This scenario is all too common ins

This scenario is all too common in
secondary schools throughout the
United States. In most cases, it is less
the result of disinterested students or a
boring teacher than the symptoms of
chronic sleepiness. Lack of sleep is associated with academic and behavior
problems, tardiness and absenteeism,
reduced alertness, and heightened irritability. Sleep researchers suggest that
between 15% and 30% of all children
may have a sleep disturbance at some
point during childhood (Kahn et al.,
1989), and some estimates indicate that
between 33% and 75% of all adolescents have sleep problems (Morrison,
McGee, & Stantan, 1992; Strauch &
Meier, 1988). To put this in perspective, the prevalence rate for attention
deficit hyperactivity disorder (ADHD)
is conservatively estimated to affect
3%–5% of children (Barkley, 1998)
and the Childhood Asthma Foundation
(2004) reports that up to 20% of children may have asthma.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สถานการณ์นี้มีทั้งหมดด้วยกันในโรงเรียนมัธยมทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ในกรณีส่วนใหญ่ก็จะน้อยกว่าผลของนักเรียนไม่สนใจหรือเป็นครูที่น่าเบื่อกว่าอาการของง่วงนอนเรื้อรัง ขาดการนอนหลับมีความเกี่ยวข้องกับนักวิชาการและพฤติกรรมปัญหาล่าช้าและขาดความตื่นตัวลดลงและมีความคิดริเริ่มหงุดหงิด นักวิจัยการนอนหลับที่ชี้ให้เห็นว่าระหว่าง 15% และ 30% ของเด็กทุกคนอาจจะมีการรบกวนการนอนหลับที่บางจุดในช่วงวัยเด็ก (คาห์น et al., 1989) และประมาณการบางระบุว่าระหว่าง33% และ 75% ของวัยรุ่นทุกคนมีปัญหาการนอนหลับ ( มอร์ริสันMcGee และ Stantan 1992; Strauch & ไมเออร์, 1988) ที่จะนำเรื่องนี้ในมุมมองของอัตราความชุกสำหรับความสนใจขาดดุล hyperactivity โรค (ADHD) เป็นที่คาดกันอนุรักษ์นิยมจะมีผลต่อ3% -5% ของเด็ก (บาร์คลีย์, 1998) และในวัยเด็กของมูลนิธิโรคหืด(2004) รายงานว่าได้ถึง 20% ของเด็ก อาจมีอาการหอบหืด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สถานการณ์ทั้งหมดนี้ด้วยเหมือนกัน

โรงเรียนมัธยมทั่วสหรัฐอเมริกา ในกรณีส่วนใหญ่มันน้อยลง
ผลนักเรียนไม่สนใจ หรือครูที่น่าเบื่อกว่า

ง่วงนอน อาการเรื้อรัง ขาดการนอนหลับที่เกี่ยวข้องกับวิชาการและปัญหาความล่าช้า และการพฤติกรรม

, , ลดความตื่นตัว และความหงุดหงิด นักวิจัยแนะนำว่า
นอนระหว่าง 15% และ 30% ของเด็กทุกคน
อาจจะรบกวนการนอนหลับที่บางจุดในช่วงวัยเด็ก
( Kahn et al . ,
1989 ) และบางประมาณการระบุว่า
ระหว่างร้อยละ 33 และ 75% ของวัยรุ่นมีปัญหาการนอน ( มอร์ริสัน ,
McGee , & stantan , 1992 ; strauch &
ไมเออร์ , 1988 ) วางนี้ในมุมมอง อัตราความชุกความสนใจขาดดุล hyperactivity โรค

( สั้น )เป็นอนุรักษ์นิยมคาดว่าจะมีผลต่อ
3 % ) ร้อยละ 5 ของเด็ก ( บาร์กลีย์ , 1998 ) และมูลนิธิโรคหืดในวัยเด็ก

( 2004 ) รายงานว่า ถึง 20% ของเด็กอาจมีอาการหอบหืด