BACKGROUND:Use of mobile health (mH

BACKGROUND:
Use of mobile health (mHealth) technology is on an exponential rise. mHealth apps have the capability to reach a large number of individuals, but until now have lacked the integration of evidence-based theoretical constructs to increase exercise behavior in users.
OBJECTIVE:
The purpose of this study was to assess the effectiveness of a theory-based, self-monitoring app on exercise and self-monitoring behavior over 8 weeks.
METHODS:
A total of 56 adults (mean age 40 years, SD 13) were randomly assigned to either receive the mHealth app (experimental; n=28) or not to receive the app (control; n=28). All participants engaged in an exercise goal-setting session at baseline. Experimental condition participants received weekly short message service (SMS) text messages grounded in social cognitive theory and were encouraged to self-monitor exercise bouts on the app on a daily basis. Exercise behavior, frequency of self-monitoring exercise behavior, self-efficacy to self-monitor, and self-management of exercise behavior were collected at baseline and at postintervention.
RESULTS:
Engagement in exercise bouts was greater in the experimental condition (mean 7.24, SD 3.40) as compared to the control condition (mean 4.74, SD 3.70, P=.03, d=0.70) at week 8 postintervention. Frequency of self-monitoring increased significantly over the 8-week investigation between the experimental and control conditions (P

