How To Make It: When did the design

How To Make It: When did the design process start for the Nike Roshe Run?
Dylan Raasch: The design process for the Roshe started back in the fall of 2010. I was asked to bring ideas to a Nike Sportswear Fall 11 seasonal brainstorm session, which focused on ways of bringing value to a lower price point. I was the only designer in a group of merchandisers, marketing and sales people, and when I presented the concept behind the Roshe the room was crickets. Apparently the idea was too abstract at that point, but I knew there was something there, so I decided to develop the design in my free time.

How To Make It: What was your original design goal: simply a new silhouette, something to hit a $70 price point or strictly performance based?
Dylan: When the idea sprouted for the seasonal brainstorm session, it was definitely an exercise of what value can we bring at a $70 price point, but it soon became a challenge of how I could also make it stylish at the same time. Since I was designing for NSW running and not performance running, I didn’t have to meet the performance requirements for a running shoe, which gave me the freedom to make something that had never been done before. And being that the shoe was designed off brief, I had zero limitations which created a perfect opportunity for something fresh.

How To Make It: What’s the inspiration and concept behind the shoe?
Dylan: Since I was young I have practiced meditation, so the concept of Zen and simplicity plays a big part in my life. The inspiration and name comes directly from the word “Roshi,” which is a title given to a Zen master. And to me, nothing really epitomizes simplicity better than a Zen master. For legal reasons, we had to change the “i” to an “e,” but it is still pronounced the same so it worked for me.

From there, I designed the shoe to be as simple as possible by keeping only what was absolutely necessary. For a running silhouette, it turns out you don’t need much: quarter support, heel support and some cushioning. Once the unnecessary elements were removed, it was an exercise of sculpting and refinement. I pictured the Zen master meditating in his Zen garden and used the shapes and color for inspiration. The bottom of the outsole uses the Nike natural motion waffle pattern, but I wanted them to look like stepping stones in the garden. The insole was designed to mimic a freshly raked Zen rock garden. The original iguana colorway played off the natural dark green moss and leaves and the off-white rocks of a Zen garden. Even the midsole profile of the medial and lateral side is slightly different to create a juxtaposition of seriousness and playfulness.

