นับตั้งแต่อดตีจนถึงปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่มีความเชื่อมากมายที่อยู่ในจิตใจสิ่งเหล่านี้หรือความเชื่อเหล่านี้ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเราด้วย เช่น ความเชื่อที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของคนไทยนั้นมีอยู่หลายความเชื่อซึ่งแตกต่างกันออกไปตามท้องถิ่น และวิธีชีวิตของแต่ละบุคคล เพราะคนไทยมีความเชื่อมากมาย ความเชื่อนั้น ก็มีทั้งส่งผลดีละส่งผลเสียด้วยเช่นกัน และส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเราด้วยเช่นกันซึ่งคนไทยส่วนใหญ่มีความเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่รอบๆตัวเรา เช่น ข้าวที่เรากิน รถที่เราขับหรือที่อยู่อาศัยของเราล้วนแต่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดูแลหรือ คุ้มครองอยู่ทุกที่ เช่น การขับรถเมื่อเราขับขี่รถหรือซื้อรถความเชื่อของเราคือ เราจะนำพวงมาลัยมากราบไหว้รถเพราะเราเชื่อว่ารถของเราทุกคันนั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะความเชื่อที่ว่า จะทำให้เป็นสิริมงคล ขับขี่ปลอดภัยและเราก็ต้องใช้รถในทุกๆวันความเชื่องเรื่องสิงศักดิ์สิทธิ์นี้จึงส่งผลต่อชีวิตประจำวันของพวกเราเพื่อไม่ให้เกิดความกังวนในการขับขี่รวมถึงความไม่ประมาทด้วย ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ก็เพื่อความสบายใจเพราะเป็นการสืบสารต่อกันมาเปรียบเสมือนเป็นที่พึ่งทางจิตใจของมนุษย์อีกอย่างหนึ่งที่มีความเชื่อเหล่านี้ และจะมีพิธีกรรมต่างที่เราเห็นจนเกิดเป็นวัฒนธรรมหรือประเพณีที่สืบทอดกันมา ตัวอย่างเช่น เกษตรกรที่ทำนา หรือ ทำไร่เมื่อถึงเวลาที่จะได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ก่อนการเก็บเกี่ยวก็จะมีการไหว้ผีไร่ผีนา เพื่อให้เป็นสิริมงคล และเพื่อความสบายใจที่ทำสืบทอดกันมา ซึ่งเราสามารถเห็นได้ตามทั่วไปในต่างจังหวัด เชื่อกันว่าจะทำให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตราบรื่นและได้ผลติที่ดี แต่ยังไรก็ตามความเชื่อนี้ส่งผลโดยตรงคือทางด้านจิตใจ ให้มีความเชื่อหมั่น ทำให้เกิดความสบายใจ สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่า ความเชื่อเรื่อองสิ่งศักดิ์สิทธิ์ส่งผลต่อชีวิตเราไม่มากก็น้อย แต่ก็ยังมีอยู่ในความเชื่อของคนส่วนใหญ่ และเพื่อความสบายใจของคนที่เชื่อเรื่อง สิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ก็เพื่อความสบายใจของผู้ที่เชื่อเองและส่งผลทำให้เกิดกำลังใจและมีความหวังที่จะทำบางสิ่งบางอย่างให้เต็มที่ โดยมีความเชื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวของจิตใจ ความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เปรียบเสมื่อนกำลังใจ หรือเมื่อเรามีปัญหา ณ.ตอนนั้นถ้าเรายังหาวิธีแก้ปัญหาไม่ได้เราก็จะไปขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความสบายใจก่อน และค่อยๆคิดวิธีแก้ปัญหา ดังนั้นจึงมองว่าสิ่งเหล่านี้บางครั้งเรื่องนี้ก็สอนให้เราดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง และยังส่งผลดีอีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัว ความเชื่อทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างความสัมพันธ์ให้กับครอบครัวได้เช่นกัน เช่น การทำบุญบ้านในวันขึ้นปีใหม่ของไทย หรือที่เรียกว่าวันสงกานต์ วันนี้คนส่วนใหญ่จะทำบุญบ้านกัน เพื่อเป็นสิริมงคลเป็นเหมือนการทำบุญให้สิ่งศักดิ์ที่คุ้มครองบ้านเราอยู่เพื่อเป็นการเคารพนับถือและมีการทำบุญให้แก่บรรพบุรุษเราด้วย แต่ผลดีที่เกิดขึ้นอีกอย่างคือ การที่พวกเราลูกหลานได้กับมาบ้าน อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากัน และได้ทำการขอขมาผู่ใหญ่ที่เราได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ซึ่งถ้าเป็นแบบวันธรรมดาเราอาจจะไม่ได้มีโอกาสที่จะทำแบบนี้ หรือ จะได้ร่วมกันทำกิจกรรมในครอบครัวแบบนี้ก็ได้เพราะทุกคนอาจไม่ค่อยมีเวลาให้กันมากนัก จึงเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้มาพบกัน ดังนั้น ความเชื่อบางสิ่งที่เป็นสิ่งดีงามจึงถูกสืบสานต่อกันมาเป็นประเพณี แต่ถึงอย่างไรก็ตามความเชื่อเรื่องสิงศักดิ์สิทธิ์หรือสิ่งรี้ลับ ก็มีทั้งความเชื่อที่ดีและไม่ดีเช่นกัน และได้มีบุคคลกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า
“มนุษย์ ทุกคนมีความเชื่อและความศรัทธาในแต่ละศาสนา สืบทอดมาจากพ่อแม่ และบรรพบุรุษ ตามเผ่าพันธุ์ที่สืบเชื้อสายต่อกันมา แต่ละกลุ่มแต่ละเผ่าพันธุ์ก็มักจะเชื่อว่าสิ่งที่ตนเองศรัทธานั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง สืบทอดต่อกันมาผู้ที่จะต้องยอมรับที่จะเชื่อ คือ คนธรรมดาๆ ชาวบ้าน แม่ค้า นักเรียน นักศึกษา นักธุรกิจมนุษย์ทุกชนชั้นที่เป็นผู้โดนกระทำ และพร้อมจะเป็นผู้กระทำตามในสิ่งที่เชื่อ เพื่อผลประโยชน์ในความเชื่อของตนเอง และสิ่งที่คิดว่าจะได้เมื่อทำตาม บุคคลเหล่านี้ตกอยู่ในสภาวะที่แตกต่างกันความเชื่อของคนไทย ความเชื่อของมนุษย์ส่วนใหญ่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมีผลต่อวิถีชีวิตมนุษย์ ทั้งให้คุณประโยชน์และให้โทษ แล้วมนุษย์ไม่สามารถค้นหาสาเหตุมาอธิบายได้ ทำให้เกิดความหวาดกลัวสำหรับบริบทของสังคมไทยในทุกภาคส่วน มีความเชื่อที่หลากหลาย อันเป็นที่มาของความเชื่อและพิธีกรรมตามประเพณี มีธรรมเนียมและรูปแบบการปฏิบัติที่แปลกแตกต่างกัน” (http://punyawat63.blogspot.com) ดังนั้น ความเชื่อของคนไทย ก็อยู่ในวิธีชีวิตและการดำรงชีวิตของคนไทยทั้งสิ้น ซึ้งความเชื่อต่างๆนี้ได้มีการสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และก็ยังมีการปฏิบัติหรือการนำเอามาใช้ในชีวิตประจำวันของเราด้วย