Collaboration Between Retailersand

Collaboration Between Retailers
and Vendors in Supply Chain
Management
Bullwhip Effect
• When retailers and vendors do not coordinate
their supply chain management activities,
excess inventory builds up in the system, even
if the retail sales rate for the merchandise is
relatively constant.
• This buildup of inventory in an uncoordinated
channel is called the bullwhip effect.
Bullwhip Effect in Uncoordinated Supply
Chain
Causes of the Bullwhip effect
1. Delays in transmitting orders and receiving
merchandise
• Even when retailers can forecast sales
accurately, there are delays in getting orders
to the vendor and receiving those orders
from the vendor.
• In an uncoordinated supply chain, retailers
might not know how fast they can get the
merchandise, and thus they overorder to
prevent stockouts.
Causes of the Bullwhip effect
2. Ordering in batches
• Rather than generating a number of small
orders, retailers wait and place larger orders
to reduce order processing and
transportation costs and take advantage of
quantity discounts.
Causes of the Bullwhip effect
3. Overreacting to shortages
• When retailers find it difficult to get the
merchandise they want, they begin to play
the shortage game.
• They order more than they need to prevent
stockouts, hoping they will receive a larger
partial shipment.
• So, on average, the vendor ships more than
the retailer really needs.
Benefits of Coordination
• Four approaches for coordinating supply chain
activities, in order of the level of collaboration,
are
1. using EDI;
2. exchanging information;
3. using vendor-managed inventory; and
4. employing collaborative planning,
forecasting, and replenishment.
Using EDI
• The use of EDI to transmit purchase order
information reduces the time it takes for
retailers to place orders and for vendors to
acknowledge the receipt of orders and
communicate delivery information about
those orders.
Sharing Information
• One of the major factors causing excessive
inventory in the supply chain is the inability of
vendors to know what the actual level of retail
sales are.
• Sharing sales data with vendors is an important
first step in improving supply chain efficiency.
• With the sales data, vendors can improve their
sales forecasts, improve production efficiency,
and reduce the need for excessive backup
inventory.
Vendor-Managed Inventory (VMI)
• Vendor-managed inventory (VMI) is an approach for
improving supply chain efficiency in which the
vendor is responsible for maintaining the retailer’s
inventory levels.
• The vendor determines a reorder point—a level of
inventory at which more merchandise is ordered.
• The retailer shares sales and inventory data with the
vendor via EDI.
• When inventory drops to the order point, the vendor
generates the order and delivers the merchandise.
• In ideal conditions, the vendor replenishes
inventories in quantities that meet the retailer’s
immediate demand and reduce stockouts with
minimal inventory.
• In addition to better matching retail demand to
supply, VMI can reduce the vendor’s and the
retailer’s costs.
• Vendor salespeople no longer need to spend time
generating orders on items that are already in the
stores, and their role shifts to selling new items
and maintaining relationships.
• Retail buyers and planners no longer need to
monitor inventory levels and place orders.
Collaborative Planning, Forecasting, and
Replenishment (CPFR)
• CPFR is the sharing of forecasts and related business
information and collaborative planning between
retailers and vendors to improve supply chain
efficiency and product replenishment.
• Although retailers share sales and inventory data when
using a VMI approach, the vendor remains responsible
for managing the inventory.
• In contrast, CPFR is a more advanced form of retailervendor
collaboration that involves sharing proprietary
information such as business strategies, promotion
plans, new product developments and introductions,
production schedules, and lead-time information.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทำงานร่วมกันระหว่างร้านค้าปลีกและผู้ขายในห่วงโซ่อุปทานจัดการผล bullwhip•เมื่อร้านค้าปลีกและผู้ประสานงานกิจกรรมการจัดการซัพพลายเชนสินค้าส่วนเกินสร้างขึ้นในระบบ แม้แต่ถ้าราคาขายปลีกสำหรับสินค้าค่อนข้างคง•นี้โลหิตคงที่ด้วยช่องทางคือผล bullwhip ผล bullwhip ในอุปทานด้วยลูกโซ่สาเหตุของผล Bullwhip1. ความล่าช้าในการส่งใบสั่ง และได้รับสินค้า•แม้ร้านค้าปลีกสามารถคาดการณ์การขายถูกต้อง มีความล่าช้าในการรับใบสั่งผู้จัดจำหน่ายและการรับใบสั่งเหล่านั้นจากผู้ขาย•ในการด้วยซัพพลายเชน การค้าปลีกไม่ทราบวิธีที่รวดเร็วพวกเขาจะได้รับการสินค้า และดังนั้นพวกเขา overorder ไปป้องกันไม่ให้ stockoutsสาเหตุของผล Bullwhip2. สั่งซื้อในชุด•แทนที่จะสร้างจำนวนขนาดเล็กรอใบสั่ง ร้านค้าปลีก และวางใบสั่งขนาดใหญ่เพื่อลดการประมวลผลใบสั่ง และต้นทุนการขนส่งและการใช้ประโยชน์ของส่วนลดปริมาณการ สาเหตุของผล Bullwhip3. สู่ overreacting จะขาดแคลน•เมื่อผู้ค้นหายากที่จะได้รับการสินค้าที่พวกเขาต้องการ ผู้เริ่มต้นเล่นเกมขาดแคลน•พวกเขาสั่งซื้อมากกว่า ที่จำเป็นเพื่อป้องกันstockouts หวังที่จะได้รับขนาดใหญ่จัดส่งเป็นบางส่วน•ดังนั้น โดยเฉลี่ย การจัดส่งมากขึ้นกว่าร้านค้าปลีกที่จำเป็นจริง ๆประโยชน์ของการประสานงาน• 4 ยื่นสำหรับประสานงานซัพพลายเชนกิจกรรม ลำดับของระดับของความร่วมมือมี1. ใช้ EDI2. แลกเปลี่ยนข้อมูล3. ใช้ผู้จัดจำหน่ายที่มีจัดการสินค้าคงคลัง และ4. การวางแผนร่วมกัน ใช้คาดการณ์ และเติม การใช้ EDI•การใช้ EDI ในการส่งใบสั่งซื้อข้อมูลลดเวลาใช้ในร้านค้าปลีกการวางใบสั่ง และผู้จัดจำหน่ายรับทราบการรับใบสั่ง และการสื่อสารข้อมูลการจัดส่งเกี่ยวกับใบสั่งเหล่านั้น ใช้ข้อมูลร่วมกัน•หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดมากเกินไปไม่มีสินค้าคงคลังในซัพพลายเชนผู้รู้แท้จริงระดับขายปลีกขายได้•ใช้ข้อมูลการขายกับผู้ขายเป็นสำคัญขั้นตอนแรกในการปรับปรุงประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน• มีข้อมูลการขาย ผู้ช่วยของพวกเขาคาดการณ์ยอดขาย ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและลดความจำเป็นต้องสำรองข้อมูลมากเกินไปสินค้าคงคลัง ผู้จัดจำหน่ายที่มีจัดการสินค้าคงคลัง (VMI)•ผู้จัดการสินค้าคงคลัง (VMI) เป็นวิธีการสำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานซึ่งการผู้รับผิดชอบการรักษาของผู้จัดจำหน่ายระดับสินค้าคงคลัง•ผู้จัดจำหน่ายกำหนดจุดสั่งซื้อใหม่ซึ่งระดับของสินค้าคงคลังที่สั่งสินค้าเพิ่มเติม•ตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมขายและข้อมูลสินค้าคงคลังด้วยการผู้จัดจำหน่ายผ่านทาง EDI•เมื่อสินค้าคงคลังลดลงไปสั่ง ผู้จัดจำหน่ายสร้างใบสั่ง และส่งสินค้า •ในห้อง ผู้จัดจำหน่าย replenishesสินค้าคงคลังในปริมาณที่ตรงกับของผู้จัดจำหน่ายทันทีความต้องการ และลด stockouts กับสินค้าคงคลังที่น้อยที่สุด•นอกจากการจับคู่ดีกว่าขายปลีกความต้องการจัดหา VMI สามารถลดของผู้ขายและค่าใช้จ่ายของผู้จัดจำหน่าย•พนักงานขายผู้ขายไม่ต้องการเวลาสร้างใบสั่งสำหรับสินค้าที่อยู่ในการร้านค้า และบทบาทของตนกะการขายสินค้าใหม่และรักษาความสัมพันธ์•ขายปลีกผู้ซื้อและผู้วางแผนไม่จำเป็นต้องตรวจสอบระดับสินค้าคงคลัง และวางใบสั่งร่วมกันวางแผน คาดการณ์ และเติม(เติมเต็มสินค้า)•เติมเต็มสินค้าจะใช้ร่วมกันคาดการณ์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องข้อมูลและวางแผนร่วมกันระหว่างร้านค้าปลีกและผู้จัดจำหน่ายในการปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภัณฑ์•แม้ว่าร้านค้าปลีกแบ่งขายและข้อมูลสินค้าคงคลังเมื่อใช้วิธี VMI ผู้จัดจำหน่ายยังคงรับผิดชอบสำหรับการจัดการสินค้าคงคลัง•ในความคมชัด เติมเต็มสินค้ามีรูปแบบขั้นสูงเพิ่มเติมของ retailervendorความร่วมมือที่เกี่ยวข้องร่วมกันฟทร์แวร์ข้อมูลเช่นกลยุทธ์ทางธุรกิจ โปรโมชั่นแผน พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และบท นำตารางการผลิต และข้อมูล lead-time

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทำงานร่วมกันระหว่างผู้ค้าปลีกและผู้ขายในห่วงโซ่อุปทานการจัดการผลbullwhip •เมื่อร้านค้าปลีกและผู้ขายไม่ได้ประสานงานกิจกรรมการจัดการของพวกเขาห่วงโซ่อุปทานสินค้าคงคลังส่วนเกินที่สร้างขึ้นในระบบแม้หากอัตรายอดค้าปลีกสำหรับสินค้าที่มีอย่างต่อเนื่องค่อนข้าง. •สะสมของนี้สินค้าคงคลังในจังหวะช่องทางที่เรียกว่าผล bullwhip. Bullwhip ผลในจังหวะซัพพลายเชนสาเหตุของผลbullwhip 1 ความล่าช้าในการส่งคำสั่งซื้อและรับสินค้า•แม้ในขณะที่ร้านค้าปลีกสามารถคาดการณ์ยอดขายได้อย่างถูกต้องมีความล่าช้าในการได้รับการสั่งซื้อไปยังผู้ขายและรับคำสั่งเหล่านั้นจากผู้ขาย. •ในห่วงโซ่อุปทานพร้อมเพรียงกันค้าปลีกอาจไม่ทราบวิธีการที่รวดเร็วพวกเขาจะได้รับสินค้าและทำให้พวกเขา overorder ที่จะป้องกันไม่ให้stockouts. สาเหตุของผล bullwhip 2 การสั่งซื้อใน batches •แทนที่จะสร้างจำนวนเล็ก ๆสั่งซื้อ, ร้านค้าปลีกรอและวางคำสั่งซื้อที่มีขนาดใหญ่เพื่อลดการประมวลผลการสั่งซื้อและค่าใช้จ่ายในการขนส่งและการใช้ประโยชน์จากส่วนลดปริมาณ. สาเหตุของผล bullwhip 3 overreacting การขาดแคลน•เมื่อร้านค้าปลีกพบว่ามันยากที่จะได้รับสินค้าที่พวกเขาต้องการที่จะเริ่มต้นในการเล่นเกมการขาดแคลน. •พวกเขาสั่งซื้อมากกว่าที่พวกเขาต้องการเพื่อป้องกันไม่ให้stockouts หวังว่าพวกเขาจะได้รับมีขนาดใหญ่การจัดส่งสินค้าบางส่วน. •ดังนั้นโดยเฉลี่ย เรือผู้ขายมากกว่าผู้ค้าปลีกต้องการจริงๆ. ประโยชน์ของการประสานงาน•สี่วิธีการในการประสานงานห่วงโซ่อุปทานกิจกรรมในการสั่งซื้อของระดับของการทำงานร่วมกันเป็น1 โดยใช้ EDI; 2 การแลกเปลี่ยนข้อมูล; 3 โดยใช้ผู้ผลิตสินค้าที่มีการจัดการ; และ4 การจ้างงานการวางแผนการทำงานร่วมกัน, การพยากรณ์และการเติมเต็ม. การใช้ EDI •การใช้ EDI ในการส่งคำสั่งซื้อข้อมูลช่วยลดเวลาที่ใช้สำหรับร้านค้าปลีกที่สั่งซื้อและผู้ขายเพื่อรับทราบการสั่งซื้อและการสื่อสารข้อมูลการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับคำสั่งเหล่านั้น. ใช้ข้อมูลร่วมกัน•หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดมากเกินไปสินค้าคงคลังในห่วงโซ่อุปทานคือการไร้ความสามารถของผู้ขายที่จะรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในระดับที่เกิดขึ้นจริงของการค้าปลีกขาย. •ข้อมูลการขายร่วมกันกับผู้ขายเป็นสิ่งสำคัญขั้นตอนแรกในการปรับปรุงประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน. •ด้วยการขาย ข้อมูลผู้ขายสามารถปรับปรุงของพวกเขาคาดการณ์ยอดขายในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและลดความจำเป็นในการสำรองข้อมูลที่มากเกินไปสินค้าคงคลัง. ผู้ขาย-Managed Inventory (VMI) •สินค้าคงคลังของผู้ขายที่มีการจัดการ (VMI) เป็นแนวทางในการปรับปรุงประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานในการที่ผู้ขายเป็นรับผิดชอบในการรักษาผู้ค้าปลีกระดับสินค้าคงคลัง. •ผู้ขายกำหนดสั่งซื้อจุดระดับของสินค้าคงคลังที่สินค้าอื่น ๆ อีกมากมายได้รับคำสั่ง. •ขายหุ้นค้าปลีกและข้อมูลสินค้าคงคลังกับผู้ขายผ่านทางอีดีไอ. •เมื่อสินค้าคงคลังลดลงถึงจุดสั่งซื้อ ผู้ขายจะสร้างการสั่งซื้อและส่งมอบสินค้า. •ในสภาพที่เหมาะสมผู้ขาย replenishes สินค้าคงเหลือในปริมาณที่ตอบสนองของร้านค้าปลีกความต้องการได้ทันทีและลด stockouts กับสินค้าคงคลังน้อยที่สุด. •นอกจากนี้การที่ดีในการจับคู่ความต้องการค้าปลีกเพื่อจัดหา VMI สามารถลดของผู้จำหน่าย และค่าใช้จ่ายของผู้ค้าปลีก. •พนักงานขายผู้ขายไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้างคำสั่งซื้อในรายการที่มีอยู่แล้วในร้านค้าและการเปลี่ยนแปลงบทบาทของพวกเขาในการขายสินค้าใหม่และรักษาความสัมพันธ์. •ผู้ซื้อค้าปลีกและการวางแผนไม่จำเป็นต้องตรวจสอบระดับสินค้าคงคลังและสั่งซื้อสินค้า. ร่วมกันวางแผนการพยากรณ์และการเติมเต็ม (CPFR) • CPFR คือการแบ่งปันของการคาดการณ์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลและการวางแผนการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ค้าปลีกและผู้ขายในการปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพและการเติมเต็มสินค้า. •แม้ว่ายอดขายร้านค้าปลีกหุ้นและข้อมูลสินค้าคงคลังเมื่อใช้วิธีการ VMI ผู้ขายยังคงมีความรับผิดชอบในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง. •ในทางตรงกันข้าม CPFR เป็นรูปแบบที่สูงขึ้นของ retailervendor การทำงานร่วมกันที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานร่วมกันที่เป็นกรรมสิทธิ์ของข้อมูลดังกล่าวเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่โปรโมชั่นแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และแนะนำตารางการผลิตและตะกั่วข้อมูลเรียลไทม์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความร่วมมือระหว่างร้านค้าปลีก
และผู้ขายในห่วงโซ่อุปทานการจัดการ

