GUNKANJIMA’S ROLE DURING THE MEIJI

GUNKANJIMA’S ROLE DURING THE MEIJI ERA

BEFORE THE MEIJI RESTORATION

Japan was famously isolated from the rest of the world from 1603 to 1867, closed to western technology under the Tokugawa Shogunate, and where the only contact with the outside world was a small colony of Dutch traders who operated from Dejima, a small island in Nagasaki. Great Britain, and other European superpowers, thrived during and after the Industrial Revolution, exporting their technology all over the world while Japan remained closed. In 1852, before Japan opened its doors to the world, Shimazu Nariakira, Prince of Satsuma (currently Kagoshima Prefecture), based in the southern tip of Kyushu, built Japan’s first industrial complex. Its shipbuilding was hidden from the Tokugawa government and developed without the support of foreign engineers in order to defend Satsuma from Western Superpowers. Japan’s first small step towards industrialization was made on the basis of just one book from Europe, a drive to industrialize by themselves, and on the basis of the Japanese sprit of craftsmanship for iron and pottery which had attained pre-eminence in the pre-industrial era.

MEIJI JAPAN

The Meiji Restoration accelerated industrialization in Japan, which led to its rise as a military power by the year 1905, under the slogan of “Enrich the country, strengthen the military” (富国強兵 fukoku kyōhei). The rapid industrialization and modernization of Japan both allowed and required a massive increase in production and infrastructure. Japan built industries such as shipyards, iron smelters, and spinning mills, which were then sold to well-connected entrepreneurs. Consequently, domestic companies became consumers of Western technology and applied it to produce items that would be sold cheaply in the international market. With this, industrial zones grew enormously, and there was massive migration to industrializing centers from the countryside. Industrialization additionally went hand in hand with the development of a national railway system and modern communications.
With industrialization came the demand for coal. There was dramatic rise in production, as shown in the table below.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทบาทของ GUNKANJIMA ในช่วงยุคเมจิก่อนคางญี่ปุ่นได้ซึ่งแยกต่างหากจากส่วนเหลือของโลกจากค.ศ. 1603 ถึงค.ศ. 1867 ปิดเทคโนโลยีตะวันตกภายใต้รัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ และที่ติดต่อเฉพาะกับโลกภายนอกถูกฝูงเทรดเดอร์ดัตช์ที่จากเดจิมะ ขนาดเล็กขนาดเล็กเกาะในนางาซากิ สหราชอาณาจักร และประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ ยุโรป ฟื้นตัวระหว่าง และ หลังการ ปฏิวัติอุตสาหกรรม การส่งออกเทคโนโลยีของโลกในขณะที่ญี่ปุ่นยังคงปิด ใน 1852 ก่อนญี่ปุ่นเปิดประตูสู่โลก ชิมะสึนะริอะกิระ เจ้าชายของ Satsuma (ปัจจุบันคาโงชิมะจังหวัด), ในตอนใต้ของคิวชู สร้างคอมเพล็กซ์อุตสาหกรรมแรกของญี่ปุ่น ต่อเรือถูกซ่อนจากรัฐบาลโทะกุงะวะ และพัฒนา โดยการสนับสนุนของวิศวกรต่างชาติเพื่อปกป้อง Satsuma