Intended as a replacement for the S

Intended as a replacement for the Sopwith Pup,[2] the Camel prototype was first flown by Harry Hawker at Brooklands on 22 December 1916, powered by a 110 hp Clerget 9Z. Known as the "Big Pup" early on in its development, the biplane design was structurally conventional for its time, featuring a box-like fuselage structure, an aluminium engine cowling, plywood-covered panels around the cockpit, and fabric-covered fuselage, wings and tail. For the first time on an operational British-designed fighter, two .303 in (7.7 mm) Vickers machine guns were mounted directly in front of the cockpit, firing forward through the propeller disc with synchronisation gear. A metal fairing over the gun breeches, intended to protect the guns from freezing at altitude, created a "hump" that led to the name Camel.[2] The bottom wing was rigged with 3° dihedral but the top wing had no dihedral, so that the gap between the wings was less at the tips than at the roots. This was done at the suggestion of Fred Sigrist, the Sopwith works manager, in order to simplify construction. Approximately 5,490 Camels were built.[3]
Unlike the preceding Pup and Triplane, the Camel was generally considered difficult to fly. The type owed its extreme manoeuvrability and its difficult handling to the close placement of the engine, pilot, guns and fuel tank (some 90% of the weight of the aircraft) within the front seven feet of the aircraft, coupled with the strong gyroscopic effect of the rotary engine. The Camel soon gained an unfortunate reputation with student pilots. The Clerget engine was particularly sensitive to fuel mixture control and incorrect settings often caused the engine to choke and cut out during take-off. Many crashed due to mishandling on take-off when a full fuel tank affected the centre of gravity. In level flight, the Camel was markedly tail-heavy. Unlike the Sopwith Triplane, the Camel lacked a variable incidence tailplane, so that the pilot had to apply constant forward pressure on the control stick to maintain a level attitude at low altitude. The aircraft could also be rigged so that at higher altitudes it was able to be flown "hands off." A stall immediately resulted in a particularly dangerous spin.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์เป็นการแทนที่สำหรับการ Sopwith ฑิมภ์, [2] ต้นแบบอูฐถูกแรกบิน โดยแฮร์รี่ Hawker ที่บรูกแลนด์สบน 22 1916 ธันวาคม ขับเคลื่อน โดยการ 110 hp Clerget 9Z เรียกว่า "ฑิมภ์ใหญ่" ในการพัฒนาช่วงต้น แบบ biplane มี structurally ปกติเวลา มีโครงสร้างเหมือนกล่อง fuselage, cowling เครื่องยนต์เป็นอลูมิเนียม แผงไม้อัดครอบคลุมสถานควบคุม ครอบคลุมผ้า fuselage ปีก และหางด้วย ครั้งแรกในการดำเนินงานออกแบบอังกฤษรบ สอง.303 ใน (7.7 mm) วิกเกอร์สปืนถูกติดตั้งด้านหน้าส่วนควบคุม ยิงไปถึงใบพัดกับเกียร์ synchronisation Fairing โลหะผ่านกางเกงปืน วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ปืนแช่แข็งที่ระดับความสูง สร้างเป็น "หลังเต่า" ที่ชื่อคาเมล[2] ปีกล่างมี rigged มี dihedral 3 องศา แต่ปีกด้านบนมี dihedral ไม่ เพื่อให้มีช่องว่างระหว่างปีกน้อยที่เคล็ดลับกว่าที่ราก นี้ทำในคำแนะนำของ Fred Sigrist, Sopwith ทำงานผู้จัดการ เพื่อทำการก่อสร้าง อูฐประมาณ 5,490 ถูกสร้างขึ้น[3]
