Over one third of U.S. adolescents are overweight. A descriptive, cross-sectional study examined the relationship between student dietary self-efficacy (SE), sugar-sweetened beverages, and low-nutrient energy-dense food consumption, and exposure to a healthy school food environment without competitive foods. The sample consisted of 292 urban, primarily African American students aged 11 to 16 years. Mantel-Haenszel χ2 analyses revealed a significant but weak linear trend for girls between number of school meals and SE to drink less soda, χ2(1) = 6.882, p = .008, and between semesters attended with SE to eat more fruits and vegetables, χ2(1) = 5.908, p = .015. Obese students had significantly higher scores for two SE items than nonobese students, that is, plan better nutrition, χ2(1) = 3.998, p = .045, and eat healthy at a fast-food restaurant, χ2(1) = 4.078, p = .043. Further study of adolescent SE for healthy eating and school-based, food-focused obesity prevention interventions is needed
กว่าหนึ่งในสามของวัยรุ่นสหรัฐมีน้ำหนักเกิน บรรยายการศึกษาภาคตัดขวางตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนอาหารประสิทธิภาพของตนเอง (SE), เครื่องดื่มที่มีรสหวานน้ำตาลและสารอาหารต่ำการบริโภคอาหารพลังงานสูงและการสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพอาหารโรงเรียนโดยไม่มีการแข่งขันอาหาร กลุ่มตัวอย่างเป็น 292 เมืองแอฟริกันส่วนใหญ่นักเรียนชาวอเมริกันอายุ 11 ถึง 16 ปี การวิเคราะห์ Mantel-แฮนส์เซลχ2เปิดเผยแนวโน้มเชิงเส้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่อ่อนแอสำหรับสาวระหว่างจำนวนของอาหารโรงเรียนและ SE ที่จะดื่มโซดาน้อยχ2 (1) = 6.882, p = 0.008 และระหว่างภาคการศึกษาเข้าร่วมกับ SE ที่จะกินผักผลไม้ , χ2 (1) = 5.908, p = 0.015 นักเรียนเป็นโรคอ้วนมีคะแนนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสำหรับสอง SE รายการกว่านักเรียนอ้วนที่ถูกวางแผนโภชนาการที่ดีกว่า, χ2 (1) = 3.998, p = 0.045 และกินเพื่อสุขภาพที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้χ2 (1) = 4.078, p = 0.043 การศึกษาต่อของวัยรุ่น SE สำหรับการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและโรงเรียนตามอาหารที่มุ่งเน้นการแทรกแซงการป้องกันโรคอ้วนเป็นสิ่งจำเป็น
การแปล กรุณารอสักครู่..