จากประเทศมหาอำนาจตะวันตก ญี่ปุ่นเล็กก้าวแรกทวีความรุนแรงมากทำตามหนังสือเพียงหนึ่งจากยุโรป ขับรถไป industrialize เอง และ ตาม sprit ญี่ปุ่นของฝีมือเหล็กและเครื่องปั้นดินเผาที่มีเนินก่อนบรรลุในยุคก่อนอุตสาหกรรมเมจิญี่ปุ่นคางเร่งทวีความรุนแรงมากในประเทศญี่ปุ่น ที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นอำนาจทางทหาร โดยปี 1905 ภายใต้สโลแกน "บริการประเทศ เสริมสร้างกองทัพ" (富国強兵 fukoku kyōhei) ทวีความรุนแรงมากอย่างรวดเร็วและทันสมัยของญี่ปุ่นได้ ทั้งเพิ่มขนาดใหญ่ในการผลิตและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ญี่ปุ่นสร้างอุตสาหกรรม เช่น shipyards โรงถลุงเหล็ก โรง งานปั่น ซึ่งถูกแล้วขายให้กับผู้ประกอบการห้องพักเชื่อมต่อ ดังนั้น ในประเทศบริษัทกลายเป็น ผู้บริโภคเทคโนโลยีตะวันตก และใช้เพื่อผลิตสินค้าที่จะขายเทปในตลาดต่างประเทศ นี้ เขตอุตสาหกรรมเติบโตมหาศาล และมีการโยกย้ายใหญ่ไป industrializing ศูนย์จากชนบท ทวีความรุนแรงมากนอกจากนี้ไปมือในมือกับการพัฒนาระบบรถไฟแห่งชาติและการสื่อสารที่ทันสมัยกับทวีความรุนแรงมากมาความต้องการใช้ถ่านหิน มีเพิ่มขึ้นอย่างมากในการผลิต ดังที่แสดงในตารางด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทบาท GUNKANJIMA ในช่วงยุคเมจิก่อนที่จะฟื้นฟูเมจิญี่ปุ่นถูกแยกที่มีชื่อเสียงจากส่วนที่เหลือของโลก 1603-1867 ปิดเทคโนโลยีตะวันตกภายใต้งาวะและที่ติดต่อเฉพาะกับโลกภายนอกเป็นอาณานิคมของเล็ก ๆ ของพ่อค้าชาวดัตช์ ที่ทำจาก Dejima เป็นเกาะขนาดเล็กในนางาซากิ สหราชอาณาจักรและประเทศมหาอำนาจในยุโรปอื่น ๆ เติบโตในระหว่างและหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมการส่งออกเทคโนโลยีของพวกเขาทั่วโลกขณะที่ญี่ปุ่นยังคงปิด ในปี 1852 ก่อนที่ญี่ปุ่นเปิดประตูสู่โลกชิมะซุนะริอะกิระเจ้าชายแห่งซัทซุ (ปัจจุบันโงะชิมะ) ซึ่งตั้งอยู่ในตอนใต้ของคิวชูสร้างอุตสาหกรรมที่ซับซ้อนแรกของญี่ปุ่น การต่อเรือมันถูกซ่อนไว้จากรัฐบาลงาวะและการพัฒนาโดยการสนับสนุนของวิศวกรจากต่างประเทศเพื่อที่จะปกป้องซัทซุจากมหาอำนาจตะวันตก ขั้นตอนเล็ก ๆ แรกของญี่ปุ่นที่มีต่ออุตสาหกรรมที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของเพียงหนังสือเล่มหนึ่งจากยุโรป, ไดรฟ์เพื่อเป็นอุตสาหกรรมด้วยตัวเองและบนพื้นฐานของไวน์ญี่ปุ่นของงานฝีมือเหล็กและเครื่องปั้นดินเผาซึ่งได้บรรลุความเด่นในยุคก่อนอุตสาหกรรม ยุค. เมจิประเทศญี่ปุ่นเร่งฟื้นฟูเมจิอุตสาหกรรมในประเทศญี่ปุ่นซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการเป็นอำนาจทางทหารโดยในปี 1905 ภายใต้สโลแกนของ "เต็มอิ่มกับประเทศที่สร้างความเข้มแข็งทางทหาร" (富国強兵Fukoku Kyohei) อุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วและความทันสมัยของญี่ปุ่นทั้งสองได้รับอนุญาตและต้องมีการเพิ่มขึ้นมากในการผลิตและโครงสร้างพื้นฐาน ญี่ปุ่นสร้างอุตสาหกรรมเช่นอู่ต่อเรือโรงถลุงเหล็กและโรงงานปั่นซึ่งถูกขายให้กับผู้ประกอบการที่ดีที่เชื่อมต่อ ดังนั้น บริษัท ในประเทศกลายเป็นผู้บริโภคของเทคโนโลยีตะวันตกและนำมาใช้ในการผลิตสินค้าที่จะขายราคาถูกในตลาดต่างประเทศ ด้วยวิธีนี้เขตอุตสาหกรรมขยายตัวเป็นอย่างมากและมีการย้ายถิ่นขนาดใหญ่ไปยังศูนย์ industrializing จากชนบท อุตสาหกรรมยังไปจับมือกับการพัฒนาระบบรถไฟแห่งชาติและการสื่อสารที่ทันสมัย. ด้วยอุตสาหกรรมมาความต้องการใช้ถ่านหิน มีเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นในการผลิตดังแสดงในตารางด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