ต่างจากฑิมภ์และ Triplane ก่อนหน้านี้ อูฐเขาโดยทั่วไปก็ยากที่จะบิน ชนิดเป็นหนี้ของ manoeuvrability มากและความยากจัดการวางปิดรถยนต์ นำร่อง ปืนและถังน้ำมันเชื้อเพลิง (บาง 90% ของน้ำหนักของเครื่องบิน) ภายในหน้าเจ็ดฟุตเครื่องบิน ควบคู่ไปกับผล gyroscopic แรงของเครื่องยนต์โรตารี่ อูฐเร็ว ๆ นี้ได้มีชื่อเสียงโชคร้ายกับนักบินนักเรียน เครื่องยนต์ Clerget สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมส่วนผสมเชื้อเพลิงไม่ถูกต้องตั้งค่าและมักจะเกิดจากเครื่องยนต์หายใจติดขัด และตัดออกในระหว่างการตัด หลายคนล้มเหลวเนื่องจากการเก็บบนที่ใช้ปิดเมื่อถังน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมดได้รับผลกระทบของแรงโน้มถ่วง ในเที่ยวบินระดับ อูฐถูก tail-heavy อย่างเด่นชัด ต่างจาก Sopwith Triplane อูฐขาดการผันแปรเกิดมา เพื่อให้นักบินที่มีการใช้แรงดันไปข้างหน้าคงไม้ควบคุมรักษาทัศนคติระดับที่ระดับความสูงต่ำ นอกจากนี้ยังมี rigged เครื่องบินนั้นที่ระดับสูง ก็สามารถที่จะบิน "มือปิด" คอกมีผลทันทีในหมุนอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตั้งใจจะให้เป็นแทน Pup โซพวิ ธ [2] ต้นแบบอูฐบินเป็นครั้งแรกโดยแฮร์รี่หาบเร่ที่ Brooklands 22 ธันวาคม 1916 ขับเคลื่อนโดย 110 แรงม้า Clerget 9Z ที่รู้จักกันในฐานะ "สุนัขใหญ่" ในช่วงต้นของการพัฒนาของการออกแบบเครื่องบินเป็นโครงสร้างเดิมของเวลาที่มีกล่องเหมือนโครงสร้างลำตัว, เครื่องยนต์ cowling อลูมิเนียมแผ่นไม้อัดปกคลุมทั่วห้องนักบินและเครื่องบินผ้าที่ปกคลุมไปด้วย ปีกและหาง เป็นครั้งแรกที่นักมวยชาวอังกฤษที่ออกแบบการดำเนินงานสอง .303 ใน (7.7 มิลลิเมตร) วิคเกอร์ปืนถูกติดตั้งอยู่ตรงด้านหน้าของห้องนักบินยิงไปข้างหน้าผ่านแผ่นใบพัดด้วยเกียร์ประสาน เครื่องบินโลหะกว่ากางเกงปืนที่มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันปืนจากการแช่แข็งที่ระดับความสูงที่สร้างขึ้น "โคก" ที่นำไปสู่ชื่ออูฐ. [2] ปีกด้านล่างเป็นหัวเรือใหญ่ 3 °ไดฮีดรั แต่ปีกด้านบนไม่มีไดฮีดรั, เพื่อให้ช่องว่างระหว่างปีกน้อยที่เคล็ดลับกว่าที่ราก นี้ทำคำแนะนำของเฟร็ด Sigrist ผู้จัดการงานโซพวิ ธ , เพื่อที่จะลดความซับซ้อนของการก่อสร้าง ประมาณ 5,490 อูฐถูกสร้างขึ้น. [3]
ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้และ Pup Triplane อูฐได้รับการยอมรับโดยทั่วไปยากที่จะบิน ประเภทหคล่องแคล่วมากและการจัดการเป็นเรื่องยากที่จะปิดตำแหน่งของเครื่องยนต์นักบินปืนและถังน้ำมันเชื้อเพลิง (90% ของน้ำหนักของเครื่องบิน) ภายในเจ็ดฟุตด้านหน้าของเครื่องบินคู่กับผล gyroscopic ที่แข็งแกร่ง ของเครื่องยนต์โรตารี่ อูฐในเร็ว ๆ นี้ได้รับชื่อเสียงที่โชคร้ายกับนักบินนักเรียน เครื่องยนต์ Clerget เป็นสำคัญโดยเฉพาะการควบคุมส่วนผสมน้ำมันเชื้อเพลิงและการตั้งค่าที่ไม่ถูกต้องมักจะเกิดจากเครื่องยนต์สำลักและตัดออกมาในช่วงเวลาปิด