3 การเตรียมวัสดุสีที่ใช้ Preparing Finishing Materials (13)• ตรวจสอบคว การแปล - 3 การเตรียมวัสดุสีที่ใช้ Preparing Finishing Materials (13)• ตรวจสอบคว ไทย วิธีการพูด

3 การเตรียมวัสดุสีที่ใช้ Preparing

3 การเตรียมวัสดุสีที่ใช้ Preparing Finishing Materials (13)

• ตรวจสอบความถูกต้องของวัสดุสีที่จะนำมาใช้ในการผสม ให้แน่ใจก่อนที่จะทำการผสมว่าได้นำสีและส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ในการผสม เช่น ความเงา ถูกต้อง รหัสถูกต้อง ทินเนอร์ ตัวที่เลือกใช้ หรือส่วนผสมอื่นที่ใช้เตรียมไว้ถูกต้องแล้วจึงทำการผสม
• หลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ก่อนทำการผสมนั้นให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของบริษัทสีที่แนะนำมาเสียก่อน เช่นตัวสีก่อนผสมต้องมีการกวนหรือคนสีให้เข้ากันดีเสียก่อนจึงเทใส่ภาชนะที่จะใช้ผสม เนื่องจากสีที่เก็บไว้จะมีการตกตะกอนเป็นชั้นๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติแต่เราต้องเข้าใจ และทำตามให้ถูกต้องเป็นต้น
• อายุการเก็บรักษา นี้เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผู้ใช้ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะวัสดุสีแต่ละตัว แต่ละชนิดมีอายุการเก็บรักษา ที่เรียกกันว่า Shelf Life ที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปสีที่มีส่วนผสมของสารละลายจะมีอายุการเก็บรักษาหนึ่งปี แต่ถ้าเป็นสีที่มีส่วนผสมของน้ำจะมีอายุการเก็บที่สั้นกว่า (ส่วนใหญ่อยู่ที่ 6 เดือน) เป็นต้น ดังนั้นผู้ใช้ต้องนำสีที่มาก่อนใช้ก่อนมาทีหลังใช้ทีหลัง (First In, First Out) โดยผู้ใช้สามารถดูจากวันที่การผลิตที่เรียกกันว่า Production Date และ ล็อตการผลิต หรือ Batch No. ได้จากฉลากข้างกระป๋องซึ่งมีกำกับทุกยี่ห้ออยู่แล้ว

4 ตัวเร่งทำให้แห้งแข็ง ที่นิยมเรียกกันว่า Hardener

• สีที่มีมากกว่าหนึ่งส่วนในการแห้งตัวต้องมีตัวเร่งทำปฏิกิริยาให้เกิดการแห้งและแข็งตัวโดยสมบูรณ์ เช่นสีประเภท AC, PU และ PE เป็นต้น
• การใช้ตัวเร่งต้องตรวจสอบให้ดีเนื่องจากตัวเร่งมีหลายชนิดควรทำความเข้าใจและใช้ให้ถูกต้อง ตามสัดส่วนและปริมาณที่ผู้ผลิตกำหนด
• การเติมตัวเร่งหรือผสมตัวเร่งที่ไม่ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตกำหนด จะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆเช่น ถ้าเป็นสี AC มีส่วนผสมของตัวเร่งมากเกินไปจะทำให้ผิวงานแตกร่อนหลังการแห้งตัวได้ระยะหนึ่ง หรือตัวเร่งส่วนเกินจะระเหิดออกในรูปแบบของการเกิดคราบเหงื่อหลังจากบรรจุแล้วหนึ่งเดือน หรืออีกตัวอย่างของปัญหาคือเฉดสีเพี้ยนไปจากเดิมเป็นต้น
• อายุการใช้หลังผสมตัวเร่ง Pot life สีที่ผสมตัวเร่งแล้วจะมีอายุที่สั้นลงในการจัดเก็บจึงต้องทำความเข้าใจกับการใช้ตัวเร่งของสีแต่ละชนิด เพื่อป้องกันการสูญเสีย

