intensive applications such as vide

intensive applications such as video data storage). Access speeds have improved
at a much slower rate (around a factor of 3 over 10 years), while the number of
I/O operations required per second has increased tremendously, particularly for
Web application servers.
RAID level 5, which increases the number of I/O operations needed to write a
single logical block, pays a significant time penalty in terms of write performance.
RAID level 1 is therefore the RAID level of choice for many applications with
moderate storage requirements and high I/O requirements.
RAID system designers have to make several other decisions as well. For
example, how many disks should there be in an array? How many bits should
be protected by each parity bit? If there are more disks in an array, data-transfer
rates are higher, but the system will be more expensive. If there are more bits
protected by a parity bit, the space overhead due to parity bits is lower, but there
is an increased chance that a second disk will fail before the first failed disk is
repaired, and that will result in data loss.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การใช้งานหนักเช่นการจัดเก็บข้อมูลวิดีโอ) ความเร็วในการเข้าถึงได้ดีขึ้น
ในอัตราที่ช้ามาก (ประมาณปัจจัย 3 กว่า 10 ปี) ในขณะที่จำนวน
i / o การดำเนินงานที่จำเป็นต่อวินาทีเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเซิร์ฟเวอร์เว็บแอปพลิเค
.
โจมตีระดับที่ 5 ซึ่ง เพิ่มจำนวนของ i / o การดำเนินงานที่จำเป็นในการเขียน
บล็อกตรรกะเดียวจ่ายโทษเวลาที่มีความสำคัญในแง่ของประสิทธิภาพการเขียน.
ระดับการโจมตี 1 ดังนั้นจึงเป็นเรื่องระดับการโจมตีของทางเลือกสำหรับการใช้งานจำนวนมากที่มีความต้องการจัดเก็บ
ปานกลางและความต้องการสูง i / o. ออกแบบ
ระบบการโจมตีมีการตัดสินใจอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อ
ตัวอย่างเช่นวิธีการหลายดิสก์ควรมีในอาร์เรย์? กี่บิตควร
ได้รับการคุ้มครองโดยแต่ละบิตความเท่าเทียมกัน?ถ้ามีดิสก์มากขึ้นในอาร์เรย์ถ่ายโอนข้อมูล
อัตราที่สูงขึ้น แต่ระบบจะมีราคาแพงมากขึ้น ถ้ามีบิตมากขึ้น
ป้องกันโดยบิตพาริตีค่าใช้จ่ายพื้นที่เนื่องจากบิตพาริตีต่ำ แต่มี
เป็นโอกาสเพิ่มขึ้นที่ดิสก์ที่สองจะล้มเหลวก่อนที่จะล้มเหลวในดิสก์แรกคือ
ซ่อมแซมและที่จะทำให้ข้อมูล การสูญเสีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใช้เร่งรัดงานเช่นการจัดเก็บข้อมูลวิดีโอ) มีการปรับปรุงความเร็วในการเข้าถึง
ในอัตราช้ามาก (รอบตัว 3 10 ปี), ในขณะจำนวน
ฉัน / O การดำเนินงานที่จำเป็นต่อวินาทีได้เพิ่มขึ้นอย่างมากดังที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ
เว็บแอพพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์
ระดับ RAID 5 ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนการดำเนินการ I/O ที่ต้องเขียน เป็น
บล็อกแบบลอจิคัลเดียว ชำระโทษเวลาสำคัญในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานเขียน
RAID ระดับ 1 จึงระดับ RAID ที่เลือกสำหรับการใช้งานที่มากด้วย
บรรเทาความต้องการจัดเก็บและสูง I/O ความต้องการ
ออกแบบระบบ RAID มีหลายอื่น ๆ ตัดสินใจเช่นนั้น สำหรับ
ตัวอย่าง จำนวนดิสก์ควรมีอยู่ในอาร์เรย์หรือไม่ จำนวนบิตควร
ป้องกัน โดยแต่ละบิตพาริตี้ ถ้ามีดิสก์ในอาร์เรย์ การถ่ายโอนข้อมูล
ราคาจะสูง แต่ระบบจะแพงกว่า ถ้ามีเพิ่มเติมบิต
ป้องกัน โดยบิตพาริตี้ พื้นที่จ่ายเนื่องจากพาริตี้บิตมีต่ำกว่า แต่
เป็นการเพิ่มโอกาสที่ดิสก์ที่สองจะล้มเหลวก่อนที่ดิสก์ล้มเหลวครั้งแรก
ซ่อมแซม และที่จะทำให้ข้อมูลสูญหาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แอพพลิเคชันขั้นสูงเช่นการจัดเก็บข้อมูลวิดีโอ) เพิ่มความเร็วในการเข้าถึงที่ได้มีการปรับปรุง
ซึ่งจะช่วยมากอัตราที่ชะลอลง(ประมาณปัจจัยหนึ่งที่ 3 ในช่วง 10 ปี)ในขณะที่จำนวนของการดำเนินงาน
I / O ที่จำเป็นต่อที่สองมีเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเซิร์ฟเวอร์แอพพลิเคชัน
web .
RAID ระดับ 5 ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนของการทำงาน I / O ที่จำเป็นสำหรับการเขียนบล็อกแบบลอจิกเดียว
จ่ายที่มีความสำคัญยิ่งในการยิงลูกโทษในด้านของ ประสิทธิภาพ ในการเขียน.
RAID ระดับ 1 คือดังนั้นที่ RAID ระดับของทางเลือกสำหรับผู้ใช้จำนวนมากแอปพลิเคชันพร้อมด้วย
ปานกลางความต้องการพื้นที่จัดเก็บและ I / O ที่สูงความต้องการ.
ระบบ RAID นักออกแบบได้ทำให้การตัดสินใจเป็นอื่นๆหลายอย่างดี. ตัวอย่างเช่น
ซึ่งจะช่วยได้อย่างไรสำหรับดิสก์จำนวนมากจะมีในความหลากหลาย จำนวนบิตควร
จะได้รับการคุ้มครองโดยแต่ละ parity bitหากมีดิสก์ในอาร์เรย์ที่ถ่ายโอนข้อมูล
ซึ่งจะช่วยอัตราค่าบริการสูงกว่าแต่ระบบจะมีราคาแพงมากขึ้น หากมีมากบิต
ซึ่งจะช่วยได้รับการคุ้มครองโดย parity bit ที่พื้นที่ว่างเหนือศีรษะเนื่องจากใน data bits พาริตี้เป็นระดับที่ต่ำแต่มี
ซึ่งจะช่วยจะได้มีโอกาสเพิ่มขึ้นที่ดิสก์ที่สองที่จะให้ผลล้มเหลวก่อนดิสก์ล้มเหลวครั้งแรกที่มี
ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมและที่จะทำให้เกิดการสูญเสียข้อมูล