Apart from the details, I wanted the shoe to be as versatile as possible, so I designed it so it could be worn barefoot or with socks. You could dress up or down in it, travel with it, walk or run in it, chill in it, almost anything. I felt the simpler I could make it, the more profound it would become.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีทำ: เมื่อทำการออกแบบเริ่มต้นสำหรับ Nike Roshe รันดีแลน Raasch: การออกแบบสำหรับ Roshe เริ่มต้นในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2010 ฉันถูกขอให้คิดให้ Nike Sportswear ตก 11 ระดมตามฤดูกาลสมัย ซึ่งเน้นวิธีการนำค่าไปจุดราคาต่ำกว่า ผมแบบเฉพาะในกลุ่มของ merchandisers บุคคลการตลาด และการขาย และเมื่อผมนำเสนอแนวคิดเบื้องหลัง Roshe ห้องเป็นจิ้งหรีด เห็นได้ชัดว่าความคิดเป็นนามธรรมเกินไปณจุดนั้น แต่ฉันรู้มีสิ่งนั่น ดังนั้นฉันตัดสินใจที่จะพัฒนาการออกแบบในเวลาว่างของฉันวิธีทำ: สิ่งที่เป็นเป้าหมายของการออกแบบต้นฉบับ: เพียงใหม่ภาพเงา ให้ตี $70 ราคาจุดงาน หรือเคร่งครัดตามประสิทธิภาพการทำงานหรือไม่ดีแลน: เมื่อความคิดแทนสำหรับเซสชันระดมตามฤดูกาล เรื่องแนะนำการออกกำลังกายมูลค่าเราสามารถนำจุดราคา $70 แต่เร็ว ๆ นี้เป็นความท้าทายของวิธีฉันสามารถยังให้ทันสมัยในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่ผมถูกออกแบบสำหรับรันนิวเซาธ์เวลส์และประสิทธิภาพไม่ทำงาน ไม่มีเพื่อตอบสนองความต้องการประสิทธิภาพสำหรับรองเท้าทำงาน ซึ่งฉันให้อิสระในการทำบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เคยมีการทำก่อน และก็คือรองเท้าถูกออกแบบปิดย่อ มีศูนย์จำกัดซึ่งสร้างโอกาสที่สมบูรณ์แบบสำหรับบางสิ่งบางอย่างที่สดวิธีทำ: อะไรเป็นแรงบันดาลใจและแนวคิดเบื้องหลังรองเท้าดีแลน: ตั้งแต่เด็ก ฉันได้ฝึกฝนทำสมาธิ ดังนั้นแนวคิดของเซนและความเรียบง่ายเล่นส่วนใหญ่ในชีวิต แรงบันดาลใจและชื่อมาจากคำว่า "Roshi ซึ่งเป็นชื่อเรื่องให้หลักเซน และให้ฉัน ไม่มีอะไรจริง ๆ epitomizes เรียบง่ายดีกว่าต้นแบบเซน กฎหมาย เรามีการเปลี่ยน "i" "e" แต่มันจะยังออกเสียงเหมือนกันเพื่อทำงานสำหรับฉันจาก ฉันออกแบบรองเท้าให้ง่ายที่สุด โดยรักษาเฉพาะ สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับภาพเงาทำงาน มันเปิดออกคุณไม่จำเป็นมาก: ไตรมาสที่สนับสนุน การสนับสนุนส้น และบางกันกระแทก เมื่อองค์ประกอบไม่จำเป็นออก มันเป็นการออกกำลังกายของแกะสลักและการ ภาพแบบเซนที่ meditating ในสวนเซนของเขา และใช้รูปร่างและสีสำหรับแรงบันดาลใจ ด้านล่างของ outsole ใช้รูปแบบวาฟเฟิลเคลื่อนไหวธรรมชาติ Nike แต่อยากให้ดูเหมือนก้าวหินในสวน พื้นรองเท้าถูกออกแบบมาเพื่อเลียนแบบสด raked เซนร๊อคการ์เด้น Colorway อิกัวนาเดิมเล่นมอสส์สีเขียวเข้มธรรมชาติ และใบไม้ และหินสีขาวของสวนเซน แม้โพรไฟล์ midsole ฝั่งด้านใกล้กลาง และด้านข้างจะต้องสร้าง juxtaposition อย่างจริงจังและ playfulnessนอกจากรายละเอียด พระยานริศรองเท้าจะเป็นงานได้หลากหลายที่สุด ดังนั้นฉันมาก็เพื่อให้สามารถสวมใส่เท้าเปล่าบน หรือถุงเท้า คุณสามารถแต่งตัวขึ้น หรือลงใน กับการเดินทาง เดิน ขึ้นรันใน ชิ มันเกือบทุกอย่าง ฉันรู้สึกว่าง่ายกว่าที่ฉันสามารถทำมัน ยิ่งลึกซึ้งมันจะกลายเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการสร้างมัน: เมื่อไหร่ที่ขั้นตอนการออกแบบเริ่มต้นสำหรับ Nike Roshe Run?
