From 1953 to 1975, Iran underwent a

From 1953 to 1975, Iran underwent a dramatic trans- formation. Muhammad Reza Shah pursued an aggressive Western-oriented socioeconomic modernization pro- gram, known as the White Revolution (1963-1977), and an aggressive expansion of the state.15 During this time, the shah carried out much of the work that his father— Reza Shah Pahlavi—had abandoned when he was forced to leave power in 1941, including an intense push to ex- pand three crucial sectors of the state: the military, the bureaucracy, and the court patronage system. In many ways, Muhammad Reza Shah set up an even more cen- tralized state than his father had by taking major steps to advance the country’s military, infrastructure, industry, and external trade, while advocating for land reforms and state-sponsored scholarships to Iranian students.
The shah alienated many people with these reforms. Landlords lost substantial power and influence due to land reforms, while peasants did not necessarily benefit from the increasing oil revenues and institutional reforms. Likewise, the Bazaaris (merchants of the central market in Tehran) were put off by national-level industrializa- tion, which often developed at their expense. Moreover, the shah demonized the clergy and instituted liberal dress codes and social norms, resulting in a widespread gulf be- tween his secularized supporters and the more conserva- tive elements of society.16
Although the shah had initially enjoyed the support of the ulama (the educated class of Muslim legal scholars), friction grew as he extended state influence over poli- cy areas previously dominated by the ulama, including education, law, religious endowments, and land admin- istration.17 In response to the shah’s overreach, Ayatol-
lah Ruhollah Khomeini began to argue against the shah, absolutism, and foreign interference in Iranian affairs. In 1963, Khomeini’s uncompromising position fueled a series of ulama-led popular demonstrations and dis- turbances in Qum and other major cities, which were brutally suppressed by the shah.
Following the uprising in Qum, Khomeini was exiled from Iran in 1964 for his criticism of the shah. While in exile, Khomeini traveled from Turkey to Iraq, and ul- timately to Paris where he persisted in preaching his re- ligious message aimed at weakening the shah’s hold on power. Khomeini’s exile afforded him the opportunity to refine his attacks against the shah, and he was able to gain stature within Iran despite living abroad. Thus, by the 1970s, he had emerged as Mohammad Reza Shah’s most potent enemy.18
Khomeini and a rising, vocal minority of ulama openly opposed the shah’s modernization policies, most notably land reform and women’s suffrage. In addition, Khomeini despised Iran’s close relationship with the United States, Israel, and multinational companies, which he viewed as a threat to national independence, Muslim life, and Is- lam. From his pulpit, first in Qum and later from abroad, Khomeini incited and galvanized people against foreign influence. He condemned the United States as “an enemy of Islam in all its policies, this hostility being particularly apparent in its support for Israel and the nature of its in- fluence in Iran.”19 Yet despite these clear and longstanding commitments to the transformation of the political and social order, the Iranian revolution unfolded in stages.20
During the mid-1970s, the shah’s regime believed that the

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จาก 1953 ถึง 1975 อิหร่านผ่านละครทรานส์ก่อ มุหัมมัด Reza Shah ติดตามการก้าวร้าวเน้นตะวันตกประชากรนวัตกรรม pro-กรัม เรียกว่าการปฏิวัติขาว (1963-1977), และ state.15 การขยายก้าวร้าวในช่วงเวลานี้ ชาห์ที่ดำเนินงานมากที่เขาพ่อ — Reza ชาห์ปาห์ลาวีซึ่งได้ถูกทอดทิ้งเมื่อเขาถูกบังคับให้ปล่อยพลังงานใน 1941 รวมถึงการดันรุนแรงอดีต-pand 3 ภาคที่สำคัญของรัฐ : ทหาร ข้าราชการที่ และระบบอุปถัมภ์ของศาล ในหลาย ๆ มุหัมมัด Reza Shah ตั้งค่าสถานะ cen tralized ยิ่งกว่าบิดาของเขาได้ โดยทำตามขั้นตอนที่สำคัญล่วงหน้าของทหาร โครงสร้าง อุตสาหกรรม และ ค้าภายนอก ในขณะที่ advocating สำหรับการปฏิรูปที่ดินและรัฐสนับสนุนทุนการศึกษานักศึกษาอิหร่านชาห์ที่ alienated ปฏิรูปเหล่านี้หลายคน มัดกระแสไฟฟ้าที่พบ และมีอิทธิพลต่อเนื่องการปฏิรูปที่ดิน ในขณะที่ชาวนาได้ไม่จำเป็นต้องได้รับประโยชน์จากรายได้น้ำมันเพิ่มขึ้นและการปฏิรูปสถาบัน ทำนองเดียวกัน Bazaaris (พ่อค้าตลาดกลางในเตหราน) ถูกนำออก โดยระดับชาติ industrializa-สเตรชัน ซึ่งมักจะพัฒนาที่ค่าใช้จ่ายของพวกเขา นอกจากนี้ ชาห์ที่ demonized เคลอจี และโลกเสรีนิยมการแต่งกาย และ บรรทัดฐานทางสังคม เกิดเป็นอ่าวที่แพร่หลายถูก-tween ผู้สนับสนุนของเขา secularized และ conserva-tive องค์ประกอบเพิ่มเติมของ society.16แม้ว่าชาห์เริ่มมีความสุขสนับสนุน ulama (ชั้นศึกษาของนักวิชาการทางกฎหมายมุสลิม), แรงเสียดทานขึ้นมาเขาขยายอิทธิพลรัฐพื้นที่ poli cy ที่เคย ครอบงำ โดย ulama ศึกษา กฎหมาย ที่สาธารณะ กุศลทางศาสนา และที่ดิน admin istration.17 ในการตอบสนองของชาห์ overreach, Ayatol-lah ลลอฮ์เริ่มค้านชาห์ อันทรงภูมิธรรม และสัญญาณรบกวนที่ต่างประเทศในกิจการอิหร่าน ใน 1963 ตำแหน่งที่แน่วแน่ของโคเป็นเชื้อเพลิงชุดสาธิตนิยมนำ ulama และ dis-turbances Qum และเมืองสำคัญอื่น ๆ ที่หฤโหดได้ถูกระงับ โดยชาห์ต่อสู้ใน Qum โคถูกเนรเทศจากอิหร่านในปี 1964 ในชาห์วิจารณ์เขา ในพลัดถิ่น โคเดินจากตุรกีกับอิรัก ul-timately ไปปารีสที่ซึ่งเขายังคงอยู่ในการดูข้อความใหม่ ligious ของเขามุ่งที่การลดลงของชาห์ระงับอำนาจทาง พลัดถิ่นของโคนี่เขาโอกาสเพื่อคัดสรรชาห์เขาโจมตี และเขาได้รับรูปร่างภายในอิหร่านแม้อยู่ต่างประเทศ ดังนั้น โดยสาว ๆ เขาได้เกิดเป็น Mohammad Reza Shah enemy.18 มีศักยภาพมากที่สุดโคและแบบไรซิ่ง vocal ชาว ulama เทียบนโยบายความทันสมัยของชาห์ ปฏิรูปที่ดินและ suffrage ของผู้หญิงส่วนใหญ่อย่างเปิดเผย นอกจากนี้ โคชิงความสัมพันธ์ของอิหร่านกับสหรัฐอเมริกา อิสราเอล และ บริษัทข้ามชาติ ซึ่งเขามองว่าเป็นภัยคุกคามต่อเอกราช ชีวิตมุสลิม และเป็นลำ จากแท่นเทศน์ของเขา แรก ใน Qum ในภายหลัง จากต่าง ประเทศ โค incited และชุบสังกะสีคนกับอิทธิพลต่างประเทศ เขาประณามสหรัฐอเมริกาเป็น "ศัตรูของอิสลามในนโยบายทั้งหมดของ นี้เป็นศัตรูที่ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสนับสนุนอิสราเอลและลักษณะของของใน-fluence ในอิหร่าน" 19 ยัง แม้เหล่านี้ชัดเจน และว่าการต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงของใบสั่งการเมือง และสังคม การปฏิวัติอิหร่านกางออกใน stages.20ในระหว่างที่กลางทศวรรษ 1970 ระบอบการปกครองชาห์เชื่อว่าการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จาก 1953-1975 อิหร่านเปลี่ยนรูปแบบทรานส์อย่างมาก มูฮัมหมัดเรซาชาห์ไล่ตามความทันสมัยก้าวร้าวทางเศรษฐกิจและสังคมตะวันตกที่มุ่งเน้นกรัมโปรที่เรียกว่าการปฏิวัติขาว (1963-1977) และการขยายตัวก้าวร้าวของ state.15 ในช่วงเวลานี้, อิหร่านดำเนินการมากจากการทำงานที่พ่อของเขา - เรซาปาห์ลาวีชาห์-ทิ้งเมื่อเขาถูกบังคับให้ออกจากอำนาจในปี 1941 รวมทั้งการผลักดันที่รุนแรงเพื่ออดีตแพนสามภาคที่สำคัญของรัฐ: ทหารข้าราชการและระบบอุปถัมภ์ศาล ในหลาย ๆ วิธีมูฮัมหมัดชาห์เรจัดตั้งรัฐ cen- มากยิ่งขึ้น tralized กว่าพ่อของเขาโดยทำตามขั้นตอนที่สำคัญเพื่อความก้าวหน้าของประเทศทหารโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมและการค้าภายนอกในขณะที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปที่ดินและทุนการศึกษารัฐสนับสนุนการอิหร่าน นักเรียน.
อิหร่านแปลกหลายคนที่มีการปฏิรูปเหล่านี้ เจ้าของบ้านสูญเสียอำนาจและอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการปฏิรูปที่ดินในขณะที่ชาวบ้านไม่จำเป็นต้องได้รับประโยชน์จากรายได้จากน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและการปฏิรูปสถาบัน ในทำนองเดียวกัน Bazaaris (พ่อค้าในตลาดกลางในกรุงเตหะราน) ถูกนำออกโดยระดับชาติการ industrializa- ซึ่งมักจะได้รับการพัฒนาของพวกเขาที่ค่าใช้จ่าย นอกจากนี้อิหร่านประณามพระสงฆ์และทำการรหัสชุดเสรีนิยมและบรรทัดฐานทางสังคมที่เกิดในอ่าวไทยอย่างกว้างขวางโดยสลับทวีสนับสนุนทางโลกของเขาและองค์ประกอบเชิง conserva- มากขึ้นของ society.16
แม้ว่าอิหร่านได้มีความสุขในตอนแรกการสนับสนุนของ Ulama (ที่ ชั้นการศึกษาของนักวิชาการนักกฎหมายมุสลิม) แรงเสียดทานเพิ่มขึ้นในขณะที่เขาขยายอิทธิพลของรัฐมากกว่าพื้นที่ cy poli- ครอบงำโดยก่อนหน้านี้ Ulama รวมทั้งศึกษากฎหมายพลังทางศาสนาและที่ดิน admin- istration.17 ในการตอบสนองไปถึงกษัตริย์ที่ Ayatol -
lah Ruhollah Khomeini เริ่มที่จะเถียงกับอิหร่านที่สมบูรณาญาสิทธิราชย์และการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการอิหร่าน ในปี 1963 ตำแหน่งแน่วแน่ของ Khomeini เชื้อเพลิงชุดของ Ulama นำการประท้วงที่นิยมและ turbances ปรากฏใน Qum และเมืองใหญ่อื่น ๆ ที่มีการปราบปรามอย่างไร้ความปราณีจากอิหร่าน.
หลังจากการจลาจลใน Qum ที่ Khomeini ถูกเนรเทศออกจากอิหร่านในปี 1964 สำหรับการวิจารณ์ของเขา ของอิหร่าน ในขณะที่ถูกเนรเทศ Khomeini เดินทางมาจากตุรกีไปยังอิรักและ UL- timately ไปปารีสซึ่งเขายังคงอยู่ในพระธรรมเทศนาข้อความ ligious ของเขาอีกครั้งมุ่งเป้าไปที่การลดลงของอิหร่านถืออำนาจ ถูกเนรเทศของ Khomeini เจ้าตัวเขามีโอกาสที่จะปรับแต่งการโจมตีของเขากับอิหร่านและเขาก็สามารถที่จะได้รับสูงภายในอิหร่านแม้จะอยู่ต่างประเทศ ดังนั้นโดยปี 1970 เขาได้กลายเป็นโมฮัมหมัดเรซาชาห์มีศักยภาพมากที่สุด enemy.18
Khomeini และเพิ่มขึ้นเสียงข้างน้อยของ Ulama อย่างเปิดเผยตรงข้ามกับอิหร่านนโยบายทันสมัยสะดุดตาที่สุดการปฏิรูปที่ดินและสตรีอธิษฐาน นอกจากนี้ Khomeini เกลียดความสัมพันธ์ใกล้ชิดของอิหร่านกับสหรัฐอเมริกาอิสราเอลและ บริษัท ข้ามชาติซึ่งเขามองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นอิสระแห่งชาติชีวิตของชาวมุสลิมและล์ลำ จากมุขของเขาเป็นครั้งแรกใน Qum และต่อมาจากต่างประเทศ Khomeini เข้าฝันคนและสังกะสีกับอิทธิพลจากต่างประเทศ เขาประณามสหรัฐอเมริกาเป็น "ศัตรูของศาสนาอิสลามในนโยบายทั้งหมดของการเป็นปรปักษ์นี้เป็นที่เห็นได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสนับสนุนอิสราเอลและธรรมชาติของห fluence ในอิหร่าน." 19 แต่แม้จะมีภาระผูกพันเหล่านี้ชัดเจนและยาวนานไปสู่การเปลี่ยนแปลงของ คำสั่งทางการเมืองและสังคมการปฏิวัติอิหร่านใน stages.20
กางออกในช่วงกลางปี​​1970 ระบอบกษัตริย์ที่เชื่อกันว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จาก 2496 ถึง 1975 อิหร่านรับละครทรานส์ - เกิด Muhammad Reza Shah มุ่งเน้นทางด้านการติดตาม ก้าวร้าว เวสเทิร์นโปรแกรมที่เรียกว่าการปฏิวัติขาว ( 1963-1977 ) , และการขยายตัวเชิงรุกของ state.15 ในช่วงเวลานี้ อิหร่านดำเนินการมากของงานที่พ่อ - Reza Shah ปาห์ลาวีทิ้งเมื่อเขาถูกบังคับให้ลงจากอำนาจในปี 1941รวมทั้งผลักดันเข้ม Ex - ฟอสฟอรัส 3 ภาคที่สำคัญของรัฐ ทหาร ข้าราชการ และศาล ในระบบ ในหลายวิธี มุฮัมมัด เรซา ชาตั้งศูนย์มากขึ้น tralized รัฐกว่าพ่อของเขา โดยการใช้ขั้นตอนที่สำคัญล่วงหน้า ทหารของประเทศโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรม และการค้าภายนอกในขณะที่การสนับสนุนสำหรับการปฏิรูปที่ดิน และรัฐสนับสนุนทุนการศึกษากับนักเรียนชาวอิหร่าน
อิหร่านแปลกแยกหลายคนกับการปฏิรูปเหล่านี้ เจ้าของบ้านสูญเสียพลังงานอย่างมากและอิทธิพลจากการปฏิรูปที่ดิน ในขณะที่ชาวนาไม่จําเป็นต้องได้รับประโยชน์จากการเพิ่มรายได้จากน้ำมันและการปฏิรูปสถาบัน อนึ่งการ bazaaris ( ร้านค้าของตลาดกลางในเตหะราน ) ถูกใส่ปิด โดย industrializa - ระดับชาติ tion ซึ่งมักจะพัฒนาขึ้นที่ค่าใช้จ่ายของพวกเขา นอกจากนี้ อิหร่าน demonized คณะสงฆ์แทนรหัสเครื่องแต่งกายและเสรีนิยมและบรรทัดฐานทางสังคมที่เกิดขึ้นในอ่าวฉาว - นของเขา secularized ผู้สนับสนุนและยิ่ง conserva - tive 16
องค์ประกอบของสังคมถึงแม้ว่าอิหร่านได้เริ่มเพลิดเพลินกับการสนับสนุนของลามา ( ระดับการศึกษาของนักวิชาการมุสลิมกฎหมาย ) , แรงเสียดทานเติบโตเป็นเขาขยายอิทธิพลเหนือรัฐ โปลี - ไซพื้นที่ก่อนหน้านี้ dominated โดย ลามะ รวมถึงการศึกษา กฎหมาย ผู้นำศาสนา และที่ดิน - istration.17 admin ในการตอบสนองของชาเกิน ayatol -
ลา , อายะตุลลอฮ์ โคมัยนี เริ่มเถียงกับ ชาห์สมบูรณาญาสิทธิราชย์ และต่างชาติแทรกแซงกิจการของอิหร่าน ในปี 1963 , ตำแหน่งแน่วแน่ Khomeini n ชุด ลามะนำการสาธิตที่นิยมและ dis - turbances ในกุม และเมืองใหญ่อื่น ๆที่ฉันถูกปราบโดย Shah .
ต่อไปนี้การจลาจลในกุม Khomeini , ถูกเนรเทศออกจากอิหร่านใน 1964 สำหรับการวิจารณ์ของเขาของอิหร่าน . ในขณะที่ในการเนรเทศ