The results suggest that aroma inha

The results suggest that aroma inhalation may be effective than no treatment or odorless inhalation in reducing self-reported stress and cortisol level. However, the risk of bias was high in all of the included trials. Collectively, the existing trial evidence shows limited effectiveness of aromatherapy in reducing stress. Future studies should be of high quality with a particular emphasis on designing an adequate control intervention.

Most of the included RCTs did not employ blinding of patients, practitioners, and assessors. Furthermore, none of them reported the methods of random sequence generation and allocation concealment. Trials with inadequate blinding and inadequate allocation concealment may be subject to selection bias and are likely to generate exaggerated treatment effects [24] and [25]. There were low risks of bias in incomplete outcome data. One trial showed high risk of bias in selective reporting. Most of the RCTs had a small sample size, and their results were therefore prone to a type II error. Small trials may also overestimate treatment effects by approximately 30% [26].

The mechanisms by which aromatherapy reduces stress may be related to sympathetic nervous system and parasympathetic modulation. Aromatherapy may decrease to sympathetic nervous system activity and increase parasympathetic nervous system [27]. These may promote relaxation and reduce stress level. However, more basic research is needed to fully understand the mechanisms underlying the effects of aromatherapy.

One recent systematic review reported that aromatherapy had possible adverse events [28]. However, none of the reviewed studies reported any adverse events related with aromatherapy. Aromatherapy may appear to be generally safe; regardless, the safety of aromatherapy requires further research.

Our review has a number of important limitations. Although strong efforts were made to retrieve all RCTs on the subject, we cannot be absolutely certain that we succeeded. Moreover, selective publishing and reporting are other major causes for bias [29], [30] and [31], which have to be considered. It is conceivable that several negative RCTs remain unpublished and thus the overall picture may be distorted. Another possible source of the bias could be the fact that most of the included trials were carried out in Korea and Japan, regions which have been shown to produce almost no negative studies [32]. Further limitations include the paucity and the often suboptimal methodological quality of the primary data. In total, these facts limit the conclusiveness of this systematic review considerably. To establish the role of aromatherapy in the stress management, adequately designed trials are required.

Collectively, the existing trial evidence is not convincing and does not show aromatherapy to be an effective modality for managing stress. Future studies should be of high quality, with a particular emphasis on designing adequate and appropriate control groups.

