Urging a return to a laissez-faire

Urging a return to a laissez-faire worldwide economy with a minimum of government regulation, Milton Friedman argues against the concept of social responsibility.
A business person who acts “responsibly” by cutting the price of the firm’s product to prevent inflation, or by making expenditures to reduce pollution, or by hiring the hard-core unemployed, according to Friedman, is spending the shareholder’s money for a general social interest. Even if the businessperson has shareholder permission or encouragement to do so, he or she is still acting from motives other than economic and may, in the long run, harm the very society the firm is trying to help. By taking on the burden of these social costs, the business becomes less efficient either prices go up to pay for the increased costs or investment in new activities and research is postponed. These results negatively affect—perhaps fatally—the long-term efficiency of a business. Friedman thus referred to the social responsibility of business as a “fundamentally subversive doctrine” and stated that:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระตุ้นให้กลับไป laissez-faire เศรษฐกิจทั่วโลกที่มีขั้นต่ำของกฎระเบียบของรัฐบาลมิลตันฟรีดแมนระบุกับแนวคิดของความรับผิดชอบต่อสังคม
คนธุรกิจที่ทำหน้าที่ "ความรับผิดชอบ" โดยการตัดราคาของผลิตภัณฑ์ของ บริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้อัตราเงินเฟ้อหรือโดยการใช้จ่ายเพื่อลดมลพิษหรือการจ้างงานโดยฮาร์ดคอว่างงานตามฟรีดแมนคือการใช้จ่ายเงินของผู้ถือหุ้นเป็นที่สนใจของสังคมทั่วไป แม้ว่าธุรกิจมีสิทธิ์ผู้ถือหุ้นหรือให้กำลังใจที่จะทำเช่นนั้นเขาหรือเธอจะยังคงทำหน้าที่จากแรงจูงใจอื่น ๆ กว่าทางเศรษฐกิจและอาจจะในระยะยาวที่เป็นอันตรายต่อสังคมมาก บริษัท พยายามที่จะช่วยให้ โดยการที่ภาระค่าใช้จ่ายทางสังคมเหล่านี้เป็นธุรกิจที่มีประสิทธิภาพน้อยลงทั้งราคาขึ้นไปที่จ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหรือการลงทุนในกิจกรรมใหม่และการวิจัยถูกเลื่อนออกไป ผลลัพธ์เหล่านี้มีผลเสียต่อ-บางทีอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตที่มีประสิทธิภาพในระยะยาวของธุรกิจ ฟรีดแมนจึงเรียกความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจเป็น "ล้มล้างความเชื่อพื้นฐาน" และระบุว่า:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระตุ้นให้กลับไประบบเศรษฐกิจทั่วโลกที่ laissez-faire มีขั้นต่ำของรัฐบาลควบคุม มิลตันฟรีดแมนจนกับแนวคิดของสังคม
ธุรกิจผู้ที่ทำหน้าที่ "รับผิดชอบ" โดยการตัดราคา ของผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ หรือรายจ่ายเพื่อลดมลภาวะ หรือจ้างดังคนติดเหล้างอม ตามฟรีดแมน เป็นค่าใช้จ่ายเงินของผู้ถือหุ้นให้ความสนใจสังคมทั่วไป แม้ว่า businessperson จะมีสิทธิ์ถือหุ้น หรือให้กำลังใจจะทำดังนั้น เขาหรือเธอจะยังคงกระทำจาก motives อื่น ๆ กว่าเศรษฐกิจ และอาจ ในระยะยาว เป็นอันตรายต่อสังคมมาก บริษัทจะพยายามช่วยเหลือ โดยการนำในภาระของต้นทุนทางสังคมเหล่านี้ ธุรกิจจะมีประสิทธิภาพน้อยราคาใดไปถึงจ่ายค่าต้นทุนเพิ่มขึ้น หรือเลื่อนออกไปลงทุนในกิจกรรมใหม่และการวิจัย ผลลัพธ์เหล่านี้มีผล — อาจจะเสียชีวิตซึ่งประสิทธิภาพระยะยาวของธุรกิจ ฟรีดแมนจึงเรียกความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจเป็น "ลัทธิความ subversive" และ:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เรียกร้องให้กลับไปที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกเสรีนิยมที่มีขนาดอย่างน้อยหนึ่งกฎระเบียบของรัฐบาล Milton Friedman จากได้ให้เหตุผลกับแนวความคิดของความรับผิดชอบต่อสังคม
ผู้ที่เดินทางเพื่อธุรกิจที่การกระทำ"ความรับผิดชอบ"โดยการตัดราคาของ ผลิตภัณฑ์ ของบริษัทเพื่อป้องกันไม่ให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานหรือโดยการทำให้ค่าใช้จ่ายในการลดมลพิษโดยการจ้างงานหนัก - core ที่ไม่มีงานทำตามในวงการสื่อสารมวลชนทุกคนคือการใช้จ่ายเงินของผู้ถือหุ้นที่ให้ความสนใจทางสังคมทั่วไป แม้นักธุรกิจที่มีกำลังใจหรือได้รับอนุญาตผู้ถือหุ้นจะทำให้เขาหรือเธอเป็นผู้รักษาการแทนจากแรงจูงใจอื่นที่ไม่ใช่ทางเศรษฐกิจและอาจทำให้เป็นอันตรายต่อสังคมเป็นอย่างมากที่บริษัทได้พยายามที่จะให้ความช่วยเหลือ โดยการลด ภาระ ของต้นทุนทางสังคมเหล่านี้ทางด้านธุรกิจที่จะกลายเป็นมี ประสิทธิภาพ น้อยกว่าทั้งราคาขึ้นไปจ่ายเงินสำหรับการลงทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการจัดกิจกรรมใหม่และการวิจัยจะเลื่อนออกไป ผลการทดสอบนี้ส่งผลกระทบในทางลบต่ออาจเคราะห์ร้าย - ประสิทธิภาพ ระยะยาวของธุรกิจ วงการสื่อสารมวลชนทุกคนจึงอ้างถึงความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรธุรกิจและ"ลัทธิความจริง)โดยพื้นฐาน"และได้ระบุไว้ว่า: