Considering its importance to the t

Considering its importance to the theory of representative bureaucracy, it is not surprising that there has been a growing body of empirical work on this latter issue. Studies by Kenneth Meier and various colleagues (Meier, Stewart, and England 1989; Meier and Stewart 1992; Meier, Wrinkle, and Polinard 1999) have consistently found that minority representation in the civil service is related to policy outputs that favor the minority group. These studies have exclusively focused on education and the effects of minority representation on policy outputs (the research examined the impact of minority representation in teaching, on administrative and school board positions concerning school policies, and on outputs that affected minorities). Some research outside education has produced more mixed results (Hindera 1993a, 1993b; Selden 1997). However, much other research indicates that the conditions found by Meier and his colleagues do exist for other agency types as well as for representation for women (Keiser, Wilkins, Meier, and Holland 2002; Meier and Nicholson-Crotty 2006; Lim 2006; Wilkins
and Keiser 2006).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พิจารณาความสำคัญกับทฤษฎีของพนักงานข้าราชการ ไม่ได้มีร่างกายเติบโตงานประจักษ์ในประเด็นหลังนี้ ศึกษา โดยมุนเช่น Kenneth และเพื่อนร่วมงานต่าง ๆ (มุนเช่น สจ๊วต และอังกฤษ 1989 มุนเช่นและสจ๊วต 1992 มุนเช่น ริ้วรอย และ Polinard 1999) อย่างต่อเนื่องพบว่า ตัวแทนชนกลุ่มน้อยในราชการเกี่ยวข้องกับแสดงผลนโยบายที่ชอบกลุ่มชนกลุ่มน้อย ศึกษาเหล่านี้ได้โดยเฉพาะมุ่งเน้นการศึกษาและผลของการแสดงของชนกลุ่มน้อยในการแสดงผลของนโยบาย (การวิจัยตรวจสอบผลกระทบ ของตัวแทนชนกลุ่มน้อยใน ในบริหารและตำแหน่งคณะกรรมการโรงเรียนเกี่ยวกับนโยบายโรงเรียน และแสดงผลที่ได้รับผลกระทบคมิ) บางงานวิจัยนอกศึกษาได้ผลิตผลมากผสม (Hindera 1993a, 1993b Selden 1997) อย่างไรก็ตาม วิจัยมากบ่งชี้ว่า เงื่อนไขที่พบ โดยมุนเช่นและเพื่อนร่วมงานของเขามีอยู่สำหรับชนิดอื่นแทนเช่นสำหรับแสดงสำหรับผู้หญิง (Keiser, Wilkins มุนเช่น และ 2002 ฮอลแลนด์ ปี 2006 Nicholson Crotty และมุนเช่น ริม 2006 Wilkinsก Keiser 2006)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พิจารณาความสำคัญของทฤษฎีของข้าราชการที่เป็นตัวแทนก็ไม่น่าแปลกใจว่ามีการร่างกายเจริญเติบโตของการทำงานเชิงประจักษ์ในประเด็นหลังนี้ การศึกษาโดยเคนเน ธ ไมเออร์และเพื่อนร่วมงานต่าง ๆ (ไมเออร์, สจ๊วตและอังกฤษ 1989 ไมเออร์และสจ๊วต 1992; ไมเออร์, ริ้วรอยและ Polinard 1999) พบว่ามีความเห็นว่าการเป็นตัวแทนของชนกลุ่มน้อยในราชการพลเรือนที่เกี่ยวข้องกับการออกนโยบายที่สนับสนุนชนกลุ่มน้อย การศึกษาเหล่านี้ได้มุ่งเน้นเฉพาะในการศึกษาและผลกระทบของการเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในการออกนโยบาย (การวิจัยการตรวจสอบผลกระทบของการเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในการเรียนการสอนในการบริหารและคณะกรรมการโรงเรียนในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับนโยบายของโรงเรียนและผลที่ได้รับผลกระทบชนกลุ่มน้อย) งานวิจัยบางการศึกษานอกมีการผลิตมากขึ้นผลการผสม (Hindera 1993a, 1993b; เซลเด้น 1997) อย่างไรก็ตามการวิจัยอื่น ๆ มากแสดงให้เห็นว่าเงื่อนไขที่พบโดยไมเออร์และเพื่อนร่วมงานของเขาไม่อยู่สำหรับประเภทหน่วยงานอื่น ๆ เช่นเดียวกับการเป็นตัวแทนสำหรับผู้หญิง (เคเซอร์วิลกินส์, ไมเออร์และฮอลแลนด์ 2002; ไมเออร์และนิโคลสัน-Crotty 2006 ลิม 2006 วิลกินส์
และ Keiser 2006)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พิจารณาความสำคัญกับทฤษฎีตัวแทนของระบบราชการ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีการเติบโตของร่างกายทำงานเชิงประจักษ์ ในประเด็นหลังนี้ การศึกษาโดยเคนเนธ ไมเออร์และเพื่อนร่วมงานต่างๆ ( ไมเออร์ , สจ๊วต , และอังกฤษ 2532 ; และ สจ๊วต ไมเออร์ ไมเออร์ , ริ้วรอย , 1992 ;และ polinard 1999 ) มาอย่างต่อเนื่อง พบว่า การเป็นตัวแทนในการรับราชการเป็นคนกลุ่มน้อยที่เกี่ยวข้องกับนโยบายส่งออกที่โปรดปรานกลุ่มชนกลุ่มน้อย การศึกษานี้เน้นเฉพาะการศึกษา และผลของการเป็นตัวแทนออกนโยบายชนกลุ่มน้อย ( เพื่อตรวจสอบผลกระทบของการเป็นตัวแทนในการสอนเสียงส่วนน้อยในการบริหารโรงเรียนและคณะกรรมการตำแหน่งเกี่ยวกับนโยบายของโรงเรียน และผลต่อชนกลุ่มน้อย ) งานวิจัยภายนอกการศึกษาได้ผลิตผลผสมเพิ่มเติม ( hindera 1993a 1993b ; ที่ตั้ง , 1997 ) อย่างไรก็ตาม งานวิจัยอื่น ๆพบว่า เงื่อนไขที่พบมากโดยไมเออร์และเพื่อนร่วมงานของเขาทำอยู่สำหรับหน่วยงานอื่น ๆรวมทั้งการเป็นตัวแทนสำหรับผู้หญิง ( ไคเซอร์ วิลกินส์ , ,ไมเออร์ และ ฮอลแลนด์ ปี 2002 และ 2006 ; Meier นิโคลสัน คร ตี้ ; ลิม 2006 ; วิลกิ้นส์

และ ไคเซอร์ 2006 )