In conclusion, these results provide limited evidence for the effectiveness of aromatherapy in reducing stress level of healthy subjects. However, the number, size and quality of the RCTs are too low to draw firm conclusions. Further rigorous RCTs seem warranted but need to overcome the many limitations of the current evidence.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลการแนะนำที่ดมกลิ่นอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าการรักษาหรือดมไม่มีกลิ่นในการลดระดับความเครียดและ cortisol รายงานด้วยตนเองไม่ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของความโน้มเอียงสูงในการทดลองรวมทั้งหมด โดยรวม หลักฐานที่มีอยู่ทดลองแสดงจำกัดประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหยในการลดความเครียด ศึกษาในอนาคตควรจะมีคุณภาพสูงโดยเน้นเฉพาะการออกแบบการแทรกแซงการควบคุมที่เพียงพอส่วนใหญ่ RCTs รวมได้จ้าง blinding ผู้ป่วย ผู้ และประเมิน นอกจากนี้ ไม่มีพวกเขารายงานวิธีการสอดแนมการสร้างและการจัดสรรแบบสุ่มลำดับ ทดลองกับ blinding ไม่เพียงพอและการสอดแนมการปันส่วนที่ไม่เพียงพออาจจะ มีความโน้มเอียงในการเลือก และมักจะสร้าง exaggerated รักษาผล [24] และ [25] มีความเสี่ยงต่ำของความโน้มเอียงในข้อมูลผลที่ได้ไม่สมบูรณ์ ทดลองหนึ่งแสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงสูงของความโน้มเอียงในการเลือกรายงาน ส่วนใหญ่ RCTs ที่มีขนาดตัวอย่างขนาดเล็ก และผลลัพธ์ได้ดังนั้นแนวโน้มชนิดข้อผิดพลาดที่สอง ทดลองขนาดเล็กอาจ overestimate รักษาผลประมาณ 30% [26]กลไกโดยน้ำมันหอมระเหยซึ่งช่วยลดความเครียดอาจเกี่ยวข้องกับระบบประสาทซิมพาเทติกและเอ็มประสาทได้ น้ำมันหอมระเหยอาจลดกิจกรรมของระบบประสาทซิมพาเทติก และเพิ่มระบบประสาท parasympathetic [27] เหล่านี้อาจส่งเสริมการผ่อนคลาย และลดระดับความเครียด อย่างไรก็ตาม งานวิจัยพื้นฐานคือต้องเข้าใจกลไกต้นแบบผลของน้ำมันหอมระเหยหนึ่งล่าสุดระบบการตรวจสอบรายงานอโรมาที่มีเหตุการณ์ร้ายได้ [28] อย่างไรก็ตาม ไม่มีการศึกษาทบทวนรายงานเหตุการณ์ร้ายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันหอมระเหย น้ำมันหอมระเหยอาจปรากฏว่าโดยทั่วไปปลอดภัย ไม่คำนึงถึง ความปลอดภัยของน้ำมันหอมระเหยต้องเพิ่มเติมการวิจัยตรวจทานของเรามีจำนวนจำกัดที่สำคัญ แม้ว่าแรงพยายามเรียก RCTs ทั้งหมดในเรื่อง เราไม่สามารถแน่ใจว่า เราสำเร็จ นอกจากนี้ เลือกเผยแพร่ และรายงานมีอื่น ๆ สาเหตุสำคัญสำหรับความโน้มเอียง [29], [30] [31], และซึ่งต้องได้รับการพิจารณา หลากหลายว่า RCTs ลบหลายยังคงประกาศ และดังนั้น โดยภาพรวมอาจผิดเพี้ยนได้ อีกแหล่งของความโน้มเอียงอาจจะจริงที่สุดของการทดลองรวมได้ดำเนินการในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ภูมิภาคที่มีการแสดงการศึกษาเกือบไม่เป็นค่าลบ [32] ข้อจำกัดเพิ่มเติมได้แก่ paucity การและคุณภาพ methodological บ่อยสภาพของข้อมูลหลัก รวม ข้อเท็จจริงเหล่านี้จำกัด conclusiveness ของตรวจทานระบบนี้มากขึ้น ทดลองออกแบบเพียงพอไม่จำเป็นต้องสร้างบทบาทของน้ำมันหอมระเหยในการจัดการความเครียดโดยรวม หลักฐานการทดลองที่มีอยู่ไม่มีการหลอกลวง และแสดงหอมจะ modality ที่มีประสิทธิภาพในการจัดการความเครียด การศึกษาในอนาคตควรจะมีคุณภาพสูง โดยเน้นเฉพาะการออกแบบกลุ่มควบคุมเพียงพอ และเหมาะสมเบียดเบียน ผลลัพธ์เหล่านี้แสดงหลักฐานที่จำกัดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหยในการลดระดับความเครียดของเรื่องสุขภาพ อย่างไรก็ตาม จำนวน ขนาด และคุณภาพของ RCTs จะต่ำเกินไปวาดบทสรุปของบริษัท RCTs อย่างเข้มงวดต่อไปดูเหมือน warranted แต่ต้องเอาชนะข้อจำกัดต่าง ๆ ของหลักฐานปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการชี้ให้เห็นว่าการสูดดมกลิ่นหอมอาจจะมีประสิทธิภาพกว่าไม่มีการรักษาหรือสูดดมกลิ่นในการลดความเครียดตนเองรายงานและระดับคอร์ติซอ อย่างไรก็ตามความเสี่ยงของการมีอคติอยู่ในระดับสูงในทุกการทดลองรวม