NELSON MANDELA AS PRESIDENT OF SOUT

NELSON MANDELA AS PRESIDENT OF SOUTH AFRICA
After attaining his freedom, Nelson Mandela led the ANC in its negotiations with the governing
National Party and various other South African political organizations for an end to apartheid and the
establishment of a multiracial government. Though fraught with tension and conducted against a backdrop
of political instability, the talks earned Mandela and de Klerk the Nobel Peace Prize in December 1993.
On April 26, 1994, more than 22 million South Africans turned out to cast ballots in the country’s first
multiracial parliamentary elections in history. An overwhelming majority chose the ANC to lead the
country, and on May 10 Mandela was sworn in as the first black president of South Africa, with de Klerk
serving as his first deputy.
As president, Mandela established the Truth and Reconciliation Commission to investigate
human rights and political violations committed by both supporters and opponents of apartheid between
1960 and 1994. He also introduced numerous social and economic programs designed to improve the
living standards of South Africa’s black population. In 1996 Mandela presided over the enactment of a
new South African constitution, which established a strong central government based on majority rule and
prohibited discrimination against minorities, including whites.
Improving race relations, discouraging blacks from retaliating against the white minority and
building a new international image of a united South Africa were central to President Mandela’s agenda.
To these ends, he formed a multiracial “Government of National Unity” and proclaimed the country a
“rainbow nation at peace with itself and the world.” In a gesture seen as a major step toward
reconciliation, he encouraged blacks and whites alike to rally around the predominantly Afrikaner national
rugby team when South Africa hosted the 1995 Rugby World Cup.
On his 80th birthday in 1998, Mandela wed the politician and humanitarian Graça Machel
(1945-), widow of the former president of Mozambique. (His marriage to Winnie had ended in divorce in
1992.) The following year, he retired from politics at the end of his first term as president and was
succeeded by his deputy, Thabo Mbeki (1942-) of the ANC.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เนลสันมันเดลา เป็นประธานาธิบดีแอฟริกาใต้หลังจากบรรลุเสรีภาพของเขา เนลสันมันเดลานำเมือปีในการเจรจากับการควบคุมพรรคชาติและต่าง ๆ แอฟริกันใต้เมืององค์กรอื่น ๆ ให้ยุติการแบ่งแยกสีผิวและการจัดตั้งรัฐบาล multiracial แต่เต็มไป ด้วยความตึงเครียด และดำเนินกับฉากหลังของความไม่แน่นอนทางการเมือง เจรจาได้รับมันเดลาและ de Klerk โนเบลสันติภาพในเดือน 1993 ธันวาคมบน 26 เมษายน 1994 แอฟริกาใต้มากกว่า 22 ล้านเปิดออกทอดสลากในประเทศของmultiracial การเลือกตั้งรัฐสภาในประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่ที่ครอบงำเลือกเมือปีนำไปประเทศ และวันที่ 10 พฤษภาคม มันเดลาถูกสาบานในการเป็นประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ กับ de Klerk แรกที่ดำบริการเป็นรองแรกของเขาเป็นประธาน มันเดลาสร้างความจริงและกระทบยอดค่าคอมมิชชันการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนและละเมิดทางการเมืองโดยสนับสนุนและฝ่ายตรงข้ามของการแบ่งแยกสีผิวระหว่าง1960 