หลายชนเนื่องจากการผิดพลาดในการเอาออกเมื่อถังน้ำมันเชื้อเพลิงได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบศูนย์ของแรงโน้มถ่วง ในเที่ยวบินระดับอูฐเป็นอย่างเด่นชัดหางหนัก ซึ่งแตกต่างจากโซพวิ ธ Triplane อูฐขาด tailplane อุบัติการณ์ตัวแปรเพื่อให้นักบินต้องใช้ความดันไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องในการควบคุมการติดเพื่อรักษาทัศนคติที่ระดับที่ระดับความสูงต่ำ เครื่องบินอาจจะมีการขึงเพื่อให้ในระดับที่สูงขึ้นมันก็สามารถที่จะบิน "มือปิด." คอกทันทีส่งผลให้สปินที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อใช้เป็นการเปลี่ยนสำหรับ sopwith ลูกสุนัขที่[ 2 ]ต้นแบบขี่อูฐที่บินครั้งแรกโดยแฮร์รี่พ่อค้าที่ brooklands ในวันที่ 22 ธันวาคม 1916 โดย 110 HP clerget 9 a Z . เป็นที่รู้จักในฐานะ"ลูกสุนัขขนาดใหญ่ที่"ในช่วงต้นของการพัฒนาการออกแบบ Biplane Tours ที่เป็นแบบอย่างสำหรับช่วงเวลาของพื้นที่โดดเด่นไปด้วยโครงสร้างลำตัวกล่องที่คล้ายกับ cowling เครื่องยนต์อะลูมิเนียมที่แผงไม้อัด - ล้อมรอบไปด้วยแผงหน้าปัดและลำตัวผ้าปีกและหาง. เป็นครั้งแรกที่อยู่บนเครื่องบินรบของอังกฤษได้รับการออกแบบในแบบการทำงานที่สอง .303 ใน( 7.7 มม.)ยิงปืนเครื่องวิคเคอร์สเป็นติดตั้งโดยตรงในทางด้านหน้าของห้องนักบินที่ยิงไปข้างหน้าด้วยแผ่นใบพัดที่พร้อมด้วยอุปกรณ์การซิงโครไนซ์ fairing โลหะที่มากกว่ากางเกงขี่ม้ายิงปืนที่มีจุดมุ่งหมายในการคุ้มครองปืนไว้จากความหนาวเย็นที่ระดับความสูงสร้าง"โคก"ที่นำไปสู่ชื่อขี่อูฐ.[ 2 ]ส่วนปีกอาคารด้านล่างที่เป็นใบเรือพร้อมด้วย 3 ° dihedral แต่ปีกอาคารด้านบนไม่มี dihedral ดังนั้นว่าช่องว่างระหว่างปีกอาคารที่มีจำนวนน้อยที่ปลายกว่าที่ราก โรงแรมแห่งนี้เป็นการกระทำที่แนะนำของเฟรด sigrist sopwith Manager สามารถทำงานได้ในการสั่งซื้อเพื่อช่วยให้การก่อสร้าง ประมาณ 5,490 อูฐได้ถูกสร้างขึ้น.[ 3 ]
ไม่เหมือนกับลูกสุนัขอยู่ด้านหน้าและ triplaneขี่อูฐนั้นโดยทั่วไปได้รับการพิจารณาว่ายากที่จะตามจำเป็น ประเภท ที่ค้างชำระแก่ความคล่องตัวสูงสุดและการจัดการกับเรื่องยากที่จะจัดวางอยู่ใกล้ของเครื่องยนต์ที่นำปืนและถังน้ำมัน( 90% ของน้ำหนักตัวของอากาศยานที่ได้) ภายใน เจ็ดฟุตด้านหน้าของอากาศยานที่ควบคู่ไปกับผล gyroscopic Strong ของเครื่องยนต์โรตารีได้ขี่อูฐนั้นก็รับชื่อเสียงผู้โชคร้ายที่พร้อมด้วยนักบินนักศึกษา เครื่องยนต์ clerget นั้นโดยเฉพาะที่สำคัญเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงการควบคุมและการตั้งค่าไม่ถูกต้องมักจะเกิดจากเครื่องยนต์ที่จะทำให้หายใจไม่ออกและถูกตัดออกจากในระหว่างนำ - ปิด จำนวนมากพังลงเนื่องจากมีการซ็ิอกเก็ตอย่างที่นำ - ปิดเมื่อน้ำในแท้งค์น้ำมันเต็มที่ได้รับผลกระทบศูนย์ถ่วง ในเที่ยวบินระดับขี่อูฐนั้นอย่างชัดเจนหาง - หนักไม่เหมือนกับ sopwith triplane ที่ขี่อูฐที่ขาดต่อมาการปรับเปลี่ยนเพื่อที่ว่านักบินที่ต้องใช้แรงกดไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องใน Memory Stick เพื่อควบคุมการรักษาไว้ซึ่งทัศนคติระดับที่ระดับความสูงต่ำ อากาศยานที่จะโยงให้สูงขึ้นที่ระดับความสูงที่ได้สามารถที่จะได้บิน"มือ"แผงลอยทันทีส่งผลให้ในหมุนอันตรายโดยเฉพาะที่ยัง