5 ความหนืด Viscosity

โดยทั่วไปสีที่ผู้ผลิตส่งให้กับทางโรงงานนั้น มีความหนืดที่อยู่ในระดับที่สูงเกินไปไม่สามารถพ่นได้ด้วยปืนพ่นสีทั่วไปเนื่องจากสีที่ทางผู้ผลิตเตรียมไว้ เป็นความหนืดที่ครอบคลุมถึงการใช้สำหรับอุปกรณ์ หรือเครื่องทำสีที่แตกต่างกันไปของแต่ละโรงงาน ซึ่งไม่สามารถใช้เป็นความหนืดมาตรฐานเดียวกันได้ อีกทั้งสภาพอากาศก็มีผลต่อความหนืดด้วยเช่นกัน ดังนั้นผู้ผลิตสีจึงทำความหนืดที่สูงขนาดครอบคลุมให้ได้มากที่สุดแล้วทางผู้ใช้สามารถลดความหนืดได้เองง่ายๆโดยการเติมทินเนอร์ เพื่อให้ความหนืดที่ต้องการ การลดความหนืดง่ายมากแต่การเพิ่มความหนืดยากกว่าจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผู้ผลิตสีเลือกการทำความหนืดสูงไว้ก่อน


6 การตรวจสอบความหนืด (Viscosity Check)
รายละเอียดของความหนืดที่พอเหมาะสำหรับการทำงานขึ้นอยู่กับวิธีการ และอุปกรณ์การทำสีที่แตกต่างกัน มักจะมีการแจ้งไว้อยู่ในใบรายละเอียดทางเทคนิคของแต่ละบริษัทสีอยู่แล้ว แต่ในการใช้งานผู้ใช้ควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอว่าได้ผสมสีตามความหนืดที่ถูกต้อง




ภาพที่ 2.3 แสดงถ้วย Din Ford Cup#4 ใช้ในการวัดความหนืด (16)



ความหนืด (1)

โดยปกติทั่วไปจะใช้ มาตรฐานอยู่ 2 มาตรฐานคือ 1.ถ้วยวัดความหนืด มาตรฐานยุโรป DIN Cup ซึ่งจะมีรูขนาด 4 มิลลิลิตร และ 2.มาตรฐานที่ใช้ทั่วไปในเอเชียตามมาตรฐานญี่ปุ่น คือถ้วย IWATA NK 2 ที่มีรูขนาด 4 มิลลิลิตรเช่นกัน การตรวจวัดความหนืดจะวัดโดยการเติมส่วนผสมสีลงในถ้วยตวง วัดจับเวลาที่ใช้จนกว่าถ้วยตวงจะว่างเปล่า เวลาที่ใช้เป็นวินาที และการที่จะกำหนดความหนืดมาตรฐาน จะมีกำหนดที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เพราะ อุณหภูมิ มีผลต่อการวัดความหนืดถ้าสีเคลือบไม้ ได้รับการเก็บในที่เย็นหรืออุณหภูมิต่ำ เนื้อสี จะมีความหนาข้นกว่าและต้องใช้ทินเนอร์มาทำละลายมากกว่า สีเคลือบไม้ที่เย็นเกินไปจะทำให้เกิด สีบาง (Thin Coating) สีแตก (Blistering) และของเสียในแบบอื่น ๆ หลังการผสม

ในโรงงานที่ใช้เครื่องเคลือบสีชนิดม่านน้ำตก ที่เรียกกันว่า Curtain Coater หรือเครื่องเคลือบสีชนิดลูกกลิ้ง หรือ Roller Coater ควรตรวจสอบความหนืดเมื่อเริ่มทำงาน - ขณะทำงาน - หลังจากหยุดพัก และเมื่อมีการเติมเนื้อสี หรือทินเนอร์ ลงไปในเครื่องเคลือบสีแต่ละครั้ง จะต้องใช้ถ้วยวัดความหนืดทำการวัดความหนืดให้ได้มาตรฐานกำหนดเพื่อให้ได้ ชิ้นงานที่ได้คุณภาพคงที่ เนื่องจากอากาศในเมืองไทยมีอุณหภูมิที่สูงสีที่ใช้ในเครื่อง 2 ชนิดนี้มักจะมีความเปลี่ยนแปลงเรื่องความหนืด