- bullwhip ผลเมื่อผู้ค้าปลีกและผู้ขายไม่ประสานงาน
ห่วงโซ่อุปทานการจัดการกิจกรรม
สินค้าคงคลังส่วนเกินสร้างขึ้นในระบบ แม้กระทั่ง
ถ้าขายปลีกซึ่งสินค้า

ค่อนข้างคงที่ บริการนี้ buildup ของคงคลังในช่องจอมงุ่มง่าม
เรียกว่า bullwhip Effect
bullwhip ผลในห่วงโซ่อุปทานไม่พร้อมเพรียงกัน

สาเหตุของ bullwhip ผล
1 ความล่าช้าในการส่งคำสั่งและรับสินค้า
-

แม้ว่าร้านค้าปลีกสามารถพยากรณ์การขายได้อย่างถูกต้อง มีความล่าช้าในการรับใบสั่งซื้อ
เพื่อผู้ขายและได้รับการสั่งซื้อจากผู้ขายเหล่านั้น
.
- ในห่วงโซ่อุปทานไม่พร้อมเพรียงกัน ร้านค้าปลีก
อาจไม่ทราบวิธีที่รวดเร็วพวกเขาสามารถขอรับ
สินค้าและดังนั้นพวกเขา overorder ป้องกัน stockouts

.
สาเหตุของ bullwhip ผล
2 การสั่งซื้อใน batches
- มากกว่าการสร้างหมายเลขของใบสั่งขนาดเล็ก
, ร้านค้าปลีกรอและสถานที่ขนาดใหญ่เพื่อลดการประมวลผลการสั่งซื้อและสั่ง