และปี 1994 เขายังแนะนำต่าง ๆ ทางสังคม และเศรษฐกิจโปรแกรมออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการคุณภาพชีวิตของประชากรดำแอฟริกาใต้ ในปี 1996 มันเดลา presided ไปออกแบบแอฟริกาใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งก่อตั้งขึ้นตามกฎส่วนใหญ่รัฐบาลกลางที่แข็งแกร่ง และห้ามเลือกปฏิบัติต่อคมิ รวมทั้งขาวปรับปรุงความสัมพันธ์แข่งขัน discouraging ดำจาก retaliating กับชนกลุ่มน้อยสีขาว และอาคารรูปนานาชาติใหม่ของแอฟริกาใต้สหรัฐถูกศูนย์กลางวาระประธานาธิบดีมันเดลาการสิ้นสุดเหล่านี้ เขาเกิด multiracial "รัฐบาลของชาติสามัคคี" และประกาศประเทศ"เรนโบว์ชาติความสงบกับตัวเองและโลก" ในรูปแบบลายเส้นถือเป็นขั้นตอนสำคัญต่อการกระทบยอด เขาสนับสนุนให้ดำและขาวเหมือนชุมนุมสถานส่วนใหญ่ Afrikaner แห่งชาติทีมรักบี้เมื่อแอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกรักบี้ 1995ในวันเกิดของเขา 80 ในปี 1998 มันเดลาพ.นักการเมืองและมนุษยธรรม Graça Machel(1945-), แม่ม่ายของอดีตประธานาธิบดีของประเทศโมซัมบิก (เขาแต่งงานกับวินนี่ได้สิ้นสุดลงหย่าร้างใน1992) ปีต่อไปนี้ เขาออกจากตำแหน่งทางการเมืองที่ตอนท้ายของคำแรกของเขาเป็นประธาน และมีได้สำเร็จ โดยเขาเป็นรอง ทาโบมเบคี (ปี 1942-) ของ ANC.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Nelson Mandela เป็นประธานของแอฟริกาใต้
หลังจากบรรลุเสรีภาพของเขา Nelson Mandela นำ ANC ในการเจรจากับว่า
พรรคชาติและอื่น ๆ อีกมากมายเซาท์แอฟริกันองค์กรทางการเมืองให้ยุติการแบ่งแยกสีผิวและ
การจัดตั้งรัฐบาลเชื้อชาติ แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความตึงเครียดและการดำเนินการกับฉากหลัง
ของความไม่มั่นคงทางการเมืองการเจรจาได้รับแมนเดลาและ Klerk โนเบลสาขาสันติภาพในธันวาคม 1993.
ที่ 26 เมษายนปี 1994 มากกว่า 22 ล้านแอฟริกาใต้หันออกไปลงคะแนนเสียงในประเทศเป็นครั้งแรกของ
เชื้อชาติ การเลือกตั้งรัฐสภาในประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่เลือกที่จะ ANC ที่จะนำ
ประเทศและวันที่ 10 พฤษภาคมแมนเดลาสาบานว่าในฐานะประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของแอฟริกาใต้ที่มี de Klerk
ทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการครั้งแรกของเขา.
ในฐานะประธานแมนเดลาเป็นที่ยอมรับในความจริงและคณะกรรมการสมานฉันท์ในการตรวจสอบ
ของมนุษย์ และการละเมิดสิทธิทางการเมืองที่ได้กระทำโดยทั้งผู้สนับสนุนและฝ่ายตรงข้ามของการแบ่งแยกระหว่าง
ปี 1960 และปี 1994 นอกจากนี้เขายังแนะนำหลายโครงการทางสังคมและเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุง
มาตรฐานการดำรงชีวิตของประชากรสีดำของแอฟริกาใต้ ในปี 1996 แมนเดลาเป็นประธานในการตรากฎหมายของ
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เซาท์แอฟริกันซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐบาลกลางที่เข้มแข็งขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากและ
ห้ามการเลือกปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยรวมทั้งคนผิวขาว.
การปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างการแข่งขันท้อใจคนผิวดำจากตอบโต้กับชนกลุ่มน้อยสีขาวและ
สร้างใหม่ในต่างประเทศ ภาพของสหรัฐแอฟริกาใต้เป็นศูนย์กลางของวาระการประชุมประธานแมนเดลา.
ไปจนสุดปลายเหล่านี้เขากลายเป็นเชื้อชาติ "รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ" และประกาศประเทศ
"ชาติรุ้งที่มีสันติภาพกับตัวเองและโลก." ในท่าทางมองว่าเป็น ขั้นตอนที่สำคัญต่อการ
คืนดีเขาสนับสนุนให้คนผิวดำและคนผิวขาวเหมือนกันที่จะมาชุมนุมรอบแห่งชาติแอฟริกันส่วนใหญ่
เมื่อทีมรักบี้แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ 1995 รักบี้เวิลด์คัพ.
