ได้รับอนุญาตให้เรียนคอร์สต่างๆได้มากกว่า 3 เดือนได้รับอนุญาตให้ทำงานได้ถูกต้องตามกฏหมายได้ สัปดาห์ละไม่เกิน 20 ชั่วโมงได้รับส่วนลดต่างๆจากสถานบริการในราคานักเรียนนักศึกษา เช่น โรงภาพยนตร์ ยกเว้นแต่ระบบคมนาคมเช่น รถไฟ รถประจำทาง เรือเฟอร์รี่ ที่จะต้องจ่ายให้ราคาปกติการยืนขอวีซ่านั้น สามารถทำได้ทันที ที่เราได้รับเอกสารตอบรับจากสถาบันการเรียนที่เราสมัครไว้ เรียกว่า OFFER LETTER และที่สำคัญที่สุด เราจำเป็นจะต้องการเอกสารยืนยันการลงทะเบียนในแต่จะคอร์สเรียนนั้นๆด้วย เรียกว่า Confirmation of Enrollment หรือ COE นั้นเองเอกสารของนักเรียน (เอกสารทุกอย่างต้องแปลภาษาอังกฤษด้วย) เอกสารทั้งหมดขออย่างละ 2 ชุดหนังสือเดินทาง (ตัวจริง)รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (ถ่ายรูปหน้าใหญ่ๆ ประมาณ 80% ของรูป เหมือนรูปถ่ายใน passport)สำเนาบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้าน
สำเนาสูติบัตร (สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี)
สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข)
สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบหย่า (ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข)
ผลการเรียน (transcript) ภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงาน (ภาษาอังกฤษ) ตั้งแต่เรียนจบ มีกี่ที่ขอทุกที่ที่เคยทำงานมา หรือ ใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรอง ในกรณีที่ทำธุรกิจส่วนตัว กรณีที่ยังเรียนอยู่ ให้ขอจดหมายรับรองความเป็นนักเรียน นักศึกษา (ภาษาอังกฤษ)
slip เงินเดือนย้อนหลัง 5-6 ใบ
สำเนาใบเสร็จการเสียภาษีย้อนหลัง 5-6 ใบ
ประกาศนียบัตรที่เรียนภาษา ณ ประเทศออสเตรเลีย (ถ้ามี)
หากเคยขอวีซ่าออสเตรเลียมาก่อน ให้สำเนาหน้าวีซ่าของออสเตรเลียมาให้ด้วย (ทุกหน้าที่เคยได้วีซ่าออสเตรเลีย)
จดหมายแนะนำตัว และเหตุผลในการไปเรียนที่ออสเตรเลีย
(เนื้อหาที่เขียนให้บอกว่าตัวเราเป็นใคร เรียนจบอะไรมา เมื่อไร ปัจจุบันทำงานอะไร เหตุผลที่เลือกเรียนต่อที่ออสเตรเลีย ทำไมถึงเลือกเรียนหลักสูตรนี้ เรียนจบแล้วนำความรู้ที่ได้กลับมาทำอะไรต่อในอนาคต)
หมายเหตุ กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องแนบเอกสารของผู้ปกครอง (บิดาและมารดา) เอกสารทุกอย่างใช้ทั้งภาษาไทยและตัวแปลภาษาอังกฤษ ดังนี้
สำเนา passport (ถ่ายสำเนาสี) พร้อมลายเซ็นต์เหมือนที่เซ็นต์ใน passport กำกับด้านล่างมุมขวา โดยต้องเขียนข้อความตามนี้
Certified True Copy
ลายเซ็นต์สำเนาบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้านสำเนาทะเบียนสมรสหรือทะเบียนหย่าสำเนาใบเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล (ทุกฉบับที่เคยมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข)เอกสารของ SPONSOR (เอกสารทุกอย่างต้องแปลภาษาอังกฤษด้วย)เอกสารทั้งหมดขออย่างละ 2 ชุดสำเนาบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้าน
สำเนาทะเบียนสมรส หรือใบหย่า
สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ หรือใบเปลี่ยนนามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข)
จดหมายรับรองการทำงาน (ภาษาอังกฤษ) หรือใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรอง ในกรณีที่ทำธุรกิจส่วนตัว
slip เงินเดือนย้อนหลัง 5-6 ใบ
สำเนาใบเสร็จเสียภาษีย้อนหลัง 5-6 ใบ
หากเป็นชาวไร่ชาวสวน ให้ขอเอกสารที่บ่งบอกการเป็นเกษตรกรกำกับด้วย และหรือ ใบเสร็จการรับซื้อขายผลผลิต
ใช้สมุดธนาคารตัวจริง(บัญชีออมทรัพย์) ที่มียอดการเดินปัญชีย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งวงเงินที่ใช้โชว์ประมาณ 6 แสนขึ้นไป (สำหรับเรียนภาษา 6 เดือน) วงเงินประมาณ 1 ล้านบาทขึ้นไป (สำหรับหลักสูตร 2 ปีขึ้นไป)
10. จดหมายเหตุผลที่ให้การสนับสนุน การเงินให้ไปเรียน (เนื้อหาให้บอกว่า sponsor เป็นใคร มีความสัมพันธ์อะไร ยังไงกับผู้ยื่นเรื่องขอวีซ่า และปัจจุบัน sponsor ทำอะไร ที่ไหน ตั้งแต่เมื่อไร รายได้ต่อเดือนประมาณเท่าไร ทำไมถึงยินยอมมาเป็น sponsor ให้ (เหตุผล))
หมายเหตุ
กรณีที่ผู้สนับสนุน (SPONSOR) ไม่ใช่บิดามารดา จะต้องมีเอกสารโยงความสัมพันธ์เพิ่มเป็นทอดๆ ด้วยนะค่ะ ซึ่งเอกสารที่ใช้โยงความสัมพันธ์
สำเนาบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้านสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยนแก้ไขชื่อนามสกุล)สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบหย่า
เช่น น้องสาวแม่เป็น sponsor เอกสารที่โยงความสัมพันธ์ก็จะเป็นเอกสารของแม่
หมายเหตุ ค่าธรรมเนียมอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบได้ที่ VFS หรือแผนกวีซ่าของสถานทูตออสเตรเลีย
*** ไม่มีการคืนค่าธรรมเนียมวีซ่าของสถานทูต และ VFS ไม่ว่าจะได้รับการพิจารณาวีซ่าหรือไม่***
การยื่นใบสมัครขอวีซ่าผ่านทางสำนักงานเพื่อการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลียนั้นไม่มีผลใด ๆ ต่อการพิจารณาวีซ่า ข้อกำหนดในการขอวีซ่ายังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง สถานฑูตออสเตรเลียเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจอนุมัติวีซ่า โดยประเมินจากคุณสมบัติของ ผู้ยื่นขอวีซ่าตามข้อกฎหมายและนโยบายของประเทศออสเตรเลีย พนักงานของสำนักงานเพื่อการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลียไม่ใช่เจ้าพนักงานของรัฐบาลออสเตรเลีย และไม่มีอำนาจใด ๆ ในการให้คำปรึกษาหรืออนุมัติวีซ่า