การวัดความหนืดหลังผสมสีเสร็จต้องปล่อยให้ส่วนผสมคงตัวสักครู่ ก่อนที่จะใช้ถ้วยวัดความหนืดตรวจสอบความหนืด ทั้งนี้เพื่อเป็นการปล่อยให้อากาศหรือฟองอากาศที่ปนเข้าไปในสีระหว่างการปั่นกวนหรือคนสี ได้ออกจากส่วนผสมเสียก่อน ตรงนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อใช้กับเครื่องเคลือบสีแบบม่านน้ำตก หรือ Curtain Coater เมื่อฟองอากาศติดเข้าไป จะทำให้ม่านแตกออกหรือ การแตกตัว หรือมีฟองอากาศในชั้นสี


ภาพที่ 2.4 แสดงวิธีการวัดความหนืดด้วยถ้วยวัดความหนืดชนิด NK2 (11)
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
3 การเตรียมวัสดุสีที่ใช้เตรียมสิ้นวัสดุ (13)•ตรวจสอบความถูกต้องของวัสดุสีที่จะนำมาใช้ในการผสมให้แน่ใจก่อนที่จะทำการผสมว่าได้นำสีและส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ในการผสมเช่นความเงาถูกต้องรหัสถูกต้องทินเนอร์ตัวที่เลือกใช้หรือส่วนผสมอื่นที่ใช้เตรียมไว้ถูกต้องแล้วจึงทำการผสม•หลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้วก่อนทำการผสมนั้นให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของบริษัทสีที่แนะนำมาเสียก่อนเช่นตัวสีก่อนผสมต้องมีการกวนหรือคนสีให้เข้ากันดีเสียก่อนจึงเทใส่ภาชนะที่จะใช้ผสมเนื่องจากสีที่เก็บไว้จะมีการตกตะกอนเป็นชั้น ๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติแต่เราต้องเข้าใจและทำตามให้ถูกต้องเป็นต้น•อายุการเก็บรักษานี้เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผู้ใช้ต้องให้ความสำคัญเช่นกันเพราะวัสดุสีแต่ละตัวแต่ละชนิดมีอายุการเก็บรักษาที่เรียกกันว่าอายุที่แตกต่างกันโดยทั่วไปสีที่มีส่วนผสมของสารละลายจะมีอายุการเก็บรักษาหนึ่งปีแต่ถ้าเป็นสีที่มีส่วนผสมของน้ำจะมีอายุการเก็บที่สั้นกว่า (ส่วนใหญ่อยู่ที่ 6 เดือน) เป็นต้นดังนั้นผู้ใช้ต้องนำสีที่มาก่อนใช้ก่อนมาทีหลังใช้ทีหลัง (ในก่อน ออกก่อน) โดยผู้ใช้สามารถดูจากวันที่การผลิตที่เรียกกันว่าวันและล็อตการผลิตออกเป็นชุดหมายเลขการผลิต ได้จากฉลากข้างกระป๋องซึ่งมีกำกับทุกยี่ห้ออยู่แล้ว4 ตัวเร่งทำให้แห้งแข็งที่นิยมเรียกกันว่า Hardener•สีที่มีมากกว่าหนึ่งส่วนในการแห้งตัวต้องมีตัวเร่งทำปฏิกิริยาให้เกิดการแห้งและแข็งตัวโดยสมบูรณ์เช่นสีประเภท AC ปูและ PE เป็นต้น•การใช้ตัวเร่งต้องตรวจสอบให้ดีเนื่องจากตัวเร่งมีหลายชนิดควรทำความเข้าใจและใช้ให้ถูกต้องตามสัดส่วนและปริมาณที่ผู้ผลิตกำหนด•การเติมตัวเร่งหรือผสมตัวเร่งที่ไม่ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตกำหนดจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆเช่นถ้าเป็นสีแดมีส่วนผสมของตัวเร่งมากเกินไปจะทำให้ผิวงานแตกร่อนหลังการแห้งตัวได้ระยะหนึ่งหรือตัวเร่งส่วนเกินจะระเหิดออกในรูปแบบของการเกิดคราบเหงื่อหลังจากบรรจุแล้วหนึ่งเดือนหรืออีกตัวอย่างของปัญหาคือเฉดสีเพี้ยนไปจากเดิมเป็นต้น•อายุการใช้หลังผสมตัวเร่งหม้อชีวิตสีที่ผสมตัวเร่งแล้วจะมีอายุที่สั้นลงในการจัดเก็บจึงต้องทำความเข้าใจกับการใช้ตัวเร่งของสีแต่ละชนิดเพื่อป้องกันการสูญเสียความหนืด 