เรียกรวมกันว่าหลักฐานการทดลองแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่มีอยู่อย่าง จำกัด ของน้ำมันหอมระเหยในการลดความเครียด การศึกษาในอนาคตควรจะมีคุณภาพสูงที่มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการออกแบบการแทรกแซงการควบคุมที่เพียงพอ. ส่วนใหญ่รวม RCTs ไม่ได้จ้างทำให้ไม่เห็นของผู้ป่วย, ผู้ปฏิบัติงานและประเมิน นอกจากนี้ไม่มีของพวกเขารายงานวิธีการของคนรุ่นลำดับสุ่มและปกปิดการจัดสรร ทดลองกับสุดยอดไม่เพียงพอและการปกปิดการจัดสรรไม่เพียงพออาจจะเลือกอคติและมีแนวโน้มที่จะสร้างผลกระทบต่อการรักษาที่พูดเกินจริง [24] และ [25] มีความเสี่ยงต่ำของอคติในข้อมูลผลที่ไม่สมบูรณ์ได้ หนึ่งการทดลองแสดงให้เห็นว่ามีความเสี่ยงสูงของการมีอคติในการรายงานการคัดเลือก ส่วนใหญ่ของ RCTs มีขนาดของกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็กและผลของพวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาดชนิดที่สอง การทดลองขนาดเล็กนอกจากนี้ยังอาจประเมินผลกระทบการรักษาโดยประมาณ 30% [26]. กลไกโดยที่น้ำมันหอมระเหยช่วยลดความเครียดอาจจะเกี่ยวข้องกับระบบประสาทและการปรับกระซิก น้ำมันหอมระเหยอาจลดลงถึงการทำงานของระบบประสาทและเพิ่มระบบประสาทกระซิก [27] เหล่านี้อาจส่งเสริมการผ่อนคลายและลดระดับความเครียด อย่างไรก็ตามการวิจัยขั้นพื้นฐานมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เข้าใจกลไกพื้นฐานผลกระทบของน้ำมันหอมระเหย. หนึ่งระบบตรวจสอบที่ผ่านมามีรายงานว่าน้ำมันหอมระเหยมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เป็นไปได้ [28] แต่ไม่มีการศึกษาทบทวนรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันหอมระเหย อโรมาอาจจะเป็นความปลอดภัยโดยทั่วไป; โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของน้ำมันหอมระเหยต้องวิจัยต่อไป. ตรวจสอบของเรามีจำนวนของข้อ จำกัด ที่สำคัญ แม้ว่าความพยายามที่แข็งแกร่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อดึง RCTs ทั้งหมดในเรื่องที่เราไม่สามารถเป็นบางอย่างที่เราประสบความสำเร็จ นอกจากนี้การประกาศการคัดเลือกและการรายงานที่เป็นสาเหตุที่สำคัญอื่น ๆ สำหรับอคติ [29], [30] และ [31] ซึ่งจะต้องได้รับการพิจารณา มันเป็นไปได้ว่า RCTs ลบหลายด้านยังคงที่ไม่ได้เผยแพร่และทำให้ภาพรวมอาจจะบิดเบี้ยว อีกแหล่งที่เป็นไปได้ของการมีอคติอาจจะเป็นความจริงที่ว่าส่วนใหญ่ของการทดลองรวมได้ดำเนินการในเกาหลีและญี่ปุ่นภูมิภาคซึ่งได้รับการแสดงในการผลิตเกือบจะไม่มีการศึกษาเชิงลบ [32] ข้อ จำกัด เพิ่มเติมรวมถึงความยากจนและคุณภาพวิธีการก่อให้เกิดผลลัพธ์มักจะข้อมูลปฐมภูมิ ทั้งหมดข้อเท็จจริงเหล่านี้ จำกัด conclusiveness ของการทบทวนระบบนี้มาก เพื่อสร้างบทบาทของน้ำมันหอมระเหยในการจัดการกับความเครียด, การทดลองได้รับการออกแบบอย่างเพียงพอจะต้อง. รวมหลักฐานการทดลองที่มีอยู่ไม่น่าเชื่อและไม่แสดงอโรมาที่จะเป็นกิริยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับการจัดการความเครียด การศึกษาในอนาคตควรจะมีคุณภาพสูงที่มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการออกแบบกลุ่มควบคุมอย่างเพียงพอและเหมาะสม. โดยสรุปผลการเหล่านี้ให้หลักฐานที่ จำกัด สำหรับประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหยในการลดระดับความเครียดของอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี อย่างไรก็ตามจำนวนขนาดและคุณภาพของ RCTs ต่ำเกินไปที่จะสรุป บริษัท เพิ่มเติม RCTs เข้มงวดดูเหมือนสมควร แต่ต้องเอาชนะข้อ จำกัด หลายหลักฐานปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าสูดดมกลิ่นหอมอาจจะมีประสิทธิภาพกว่า ไม่มีการรักษาหรือกลิ่นการสูดดมในการลด self-reported ความเครียดและระดับคอร์ติซอล อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของอคติสูงทั้งหมดของรวมการทดลอง โดยรวมแล้ว หลักฐานแสดงผลการทดลองที่มีอยู่จำกัดของน้ำมันหอมระเหยในการลดความเครียดการศึกษาในอนาคตควรมีคุณภาพสูง ด้วยการเน้นในการออกแบบการแทรกแซงควบคุมเพียงพอ