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

BACKGROUND:Use of mobile health (mHealth) technology is on an exponential rise. mHealth apps have the capability to reach a large number of individuals, but until now have lacked the integration of evidence-based theoretical constructs to increase exercise behavior in users.OBJECTIVE:The purpose of this study was to assess the effectiveness of a theory-based, self-monitoring app on exercise and self-monitoring behavior over 8 weeks.METHODS:A total of 56 adults (mean age 40 years, SD 13) were randomly assigned to either receive the mHealth app (experimental; n=28) or not to receive the app (control; n=28). All participants engaged in an exercise goal-setting session at baseline. Experimental condition participants received weekly short message service (SMS) text messages grounded in social cognitive theory and were encouraged to self-monitor exercise bouts on the app on a daily basis. Exercise behavior, frequency of self-monitoring exercise behavior, self-efficacy to self-monitor, and self-management of exercise behavior were collected at baseline and at postintervention.RESULTS:Engagement in exercise bouts was greater in the experimental condition (mean 7.24, SD 3.40) as compared to the control condition (mean 4.74, SD 3.70, P=.03, d=0.70) at week 8 postintervention. Frequency of self-monitoring increased significantly over the 8-week investigation between the experimental and control conditions (P<.001, partial η(2)=.599), with participants in the experimental condition self-monitoring significantly more at postintervention (mean 6.00, SD 0.93) in comparison to those in the control condition (mean 1.95, SD 2.58, P<.001, d=2.10). Self-efficacy to self-monitor and perceived self-management of exercise behavior were unaffected by this intervention.CONCLUSIONS:The successful integration of social cognitive theory into an mHealth exercise self-monitoring app provides support for future research to feasibly integrate theoretical constructs into existing exercise apps. In addition, findings provide preliminary support for theory-based apps to increase self-monitoring and exercise behavior in comparison to a control, no-app condition.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภูมิหลัง:
การใช้เทคโนโลยีสุขภาพเคลื่อนที่ (mHealth) อยู่บนเพิ่มขึ้นชี้แจง ปพลิเคชัน mHealth มีความสามารถในการเข้าถึงประชาชนจำนวนมาก แต่จนถึงขณะนี้ได้ขาดการบูรณาการตามหลักฐานการสร้างทฤษฎีเพื่อเพิ่มพฤติกรรมการออกกำลังกายในผู้ใช้.
วัตถุประสงค์:
วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้คือการประเมินประสิทธิผลของทฤษฎีตาม . ตรวจสอบตนเอง app บนการออกกำลังกายและการตรวจสอบตนเองพฤติกรรมกว่า 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา
นักวิจัย
ทั้งหมดของผู้ใหญ่ 56 (อายุเฉลี่ย 40 ปี, SD 13) ถูกสุ่มให้ได้อย่างใดอย่างหนึ่งได้รับแอพพลิเค mHealth (จากการทดลอง; n = 28) หรือไม่ ที่จะได้รับ app (ควบคุม n = 28) ผู้เข้าร่วมทั้งหมดมีส่วนร่วมในการออกกำลังกายเป้าหมายการตั้งค่าเซสชั่นที่ baseline ผู้เข้าร่วมการทดลองได้รับเงื่อนไขบริการข้อความสั้นรายสัปดาห์ (SMS) ข้อความเหตุผลในทฤษฎีองค์ความรู้ทางสังคมและได้รับการสนับสนุนในการศึกการออกกำลังกายการตรวจสอบตนเองใน app ในชีวิตประจำวัน พฤติกรรมการออกกำลังกายความถี่ของพฤติกรรมการออกกำลังกายการตรวจสอบตนเองด้วยตนเองการรับรู้ความสามารถตนเองตรวจสอบและการจัดการตนเองของพฤติกรรมการออกกำลังกายที่ถูกเก็บรวบรวมที่ baseline และ postintervention.
ผลการศึกษา:
การมีส่วนร่วมในศึกการออกกำลังกายเป็นมากขึ้นในสภาพการทดลอง (ค่าเฉลี่ย 7.24, SD 3.40) เมื่อเทียบกับสภาพที่ควบคุม (หมายถึง 4.74, SD 3.70, P = 0.03, D = 0.70) ในสัปดาห์ที่ 8 postintervention ความถี่ของการตรวจสอบตนเองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงการตรวจสอบ 8 สัปดาห์ระหว่างเงื่อนไขการทดลองและการควบคุม (P <.001, ηบางส่วน (2) =. 599) โดยมีผู้เข้าร่วมในสภาพการทดลองตรวจสอบตนเองอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นใน postintervention (หมายถึง 6.00, SD 0.93) เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่อยู่ในสภาพควบคุม (หมายถึง 1.95, SD 2.58, p <.001, D = 2.10) ตนเองรับรู้ความสามารถของตนเองตรวจสอบและการรับรู้การจัดการตนเองของพฤติกรรมการออกกำลังกายได้รับผลกระทบจากการแทรกแซงนี้.
สรุป
บูรณาการที่ประสบความสำเร็จของทฤษฎีองค์ความรู้ทางสังคมเป็น mHealth App ออกกำลังกายตรวจสอบตนเองให้การสนับสนุนสำหรับการวิจัยในอนาคตจะ feasibly บูรณาการสร้างเป็นทฤษฎีที่มีอยู่ ปพลิเคชันการออกกำลังกาย นอกจากนี้ผลการวิจัยให้การสนับสนุนเบื้องต้นสำหรับแอพพลิเคทฤษฎีที่ใช้ในการเพิ่มการตรวจสอบตนเองและการออกกำลังกายพฤติกรรมในการเปรียบเทียบกับการควบคุมสภาพไม่มีแอป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลัง :ใช้โทรศัพท์มือถือของสุขภาพ ( เฉลี่ย ) เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นชี้แจง เฉลี่ยปพลิเคชันมีความสามารถในการเข้าถึงเป็นจำนวนมากของบุคคล แต่ถึงตอนนี้ยังขาดการบูรณาการตามทฤษฎีโครงสร้างเพื่อเพิ่มพฤติกรรมการออกกำลังกายในผู้ใช้วัตถุประสงค์ :การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของตนเองตามทฤษฎี , App การออกกำลังกายและพฤติกรรมตนเอง 8 สัปดาห์วิธีการ :ทั้งหมดผู้ใหญ่ 56 ( หมายถึง อายุ 40 ปี , SD 13 ) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้รับ app เฉลี่ย ( ทดลอง ; n = 28 ) หรือไม่ได้รับ app ( การควบคุม ; n = 28 ) เป็นผู้ร่วมในการฝึกเซสชันการตั้งค่าเป้าหมายที่ระดับ ผู้เข้าร่วมการทดลองที่ได้รับเงื่อนไขบริการส่งข้อความสั้น ( SMS ) ข้อความประมูลในทฤษฎีปัญญาสังคมและมีตัวตนตรวจสอบการออกกำลังกาย bouts บน app บนพื้นฐานทุกวัน พฤติกรรมการออกกำลังกาย , ความถี่ของบรรยากาศ พฤติกรรมการออกกำลังกาย การรับรู้ความสามารถของตนเองในการตรวจสอบตนเองและการจัดการพฤติกรรมการออกกำลังกายมีสัปดาห์ที่ 0 และที่ postintervention .ผลลัพธ์ :หมั้นในศึกเป็นมากขึ้นในภาวะการทดลอง ( หมายถึง 7.24 , SD 3.40 ) เมื่อเทียบกับเงื่อนไขควบคุม ( ค่าเฉลี่ย 4.74 , SD 3.70 , p = . 03 , D = 0.70 ) ในสัปดาห์ที่ 8 postintervention . ความถี่ของตนมากขึ้นกว่าสัปดาห์ที่ 8 ของกลุ่มทดลองและควบคุมการตรวจสอบเงื่อนไข ( P < . 001 , ηบางส่วน ( 2 ) = . 598 ) ให้กับผู้เข้าร่วมในการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ postintervention สภาพตนเอง ( หมายถึง 6.00 , SD 0.93 ) ในการเปรียบเทียบกับผู้ที่อยู่ในภาวะควบคุมได้ ( หมายถึง 1.95 , 2.58 SD , p < . 001 , D = 2.10 ) ตนเองตรวจสอบตนเองและการรับรู้ตนเอง พฤติกรรมการออกกำลังกาย ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้สรุปบูรณาการที่ประสบความสำเร็จของทฤษฎีปัญญาทางสังคมเป็น app ออกกำลังกายเฉลี่ยตนให้การสนับสนุนงานวิจัยที่จะรวมทฤษฎีโครงสร้าง feasibly เป็นปพลิเคชันออกกำลังกายที่มีอยู่ นอกจากนี้ ผลการวิจัยสนับสนุนเบื้องต้นทฤษฎีตามปพลิเคชันเพื่อเพิ่มบรรยากาศ และพฤติกรรมการออกกำลังกายในการเปรียบเทียบกับการควบคุม ไม่ตรวจสอบเงื่อนไข