ดีแลน Raasch: ขั้นตอนการออกแบบสำหรับ Roshe เริ่มกลับมาในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2010 ผมได้ขอให้นำความคิดที่จะ Nike Sportswear เซสชั่นฤดูใบไม้ร่วงระดมความคิดตามฤดูกาลที่ 11 ซึ่งมุ่งเน้นไปที่วิธีการที่จะนำไปสู่จุดมูลค่าราคาที่ต่ำกว่า ฉันเป็นนักออกแบบเฉพาะในกลุ่มของผู้ค้าตลาดและคนขายและเมื่อผมนำเสนอแนวความคิดที่อยู่เบื้องหลัง Roshe ห้องพักเป็นจิ้งหรีด เห็นได้ชัดว่าเป็นความคิดที่เป็นนามธรรมเกินไปที่จุดนั้น แต่ฉันรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่นั่นดังนั้นฉันตัดสินใจที่จะพัฒนาออกแบบในเวลาว่างของฉัน. วิธีการสร้างมัน: อะไรคือเป้าหมายของการออกแบบเดิมของคุณ: เพียงแค่เงาใหม่บางสิ่งบางอย่างที่จะตี จุดราคา $ 70 หรือการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด? ดีแลน: เมื่อความคิดที่แตกหน่อสำหรับเซสชันระดมสมองตามฤดูกาลมันก็แน่นอนการออกกำลังกายของสิ่งที่มีค่าที่เราสามารถนำมาที่จุดราคา $ 70 แต่มันก็กลายเป็นความท้าทายของวิธีการที่ฉันยังสามารถทำให้ มันมีสไตล์ในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่ผมได้รับการออกแบบสำหรับการทำงาน NSW และไม่ทำงานประสิทธิภาพการทำงานผมไม่ได้มีเพื่อตอบสนองความต้องการประสิทธิภาพการทำงานสำหรับรองเท้าวิ่งที่ให้ผมมีอิสระที่จะทำอะไรบางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน . และการที่รองเท้าที่ได้รับการออกแบบออกสั้น ๆ ผมก็มีศูนย์ข้อ จำกัด ซึ่งสร้างโอกาสที่ดีสำหรับบางสิ่งบางอย่างที่สดใหม่วิธีการสร้างมัน: อะไรคือแรงบันดาลใจและแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังรองเท้า? ดีแลน: ตั้งแต่ผมเป็นเด็กผมมีการทำสมาธิการฝึกเพื่อให้ แนวคิดของเซนและความเรียบง่ายเล่นเป็นส่วนใหญ่ในชีวิตของฉัน แรงบันดาลใจและชื่อนี้ได้มาโดยตรงจากคำว่า "Roshi" ซึ่งเป็นชื่อที่มอบให้กับอาจารย์เซน และให้ฉันไม่มีอะไรจริงๆ epitomizes ความเรียบง่ายดีกว่าอาจารย์เซน ด้วยเหตุผลทางกฎหมายที่เรามีการเปลี่ยนแปลง "i" เพื่อ "อี" แต่มันก็ยังคงเด่นชัดเดียวกันดังนั้นจึงทำงานให้ฉัน. จากนั้นผมออกแบบรองเท้าที่จะเป็นง่ายๆเป็นไปได้โดยการรักษาเฉพาะสิ่งที่เป็นอย่างแน่นอน จำเป็น สำหรับเงาที่ทำงานก็จะเปิดออกที่คุณไม่จำเป็นต้องมากสนับสนุนไตรมาสสนับสนุนกระแทกส้นเท้าและบาง เมื่อองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นถูกถอดออกมาก็คือการออกกำลังกายของการแกะสลักและการปรับแต่ง ฉันภาพอาจารย์เซนนั่งสมาธิในสวนเซนของเขาและใช้รูปทรงและสีสำหรับแรงบันดาลใจ ด้านล่างของ outsole ใช้รูปแบบการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติวาฟเฟิลไนกี้ แต่ผมอยากให้พวกเขามีลักษณะเหมือนก้าวหินในสวน พื้นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อเลียนแบบสวนหินเซนกวาดสดใหม่ colorway เดิมอีกัวน่าเล่นออกมอสสีเขียวธรรมชาติสีเข้มและใบและหินสีขาวของสวนเซน แม้แต่รายละเอียด midsole ของฝั่งตรงกลางและด้านข้างแตกต่างกันเล็กน้อยในการสร้างการตีข่าวของความรุนแรงและความสนุกสนาน. นอกเหนือจากรายละเอียดที่ผมอยากรองเท้าจะเป็นหลากหลายที่สุดดังนั้นผมออกแบบมันจึงอาจจะสวมใส่เท้าเปล่าหรือกับ ถุงเท้า คุณสามารถแต่งตัวขึ้นหรือลงในนั้นเดินทางไปกับมันเดินหรือวิ่งในนั้นเย็นในมันเกือบทุกอย่าง ผมรู้สึกว่าง่ายฉันจะทำให้มันลึกซึ้งมากขึ้นมันจะกลายเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีทำ : เมื่อได้เริ่มกระบวนการออกแบบสำหรับ Nike roshe วิ่ง ?
ดีแลนราส์ช : กระบวนการออกแบบสำหรับ roshe เริ่มกลับมาในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2010 ผมก็ขอนำความคิดในชุดกีฬาไนกี้ ตก 11 ฤดูกาลการระดมสมองเซสชันซึ่งเน้นวิธีการนำค่าจุดราคาต่ำ ฉันเป็นนักออกแบบในกลุ่มผู้ค้า การตลาด และการขาย คนและเมื่อผมเสนอแนวคิดหลัง roshe ห้องจิ้งหรีด เห็นได้ชัดว่า ความคิดเป็นนามธรรมเกินไปที่จุดนั้น แต่ผมก็รู้ว่ามีอะไรบางอย่างที่นั่น ดังนั้นฉันตัดสินใจที่จะพัฒนาออกแบบในเวลาว่างของฉัน