ในวันเกิด 80 ของเขาในปี 1998 แมนเดลาแต่งงานกับนักการเมืองและมนุษยธรรมGraça Machel
(1945-) ภรรยาม่ายของอดีตประธานาธิบดีของประเทศโมซัมบิก (แต่งงานของเขากับวินนี่จบลงด้วยการหย่าร้างใน
ปี 1992) ในปีต่อไปเขาวางมือจากการเมืองในตอนท้ายของระยะแรกของเขาในฐานะประธานและได้รับการ
ประสบความสำเร็จโดยรองของเขา Thabo Mbeki (1942-) ของ ANC

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เนลสันมันเดลาประธานาธิบดีแห่งแอฟริกาใต้
หลังได้รับอิสรภาพของเขา เนลสัน แมนเดล่า เป็นผู้นำ ANC ในการเจรจากับรัฐ
พรรคชาติและอื่น ๆองค์กรทางการเมืองให้ยุติการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้และ
จัดตั้งรัฐบาลซึ่งมีหลายเชื้อชาติ . แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความตึงเครียดและดำเนินการกับฉากหลัง
ของความไม่แน่นอนทางการเมืองการเจรจา และ เดอ เคลิร์ก แมนเดลาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในธันวาคม 1993
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 1994 มากกว่า 22 ล้านแอฟริกาใต้ออกมาโยนบัตรลงคะแนนในการเลือกตั้งรัฐสภาของประเทศแรก
ซึ่งมีหลายเชื้อชาติในประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่ที่น่าหนักใจเลือก ANC ผู้นำ
ประเทศ และเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม มันเดลาสาบานเป็นประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของแอฟริกาใต้ กับ เดอ เคลิร์ก
ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยครั้งแรกของเขา
ในฐานะประธานาธิบดี แมนเดลาก่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองเพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการเมือง
กระทำโดยทั้งผู้สนับสนุนและฝ่ายตรงข้ามของการแบ่งแยกระหว่าง
1960 และปี 1994 นอกจากนี้เขายังแนะนำมากมาย เศรษฐกิจและสังคม โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพของประชากร
สีดำของแอฟริกาใต้ในปี 1996 - เป็นกฎหมายของแอฟริกาใต้
รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งสร้างแรงรัฐบาลตามกฎ และห้ามการเลือกปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยส่วนใหญ่

รวมทั้งไข่ขาว พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อชาติ บั่นทอนกำลังใจคนผิวดำจากการแก้แค้นส่วนน้อยสีขาว
อาคารภาพนานาชาติแห่งใหม่ของแอฟริกาใต้ถูกกลางของประธานาธิบดีแมนเดล่า วาระ .
เพื่อสิ้นสุดเหล่านี้ เขาจัดตั้งรัฐบาลซึ่งมีหลายเชื้อชาติ " เอกภาพแห่งชาติ " และออกประเทศ
สายรุ้ง " ประเทศที่สงบสุขกับตัวเองและโลก ในท่าทางที่เห็นเป็นขั้นตอนที่สําคัญต่อ
การปรองดองเขาสนับสนุนให้คนผิวดำและผิวขาวเหมือนกันที่จะมาชุมนุมส่วนใหญ่แอฟริกันเนอร์แห่งชาติ
ทีมรักบี้แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพเมื่อปี 1995 รักบี้ฟุตบอลโลก .
ในวันเกิดของเขาในปี 1998 - วิวาห์กับนักการเมือง และมนุษยธรรมเป็นกระทาเชล
( 2488 - ) ภริยาของอดีตประธานาธิบดีของประเทศโมซัมบิก ( การแต่งงานของเขากับวินนี่ได้สิ้นสุดลงในการหย่าร้างใน
1992 ) ปีต่อไปนี้เขาเกษียณจากการเมืองที่ปลายเทอมแรกของเขาในฐานะประธานและ
สำเร็จโดยรองของเขา Thabo Mbeki ( 1942 - ) ของ ANC .