ส่วนใหญ่รวม RCTs ไม่ได้จ้างตาบอดของผู้ป่วย ผู้ปฏิบัติงานและผู้ . และไม่มีของพวกเขารายงานวิธีการสร้างลำดับสุ่มและการปกปิดการแบ่งส่วนการทดลองที่มีไม่เพียงพอและไม่เพียงพอที่บังตา การปกปิดอาจเลือกอคติและมีแนวโน้มที่จะสร้างผลกระทบการโอ้อวด [ 24 ] และ [ 25 ] มีความเสี่ยงต่ำของอคติในผลลัพธ์ของข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ หนึ่งการทดลองมีความเสี่ยงสูงของการมีอคติในการเลือก ที่สุดของ RCTs ที่มีขนาดตัวอย่างมีขนาดเล็กและผลของพวกเขาจึงมักจะเป็นประเภทที่สองข้อผิดพลาดการทดลองเล็ก ๆอาจจะยัง อย่ามองข้ามผลการรักษาประมาณ 30% [ 26 ] .

กลไกซึ่งน้ำมันหอมระเหยช่วยลดความเครียดที่อาจเกี่ยวข้องกับระบบประสาทพาราซิมพาเทติก และการปรับ น้ํามันหอมระเหยอาจลดกิจกรรมของระบบประสาทความเห็นอกเห็นใจและเพิ่มระบบประสาทพาราซิมพาเทติก [ 27 ] เหล่านี้อาจส่งเสริมการผ่อนคลายและลดระดับความเครียด อย่างไรก็ตามพื้นฐานการวิจัยมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เข้าใจกลไกที่อยู่ภายใต้ผลของน้ำมันหอมระเหย

ทบทวนอย่างเป็นระบบหนึ่งล่าสุดรายงานว่าน้ำมันหอมระเหยมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ [ 28 ] อย่างไรก็ตาม ไม่มีการพิจารณาศึกษารายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ใด ๆที่เกี่ยวข้องกับอโรมา น้ํามันหอมระเหยอาจปรากฏเป็นปกติ ปลอดภัย ไม่ความปลอดภัยของน้ำมันหอมระเหยต้องวิจัยต่อไป

รีวิวของเรามีหมายเลขของข้อ จำกัด ที่สำคัญ แม้ว่าความพยายามที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อดึงทั้งหมด RCTs ในเรื่อง เราไม่สามารถแน่ใจว่าเราทำสำเร็จแล้ว นอกจากนี้ การประกาศและการรายงานเป็นสาเหตุหลักอื่น ๆสำหรับอคติ [ 29 ] [ 30 ] และ [ 31 ] ซึ่งต้องได้รับการพิจารณามันเป็นไปได้ว่า RCTs ลบหลายประการยังคงเผยแพร่และทำให้ภาพโดยรวมอาจจะเพี้ยนไป ที่สุดแหล่งอื่นของอคติ อาจจะจริงที่ว่าส่วนใหญ่ของการรวมการทดลองทำในเกาหลี และ ญี่ปุ่น ภูมิภาคซึ่งแสดงการผลิตเกือบไม่ลบการศึกษา [ 32 ]ข้อจำกัดเพิ่มเติมรวมถึงความขัดสน และคุณภาพความสมบูรณ์มักจะ suboptimal ของข้อมูลหลัก ทั้งหมดข้อเท็จจริงเหล่านี้ จำกัด conclusiveness ของรีวิวนี้เป็นระบบมาก การสร้างบทบาทของน้ำมันหอมระเหยในการจัดการความเครียด การทดลองออกแบบมาเพียงพอจะต้อง .

โดยรวมพิจารณาหลักฐานที่มีอยู่ ไม่น่าเชื่อ และไม่แสดงกิริยา น้ำมันหอมระเหยเป็นที่มีประสิทธิภาพสำหรับการจัดการความเครียด การศึกษาในอนาคตควรมีคุณภาพสูง ด้วยการเน้นในการออกแบบที่เหมาะสมและเพียงพอ กลุ่มควบคุม

สรุป ผลลัพธ์เหล่านี้มีหลักฐานที่ จำกัด สำหรับประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหยในการลดระดับความเครียดของคนสุขภาพดี อย่างไรก็ตามจำนวน , ขนาดและคุณภาพของ RCTs ต่ำเกินไปที่จะดึงดูด บริษัท บทสรุป เพิ่มเติม RCTs เคร่งครัดดูเหมือนการรับประกันแต่ต้องเอาชนะข้อ จำกัด หลายหลักฐานในปัจจุบัน