ต้นทุนการขนส่ง และใช้ประโยชน์จากส่วนลดปริมาณ สาเหตุของ bullwhip ผล

3 เว่อร์การขาดแคลน
- เมื่อร้านค้าปลีกพบมันยากที่จะได้รับ
สินค้าที่พวกเขาต้องการ พวกเขาเริ่มเล่นเกม
-
ไม่เพียงพอเพื่อที่พวกเขามากขึ้นกว่าที่พวกเขาต้องการเพื่อป้องกัน
stockouts หวังว่าพวกเขาจะได้รับส่วนใหญ่

บริการจัดส่ง ดังนั้นโดยเฉลี่ยแล้วผู้ขายเรือมากกว่า

ขายปลีก จริงๆต้องการ ประโยชน์ของการประสานงาน
- สี่วิธีเพื่อประสานงาน กิจกรรมห่วงโซ่
จัดหา เพื่อระดับของการทำงานร่วมกัน มี

1 การใช้ EDI ;
2แลกเปลี่ยนข้อมูล ;
3 การจัดการสินค้าคงคลังและการขาย ;
4 การร่วมกันวางแผน
การพยากรณ์และการเติมเต็ม .

- การใช้ EDI EDI เพื่อส่งข้อมูลการสั่งซื้อ

ลดเวลาสำหรับร้านค้าปลีกสั่งซื้อและแม่ค้า

รับทราบคำสั่งและการสื่อสารส่งข้อมูลเกี่ยวกับ

คำสั่งเหล่านั้น ข้อมูล

แบ่งปัน- หนึ่งในปัจจัยที่ก่อให้เกิดสินค้าคงคลังมากเกินไป
ในโซ่อุปทานจะไม่สามารถของ
ผู้ขายรู้ว่าระดับที่แท้จริงของการขายปลีก
.
- แชร์ข้อมูลการขายกับผู้ขายที่เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพโซ่อุปทาน
.
บวกกับข้อมูลการขาย ผู้ขาย สามารถปรับปรุงการคาดการณ์ยอดขายของพวกเขา
, ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และลดความต้องการมากเกินไป

สำรองสินค้าคงคลัง
ผู้ขายจัดการสินค้าคงคลัง ( VMI )
- ผู้ขายการจัดการสินค้าคงคลัง ( VMI ) เป็นวิธีการเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของโซ่อุปทานซึ่ง

ผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบการรักษาระดับสินค้าคงคลังของผู้ค้าปลีก
.
- ผู้ขายกำหนดระดับสินค้าคงคลังที่สั่งซื้อ point-a
ซึ่งสินค้ามากกว่าจะสั่ง
- ขายหุ้น การขายและข้อมูลสินค้ากับผู้ขายผ่านระบบ EDI

.- เมื่อสินค้าคงคลังลดลงถึงจุดสั่งซื้อ , ผู้ขาย
สร้างสั่งซื้อและส่งมอบสินค้า
- ในเงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุด ผู้ขาย replenishes
สินค้าคงคลังในปริมาณที่ตอบสนองความต้องการของร้านค้าปลีก
ทันทีและลด stockouts ด้วย
-
สินค้าคงคลังน้อยที่สุด นอกจากตรงกับความต้องการค้าปลีกดีกว่า

จัดหา VMI สามารถลดต้นทุนของผู้ผลิตและผู้ค้าปลีก

.พนักงานขาย - ผู้ขายไม่ต้องใช้เวลา
สร้างใบสั่งสินค้าที่มีอยู่แล้วใน
ร้านค้า และเปลี่ยนบทบาทของพวกเขาที่จะขายสินค้าใหม่ และรักษาความสัมพันธ์
.
- ผู้ซื้อรายย่อย นักวางแผน และไม่ต้องตรวจสอบระดับสินค้าคงคลังและสั่งซื้อสินค้า
.
การวางแผนพยากรณ์ร่วมกันและการเติมเต็ม ( cpfr
)
- cpfr คือการคาดการณ์ และที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
แบ่งปันข้อมูลและวางแผนร่วมกันระหว่างผู้ค้าปลีกและผู้ผลิตเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

ใส่โซ่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ .
- แม้ว่าร้านค้าปลีกแบ่งขายและข้อมูลสินค้าคงคลังเมื่อ
ใช้ VMI แนวคิด ผู้ขายยังคงรับผิดชอบสำหรับการจัดการสินค้าคงคลัง
.
- ในทางตรงกันข้าม cpfr เป็นขั้นสูงมากขึ้น รูปแบบของความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ retailervendor
แบ่งปัน
ข้อมูล เช่น กลยุทธ์ทางธุรกิจ แผนส่งเสริม
, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และการแนะนำตัว
กำหนดการผลิต และนำข้อมูลเวลา