5 ความหนืดโดยทั่วไปสีที่ผู้ผลิตส่งให้กับทางโรงงานนั้นมีความหนืดที่อยู่ในระดับที่สูงเกินไปไม่สามารถพ่นได้ด้วยปืนพ่นสีทั่วไปเนื่องจากสีที่ทางผู้ผลิตเตรียมไว้เป็นความหนืดที่ครอบคลุมถึงการใช้สำหรับอุปกรณ์หรือเครื่องทำสีที่แตกต่างกันไปของแต่ละโรงงานซึ่งไม่สามารถใช้เป็นความหนืดมาตรฐานเดียวกันได้อีกทั้งสภาพอากาศก็มีผลต่อความหนืดด้วยเช่นกันดังนั้นผู้ผลิตสีจึงทำความหนืดที่สูงขนาดครอบคลุมให้ได้มากที่สุดแล้วทางผู้ใช้สามารถลดความหนืดได้เองง่ายๆโดยการเติมทินเนอร์เพื่อให้ความหนืดที่ต้องการการลดความหนืดง่ายมากแต่การเพิ่มความหนืดยากกว่าจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผู้ผลิตสีเลือกการทำความหนืดสูงไว้ก่อน6 การตรวจสอบความหนืด (ตรวจสอบความหนืด)รายละเอียดของความหนืดที่พอเหมาะสำหรับการทำงานขึ้นอยู่กับวิธีการและอุปกรณ์การทำสีที่แตกต่างกันมักจะมีการแจ้งไว้อยู่ในใบรายละเอียดทางเทคนิคของแต่ละบริษัทสีอยู่แล้วแต่ในการใช้งานผู้ใช้ควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอว่าได้ผสมสีตามความหนืดที่ถูกต้อง ภาพที่ 2.3 แสดงถ้วยดินฟอร์ดถ้วย #4 ใช้ในการวัดความหนืด (16)ความหนืด (1)โดยปกติทั่วไปจะใช้ มาตรฐานอยู่ 2 มาตรฐานคือ 1.ถ้วยวัดความหนืด มาตรฐานยุโรป DIN Cup ซึ่งจะมีรูขนาด 4 มิลลิลิตร และ 2.มาตรฐานที่ใช้ทั่วไปในเอเชียตามมาตรฐานญี่ปุ่น คือถ้วย IWATA NK 2 ที่มีรูขนาด 4 มิลลิลิตรเช่นกัน การตรวจวัดความหนืดจะวัดโดยการเติมส่วนผสมสีลงในถ้วยตวง วัดจับเวลาที่ใช้จนกว่าถ้วยตวงจะว่างเปล่า เวลาที่ใช้เป็นวินาที และการที่จะกำหนดความหนืดมาตรฐาน จะมีกำหนดที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เพราะ อุณหภูมิ มีผลต่อการวัดความหนืดถ้าสีเคลือบไม้ ได้รับการเก็บในที่เย็นหรืออุณหภูมิต่ำ เนื้อสี จะมีความหนาข้นกว่าและต้องใช้ทินเนอร์มาทำละลายมากกว่า สีเคลือบไม้ที่เย็นเกินไปจะทำให้เกิด สีบาง (Thin Coating) สีแตก (Blistering) และของเสียในแบบอื่น ๆ หลังการผสมในโรงงานที่ใช้เครื่องเคลือบสีชนิดม่านน้ำตกที่เรียกกันว่าม่าน Coater หรือเครื่องเคลือบสีชนิดลูกกลิ้งหรือลูกกลิ้ง Coater ควรตรวจสอบความหนืดเมื่อเริ่มทำงาน -ขณะทำงาน - หลังจากหยุดพักและเมื่อมีการเติมเนื้อสีหรือทินเนอร์ลงไปในเครื่องเคลือบสีแต่ละครั้งจะต้องใช้ถ้วยวัดความหนืดทำการวัดความหนืดให้ได้มาตรฐานกำหนดเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่ได้คุณภาพคงที่เนื่องจากอากาศในเมืองไทยมีอุณหภูมิที่สูงสีที่ใช้ในเครื่อง 2 ชนิดนี้มักจะมีความเปลี่ยนแปลงเรื่องความหนืดการวัดความหนืดหลังผสมสีเสร็จต้องปล่อยให้ส่วนผสมคงตัวสักครู่ก่อนที่จะใช้ถ้วยวัดความหนืดตรวจสอบความหนืดทั้งนี้เพื่อเป็นการปล่อยให้อากาศหรือฟองอากาศที่ปนเข้าไปในสีระหว่างการปั่นกวนหรือคนสีได้ออกจากส่วนผสมเสียก่อนตรงนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อใช้กับเครื่องเคลือบสีแบบม่านน้ำตกหรือผ้าม่าน Coater เมื่อฟองอากาศติดเข้าไปจะทำให้ม่านแตกออกหรือการแตกตัวหรือมีฟองอากาศในชั้นสี ภาพที่ 2.4 แสดงวิธีการวัดความหนืดด้วยถ้วยวัดความหนืดชนิด NK2 (11)
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
3 การเตรียมวัสดุสีที่ใช้เตรียมวัสดุตกแต่ง (13) • เช่นความเงาถูกต้องรหัสถูกต้องทินเนอร์ตัวที่เลือกใช้ หลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้ว และทำตามให้ถูกต้องเป็นต้น•อายุการเก็บรักษา เพราะวัสดุสีแต่ละตัวแต่ละชนิดมีอายุการเก็บรักษาที่เรียกกันว่าอายุการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน (ส่วนใหญ่อยู่ที่ 6 เดือน) เป็นต้น (First In, First Out) วันที่ผลิตและล็อตการผลิตหรือรุ่นที ตัวเร่งทำให้แห้งแข็งที่นิยมเรียกกันว่า Hardener • เช่นสีประเภท AC, PU และ PE เป็นต้น• จะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆเช่นถ้าเป็นสี AC อายุการใช้หลังผสมตัวเร่งชีวิตหม้อ เพื่อป้องกันการสูญเสีย5 ความหนืด เพื่อให้ความหนืดที่ต้องการ การตรวจสอบความหนืด (Viscosity และอุปกรณ์การทำสีที่แตกต่างกัน 2.3 แสดงถ้วยดินแดงฟอร์ดคัพครั้งที่ 4 ใช้ในการวัดความหนืด (16) ความหนืด (1) โดยปกติทั่วไปจะใช้มาตรฐานอยู่ 2 มาตรฐานคือ 1. ถ้วยวัดความหนืดมาตรฐานยุโรป DIN คัพซึ่งจะมีรูขนาด 4 มิลลิลิตรและ คือถ้วย IWATA NK 2 ที่มีรูขนาด 4 มิลลิลิตรเช่นกัน เวลาที่ใช้เป็นวินาทีและการที่จะกำหนดความหนืดมาตรฐานจะมีกำหนดที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสเพราะอุณหภูมิ เนื้อสี สีบาง (Thin เคลือบ) สีแตก (พอง) และของเสียในแบบอื่น ๆ ที่เรียกกันว่าผ้าม่าน Coater หรือเครื่องเคลือบสีชนิดลูกกลิ้งหรือลูกกลิ้งควรตรวจสอบความหนืดเมื่อเริ่มทำงาน - ขณะทำงาน - หลังจากหยุดพักและเมื่อมีการเติมเนื้อสีหรือทินเนอร์ลงไปในเครื่องเคลือบสีแต่ละครั้ง ชิ้นงานที่ได้คุณภาพคงที่ 2 ได้ออกจากส่วนผสมเสียก่อน หรือผ้าม่าน Coater เมื่อฟองอากาศติดเข้าไปจะทำให้ม่านแตกออกหรือการแตกตัวหรือมีฟองอากาศในชั้นสีภาพที่ 2.4 NK2 (11)





