gunkanjima เป็นบทบาทในช่วงยุคเมจิ

ก่อนการปฏิรูปเมจิ

ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงที่แยกได้จากส่วนที่เหลือของโลกจาก 710 ใน 1867 , ปิดเทคโนโลยีตะวันตกภายใต้โทคุกาวะ ที่ติดต่อกับโลกภายนอก เป็นอาณานิคมของดัตช์ที่ผู้ค้าขนาดเล็กดำเนินการจากเดจิมะ เป็นเกาะเล็ก ๆใน ที่นางาซากิ อังกฤษและมหาอำนาจยุโรปอื่น ๆประสบความสำเร็จระหว่างและหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม การส่งออกเทคโนโลยีของพวกเขาทั่วโลก ในขณะที่ญี่ปุ่นยังคงปิด ในปี 1852 ก่อนที่ญี่ปุ่นที่เปิดประตูสู่โลก วัฏจักรฟอสฟอรัส เจ้าชายแห่งสัทสึมะ ( ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดคะโงะชิมะ ) ทางใต้ของคิวชู สร้างความซับซ้อนในอุตสาหกรรมแรกของญี่ปุ่นการต่อเรือที่ซ่อนอยู่จากรัฐบาลโตกุกาวะ และพัฒนา โดยการสนับสนุนของวิศวกรต่างชาติ เพื่อปกป้องสัทสึมะจากมหาอำนาจตะวันตก ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่ก้าวสู่อุตสาหกรรมขนาดเล็กถูกสร้างบนพื้นฐานของหนังสือเล่มหนึ่งจากยุโรป ไดรฟ์ที่จะกลายเป็นอุตสาหกรรมด้วยตนเองและบนพื้นฐานของเสากระโดงเรือขวางของญี่ปุ่นฝีมือสำหรับเหล็กและเครื่องปั้นดินเผาซึ่งมีความโดดเด่นในการบรรลุก่อนยุคอุตสาหกรรมก่อน



เมจิญี่ปุ่นยุคเมจิ เร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมในญี่ปุ่น ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นเป็นอำนาจทางทหาร โดยปี 1905 ภายใต้สโลแกนของ " ประเทืองประเทศ เสริมสร้าง ทหาร " ( 富国強兵 fukoku เคียวโฮ เฮ )อุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วและความทันสมัยของญี่ปุ่น ทั้งได้รับอนุญาตและต้องมีการเพิ่มขึ้นมากในการผลิตและโครงสร้างพื้นฐาน ญี่ปุ่นสร้างโรงงานอุตสาหกรรม เช่น อู่ต่อเรือ , smelters เหล็ก และโรงงานปั่น ซึ่งขายแล้ว เชื่อมต่อ คือผู้ประกอบการ จากนั้นบริษัทในประเทศเป็นผู้บริโภคเทคโนโลยีตะวันตกและใช้มันเพื่อผลิตสินค้าที่จะขายในราคาถูกในตลาดระหว่างประเทศ กับนี้ เขตอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างมหาศาล และมีขนาดใหญ่เพื่ออุตสาหกรรมศูนย์การย้ายถิ่นจากชนบท อุตสาหกรรมนอกจากนี้ไปมือในมือกับการพัฒนาระบบรถไฟแห่งชาติ
และการสื่อสารที่ทันสมัยกับการพัฒนาอุตสาหกรรมมาความต้องการถ่านหิน มีเพิ่มขึ้นอย่างมากในการผลิต ดังแสดงในตารางด้านล่าง