วิธีทำ : อะไรคือเป้าหมายการออกแบบเดิมของคุณ : เพียงเงาใหม่บางอย่างที่จะตีจุดราคา $ 70 หรือเคร่งครัดการปฏิบัติตาม ?
ดีแลน :เมื่อความคิดแตกหน่อสำหรับเซสชันระดมสมองตามฤดูกาล เป็นมั่นเหมาะออกกำลังกายค่าสิ่งที่เราสามารถเอาที่จุดราคา $ 70 แต่ไม่นานมันก็กลายเป็นความท้าทายของวิธีการที่ฉันสามารถทำให้มันมีสไตล์ในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่การออกแบบและประสิทธิภาพสำหรับ NSW วิ่งไม่วิ่ง ผมไม่ได้มีเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานรองเท้าซึ่งทำให้ผมมีอิสระที่จะทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน และที่รองเท้าถูกออกแบบออกมาสั้นๆ ผมไม่มีข้อ จำกัด ที่ได้สร้างโอกาสที่ดีสำหรับสิ่งที่สด

วิธีทำ : อะไรเป็นแรงบันดาลใจและแนวคิดหลังรองเท้า
ดีแลน : ตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมได้ฝึกสมาธิ ดังนั้นแนวคิดของเซนและความเรียบง่ายเล่นเป็นส่วนใหญ่ในชีวิตของฉันแรงบันดาลใจและชื่อตรงมาจากคำว่า " ผู้เฒ่าเต่า " ซึ่งเป็นชื่อที่มอบให้กับอาจารย์เซน และฉัน ไม่มีอะไร epitomizes ความเรียบง่ายดีกว่าอาจารย์เซน เหตุผลทางกฎหมาย เราต้องเปลี่ยนที่ " ฉัน " กับ " E " แต่ยังออกเสียงเหมือนเดิม มันทำงานสำหรับฉัน

จากที่นั่นฉันออกแบบให้ง่ายที่สุด โดยการรักษาเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ สำหรับการวิ่งเงา มันเปิดออกคุณไม่ต้องการมาก : สนับสนุนไตรมาส , สนับสนุนส้นเท้าและกระแทก เมื่อองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นออก มันเป็นแบบฝึกหัดของแกะสลักและการปรับแต่งผมนึกภาพเซนโทณสวนเซนของเขาและใช้รูปทรงและสีสำหรับแรงบันดาลใจ ด้านล่างของ outsole ใช้ Nike ธรรมชาติเคลื่อนไหวรูปแบบวาฟเฟิล แต่อยากให้มีลักษณะเหมือนเหยียบหินในสวน พื้นรองเท้าถูกออกแบบมาเพื่อเลียนแบบสดๆเรคเซนสวนหินการเล่นจากธรรมชาติเดิม Colorway อีกัวน่าเขียวเข้ม มอส และ ใบและหินขาวของเซนการ์เด้น แม้ชั้นระหว่าง insole และ outsole ของรองเท้าโปรไฟล์ของ medial และด้านข้างฝั่งที่แตกต่างกันเล็กน้อยเพื่อสร้างการวางเคียงกันของความรุนแรงและความขี้เล่น

นอกจากรายละเอียด ฉันต้องการรองเท้าเป็นอเนกประสงค์มากที่สุด ดังนั้น ผมออกแบบให้มันสามารถสวมใส่กับเท้าหรือถุงเท้าคุณสามารถแต่งตัวขึ้นหรือลงใน เดินทาง มัน เดิน หรือวิ่ง มันเย็นแล้ว เกือบทุกอย่าง ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถทำให้มันง่ายขึ้น และลึกซึ้งมากขึ้น ก็จะกลายเป็น