะยาวที่ครอบคลุมมากขึ้นกว่าทางการเงินประสิทธิภาพ (คาร์โรลล์และ Shabana2010 ทางสอบที่ 2011)วิจัยอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฝ่ายตรงข้ามกับความรับผิดชอบต่อสังคมเรียกร้องความรับผิดชอบต่อสังคมที่จะอยู่นอกผู้ถือหุ้น
สนใจที่ดีที่สุดและความรับผิดชอบต่อสังคมเพียง
บริษัท มีคือการเพิ่มผลกำไรให้กับเจ้าของของมัน (ฟรีดแมน
1970) ฝ่ายตรงข้ามความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่องที่จะทำซ้ำมุมมองที่
บริษัท ไม่ควรมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคมอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางการเงิน
ผลกระทบหรือเป็นสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวอาจเกิดขึ้นจากธุรกิจของ บริษัท
โฟกัส (KPMG 2011; ไม้ 2010) หนึ่งในพื้นที่ที่
ฝ่ายตรงข้ามและผู้เสนอตกลงคือว่าผลกำไรที่เกิดขึ้น
จากการมีปฏิสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จกับตลาดหลักของพวกเขา
มีส่วนได้เสียของพวกเขาลูกค้า แต่ความรับผิดชอบต่อสังคมผู้เสนอ
ทั้งที่อยู่ในการโต้แย้งทางเศรษฐกิจและการขาดของธุรกิจ
โฟกัสโดยให้เหตุผลว่าผลกระทบในทันทีไม่ควร
ขอ (แครอลและฮาร่า 2010) เป็นชื่อเสียงเช่นเดียวกับ
การสร้างตราสินค้าต้องใช้เวลามากในการสร้างและบรรลุ.
การวิจัยแสดงให้เห็นว่า CSR แทนควรจะดู ใน
มุมมองที่กว้างแบบองค์รวมและระยะยาวที่ครอบคลุมมากขึ้น
กว่าผลประกอบการในทันที (แครอลและฮาร่า
ปี 2010 บริษัท เคพีเอ็ 2011).
การวิจัยอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฝ่ายตรงข้ามกับ CSR เรียกร้อง CSR จะนอกจำกัดผลประโยชน์ที่เป็นเพียงความรับผิดชอบต่อสังคมบริษัท เพื่อเพิ่มผลกำไรสำหรับเจ้าของ ( ฟรีดแมน1970 ) ฝ่ายตรงข้าม CSR ยังคงย้ำมุมมองที่บริษัทไม่ควรมีส่วนร่วมใน CSR เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเงินผล หรือรบกวนที่อาจเกิดขึ้นจากธุรกิจของบริษัทจุดโฟกัส ( KPMG 2011 ; ไม้ 2010 ) หนึ่งในพื้นที่ที่ฝ่ายตรงข้ามและผู้เสนอตกลงคือกำไรเกิดขึ้นจากการโต้ตอบที่ประสบความสำเร็จกับตลาดหลักของพวกเขาฝ่ายลูกค้าของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ผู้เสนอ CSRทั้งสองที่อยู่อาร์กิวเมนต์ทางเศรษฐกิจและขาดธุรกิจโฟกัส โดยให้เหตุผลว่าผลกระทบในทันที ไม่ ควร( และขอ ) ชาบานา 2010 ) เป็นชื่อเสียงเหมือนแบรนด์ต้องใช้เวลามากที่จะสร้างและบรรลุงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า CSR แทนควรจะดูในกว้างแบบองค์รวมและระยะยาวมุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้นนอกจากประสิทธิภาพทางการเงินทันที ( แคร์โรลล์ และ ชาบานา2010 ; KPMG 2011 )งานวิจัยอื่น ๆพบว่า