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
3 การเตรียมวัสดุสีที่ใช้เตรียมวัสดุตกแต่ง ( 13 )

บริการตรวจสอบความถูกต้องของวัสดุสีที่จะนำมาใช้ในการผสมให้แน่ใจก่อนที่จะทำการผสมว่าได้นำสีและส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ในการผสมเช่นความเงาใสรหัสถูกต้องทินเนอร์ตัวที่เลือกใช้บริการหลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้วก่อนทำการผสมนั้นให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของบริษัทสีที่แนะนำมาเสียก่อนเช่นตัวสีก่อนผสมต้องมีการกวนหรือคนสีให้เข้ากันดีเสียก่อนจึงเทใส่ภาชนะที่จะใช้ผสมซึ่งเป็นเรื่องปกติแต่เราต้องเข้าใจและทำตามให้ถูกต้องเป็นต้น
บริการอายุการเก็บรักษานี้เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผู้ใช้ต้องให้ความสำคัญเช่นกันเพราะวัสดุสีแต่ละตัวแต่ละชนิดมีอายุการเก็บรักษาที่เรียกกันว่าที่แตกต่างกันอายุการเก็บแต่ถ้าเป็นสีที่มีส่วนผสมของน้ำจะมีอายุการเก็บที่สั้นกว่า ( ส่วนใหญ่อยู่ที่ 6 เดือน ) เป็นต้นดังนั้นผู้ใช้ต้องนำสีที่มาก่อนใช้ก่อนมาทีหลังใช้ทีหลัง ( ครั้งแรกในออกก่อน ) โดยผู้ใช้สามารถดูจากวันที่การผลิตที่เรียกกันว่าการผลิตอาจและล็อตการผลิตค็อคชุดไม่ได้จากฉลากข้างกระป๋องซึ่งมีกำกับทุกยี่ห้ออยู่แล้ว

4 ตัวเร่งทำให้แห้งแข็งที่นิยมเรียกกันว่า hardener

บริการสีที่มีมากกว่าหนึ่งส่วนในการแห้งตัวต้องมีตัวเร่งทำปฏิกิริยาให้เกิดการแห้งและแข็งตัวโดยสมบูรณ์เช่นสีประเภท AC , PU และ PE เป็นต้น
บริการการใช้ตัวเร่งต้องตรวจสอบให้ดีเนื่องจากตัวเร่งมีหลายชนิดควรทำความเข้าใจและใช้ให้ถูกต้องตามสัดส่วนและปริมาณที่ผู้ผลิตกำหนด
บริการการเติมตัวเร่งหรือผสมตัวเร่งที่ไม่ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตกำหนดจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆเช่นถ้าเป็นสี AC มีส่วนผสมของตัวเร่งมากเกินไปจะทำให้ผิวงานแตกร่อนหลังการแห้งตัวได้ระยะหนึ่งหรืออีกตัวอย่างของปัญหาคือเฉดสีเพี้ยนไปจากเดิมเป็นต้น
บริการอายุการใช้หลังผสมตัวเร่งหม้อชีวิตสีที่ผสมตัวเร่งแล้วจะมีอายุที่สั้นลงในการจัดเก็บจึงต้องทำความเข้าใจกับการใช้ตัวเร่งของสีแต่ละชนิดเพื่อป้องกันการสูญเสีย

5

ความหนืดความหนืด
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: