Origins The first published referen

Origins The first published references to the spinning cone column appear in 1936 in two papers by Pegram, Urey and Huffman [3, 4]. A year later Huffman and Urey [5] gave the first detailed description of a spinning cone column, and presented the results of trials on the separation of isotopes of oxygen in water; the object was to produce "sufficiently large quantities of the heavier isotopes of this element for future physical, chemical and biological researches." It had been shown a few years before this that heavy oxygen water (HO 18 2 ), is about 0.3% less volatile than normal water (HO 16 2 ). Efforts were made to exploit this difference in vapour pressure to separate the two materials by distillation. It was recognised, however, that existing designs of distillation column did not offer the performance required for such a demanding separation, hence the attention paid to alternative configurations. Pegram, Urey and Huffman observed a wide variation in mass transfer performance (stage efficiencies between 25 and 100%). Although their work did not extend to systematic investigation of such variations, it did represent the crucial first step in the development of the technology; the concept of the SCC (internal layout and principle of operation) was established and, most importantly, the device was demonstrated to function in the manner envisaged by its originators. The next major investigation of the SCC was reported in 1939 by Mair and Willingham [6], who were concerned with high-efficiency laboratory distillation columns. They looked at the effects on performance of different types of rotating element and internal geometry and, as a result, established that the basic (two-cone) configuration gave the best performance, at least with respect to mass transfer (stage efficiencies between 50 and 80%). An important implication of this aspect of their work was that the contact between gas and liquid droplets, maximised in the case where perforated baskets were used as rotating elements, did not appear to be the pre-eminent mode of mass transfer between the phases. The publication of research findings on the SCC lapsed after the early (pre-war) American work until 1963, when Ziolkowski et al. [7] reported studies on the operational characteristics of a spinning cone column used for the separation of a benzene-carbon tetrachloride mixture. The work of Ziolkowski et al. was similar to the pre-war American work in that all results were obtained (with the SCC running) under total reflux. It was the first study in which gas pressure drop data were presented and in which the influence of rotor speed, on

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดเริ่มต้นอ้างอิงเผยแพร่ครั้งแรกในคอลัมน์กรวยหมุนปรากฏในค.ศ. 1936 ในเอกสารสอง โดย Pegram, Urey Huffman [3, 4] ปีหลัง Huffman และ Urey [5] ให้แรกรายละเอียดคำอธิบายของคอลัมน์กรวยปั่น และนำเสนอผลการทดลองในการแยกไอโซโทปของออกซิเจนในน้ำ วัตถุมีการ ผลิต "ขนาดใหญ่เพียงพอปริมาณของไอโซโทปหนักขององค์ประกอบนี้ในงานวิจัยทางกายภาพ ทางเคมี และชีวภาพในอนาคต" จะมีการแสดงไม่กี่ปีก่อนนี้ว่าน้ำออกซิเจนหนัก (โฮจิมินห์ 18 2), ระเหยน้อยกว่าน้ำปกติ (โฮจิมินห์ 16 2) ประมาณ 0.3% ความพยายามได้ทำการกดขี่ขูดรีดนี้ความแตกต่างของความดันไอเพื่อแยกวัสดุสอง โดยการกลั่น มันถูกยัง อย่างไร ตามที่ออกแบบที่มีอยู่ของคอลัมน์กลั่นได้ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ต้องการเช่นการเรียกร้องแยก ดังนั้น ความสนใจชำระเงินค่าทดแทน Pegram, Urey และ Huffman สังเกตการเปลี่ยนแปลงทั้งประสิทธิภาพโดยรวมโอน (ขั้นประสิทธิภาพระหว่าง 25 และ 100%) แม้ว่างานของเขาได้ขยายเพื่อการตรวจสอบรูปแบบเช่นระบบ ไม่ได้แสดงถึงขั้นตอนแรกสำคัญในการพัฒนาของเทคโนโลยี แนวคิดของ SCC (เค้าโครงภายในและหลักการของการดำเนินงาน) ก่อตั้งขึ้น และ สำคัญ มีสาธิตอุปกรณ์ให้ทำงานในลักษณะ envisaged โดยเป็นผู้ริเริ่ม การสอบสวนหลักถัดไปของ SCC มีรายงานในปีพ.ศ. 2482 โดย Mair และ Willingham [6], ที่เกี่ยวข้องกับคอลัมน์กลั่นห้องปฏิบัติการมีประสิทธิภาพสูง พวกเขามองผลประสิทธิภาพที่แตกต่างของการหมุนและรูปทรงเรขาคณิตภายในองค์ประกอบ และ ดัง ก่อตั้งที่ตั้งค่าคอนฟิก (สองกรวย) พื้นฐานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด น้อยเกี่ยวกับการถ่ายโอนมวล (ขั้นประสิทธิภาพระหว่าง 50 และ 80%) ปริยายที่สำคัญของงานด้านนี้เป็นที่ติดต่อระหว่างก๊าซและของเหลวหยด maximised ในกรณีที่ใช้ตะกร้า perforated เป็นหมุนองค์ประกอบ ไม่ปรากฏเป็น โหมดการถ่ายโอนมวลระหว่างระยะก่อนอีก การเผยแพร่ใน SCC พบโธดอกหลังก่อน (ก่อนสงคราม) ทำงานที่อเมริกาจนถึง 1963, Ziolkowski et al. [7] รายงานเมื่อศึกษาลักษณะงานของคอลัมน์กรวยหมุนใช้สำหรับแยกของผสมระหว่างเบนซีนคาร์บอนเตตระคลอไรด์ การทำงานของ Ziolkowski et al. คล้ายกับก่อนสงครามที่อเมริกันทำงานที่ผลลัพธ์ทั้งหมดที่ได้รับ (กับ SCC ทำงาน) ภายใต้ป้องกันกรดไหลย้อนรวม มันเป็นการศึกษาแรกในก๊าซที่มีแสดงข้อมูลความดันหล่น และที่อิทธิพลของใบพัดความเร็ว สูง ใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ต้นกำเนิดอ้างอิงตีพิมพ์ครั้งแรกคอลัมน์กรวยปั่นปรากฏในปี 1936 ในสองเอกสารโดย Pegram, Urey และ Huffman [3, 4] หนึ่งปีต่อมา Huffman และ Urey [5] ให้คำอธิบายรายละเอียดแรกของคอลัมน์กรวยปั่นและนำเสนอผลของการทดลองเกี่ยวกับการแยกตัวของไอโซโทปของออกซิเจนในน้ำ; วัตถุคือการผลิต "ปริมาณที่มากพอของไอโซโทปของธาตุที่หนักกว่าสำหรับอนาคตทางกายภาพเคมีและชีวภาพงานวิจัยนี้". มันได้รับการแสดงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้น้ำออกซิเจนที่หนัก (HO 18 2) เป็นเรื่องเกี่ยวกับ 0.3% น้อยกว่าน้ำที่ระเหยได้ตามปกติ (HO 16 2) ความพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากความแตกต่างในความดันไอจะแยกสองวัสดุโดยการกลั่น มันได้รับการยอมรับ แต่ที่ออกแบบหอกลั่นไม่ได้เสนอผลการดำเนินงานที่มีอยู่ที่จำเป็นสำหรับการดังกล่าวเรียกร้องแยกจึงให้ความสนใจที่จ่ายให้กับการกำหนดค่าทางเลือก Pegram, Urey Huffman และสังเกตเห็นความหลากหลายในการปฏิบัติงานการถ่ายโอนมวล (ประสิทธิภาพขั้นตอนระหว่าง 25 และ 100%) แม้ว่างานของพวกเขาไม่ได้ขยายไปถึงการตรวจสอบระบบของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะไม่เป็นตัวแทนของขั้นตอนแรกที่สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี; แนวคิดของ SCC (รูปแบบภายในและหลักการของการดำเนินงาน) ก่อตั้งขึ้นและที่สำคัญที่สุดคืออุปกรณ์ที่ได้รับการแสดงให้เห็นถึงการทำงานในลักษณะที่มองเห็นโดยผู้สร้างของมัน การตรวจสอบที่สำคัญต่อไปของ SCC มีรายงานในปี 1939 โดยแมร์ลิ่งแฮมและ [6] ซึ่งเกี่ยวข้องกับการที่มีประสิทธิภาพสูงคอลัมน์กลั่นในห้องปฏิบัติการ พวกเขามองไปที่ผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานที่แตกต่างกันของการหมุนและเรขาคณิตองค์ประกอบภายในและเป็นผลให้เป็นที่ยอมรับว่าระดับล่าง (สองกรวย) การกำหนดค่าให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดอย่างน้อยที่เกี่ยวกับการถ่ายโอนมวล (ประสิทธิภาพขั้นตอนระหว่าง 50 และ 80%) ความหมายที่สำคัญของแง่มุมของการทำงานของพวกเขาคือการที่การติดต่อระหว่างก๊าซและหยดของเหลวนี้ขยายในกรณีที่กระเช้าพรุนถูกนำมาใช้เป็นองค์ประกอบหมุนไม่ได้ดูเหมือนจะเป็นโหมดก่อนประสบความสำเร็จของการถ่ายโอนมวลระหว่างขั้นตอน ตีพิมพ์ผลการวิจัยเกี่ยวกับ SCC หลังจากที่ผ่านพ้นไปในช่วงต้น (ก่อนสงคราม) ทำงานอเมริกันจนกระทั่งปี 1963 เมื่อ Ziolkowski et al, [7] รายงานการศึกษาเกี่ยวกับลักษณะการดำเนินงานของคอลัมน์กรวยหมุนที่ใช้สำหรับการแยกส่วนผสม tetrachloride เบนซินคาร์บอน การทำงานของ Ziolkowski et al, ก็คล้ายคลึงกับก่อนสงครามอเมริกันในการทำงานว่าผลที่ได้รับทั้งหมด (ที่มีการทำงาน SCC) ภายใต้การไหลย้อนกลับทั้งหมด มันเป็นครั้งแรกในการศึกษาซึ่งความดันก๊าซลดลงข้อมูลที่ถูกนำเสนอและในอิทธิพลของความเร็วใบพัดบน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ต้นกำเนิดแรกเผยแพร่การอ้างอิงถึงโคนปั่นคอลัมน์ปรากฏใน 2479 โดยเพแกรมสองเอกสาร , และเยอรี่ฮัฟฟ์แมน [ 3 , 4 ] ปีต่อมา Huffman และเยอรี่ [ 5 ] ให้รายละเอียดแรกของกรวยหมุนคอลัมน์ และนำเสนอผลการทดลองในการแยกไอโซโทปของออกซิเจนในน้ำวัตถุที่จะผลิต " ขนาดใหญ่เพียงพอปริมาณของไอโซโทปของธาตุที่หนักเพื่ออนาคต ทางกายภาพ เคมี และงานวิจัยทางชีววิทยา มันได้ถูกแสดงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ที่น้ำออกซิเจนหนัก ( โฮ 18 2 ) คือประมาณ 0.3% น้อยกว่าระเหยมากกว่าน้ำปกติ ( โฮ 16 2 )ความพยายามที่ทำเพื่อใช้ประโยชน์จากความแตกต่างในความดันที่จะแยกสองวัสดุโดยการกลั่น มันเป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม การออกแบบที่มีอยู่ของหอกลั่นไม่ได้เสนอประสิทธิภาพที่จำเป็นสำหรับการเรียกร้องดังกล่าว จึงให้ความสำคัญกับรูปแบบทางเลือก เพแกรม ,และสังเกตการเปลี่ยนแปลงทั้งเยอรี่ Huffman ในการปฏิบัติการถ่ายโอนมวล ( เวทีมีระหว่าง 25 และ 100 % ) ถึงแม้ว่าการทำงานไม่ขยายไปถึงการตรวจสอบระบบของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว มันเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี แนวคิดของ SCC ( รูปแบบภายในและหลักการของการดำเนินงาน ) ก่อตั้งขึ้น และที่สำคัญที่สุดอุปกรณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานในลักษณะของภาพโดยผู้สร้าง . การสืบสวนที่สำคัญต่อไปของ SCC มีรายงานในปี 1939 โดยแมร์ และ วิลลิ่งแฮม [ 6 ] ที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการที่มีการกลั่นคอลัมน์ พวกเขามองไปที่ผลการปฏิบัติงานของประเภทที่แตกต่างกันของการหมุนและองค์ประกอบภายในเรขาคณิต และ ผลสร้างพื้นฐาน ( สองกรวย ) การปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพดีที่สุด อย่างน้อยด้วยการถ่ายเทมวล ( เวทีประสิทธิภาพระหว่าง 50 และ 80 % ) ความนัยสำคัญของนี้กว้างยาวของงานอยู่ที่การติดต่อระหว่างก๊าซและของเหลวหยด maximised ในกรณีที่ตะกร้าโปร่งที่ใช้หมุนองค์ประกอบไม่ได้ปรากฏเป็นโหมดของการถ่ายโอนมวลก่อนใช้ระหว่างช่วง ตีพิมพ์ผลการวิจัยในต่างประเทศหมดอายุหลังแรก ( ก่อนสงครามอเมริกัน ทำงานจนกระทั่ง 1963 เมื่อ ziolkowski et al . [ 7 ] รายงานการศึกษาลักษณะการดำเนินงานของกรวยหมุนคอลัมน์ที่ใช้แยกเป็นเบนซิน คาร์บอนเตตระคลอไรด์ผสม งาน ziolkowski et al .ใกล้เคียงกับก่อนสงครามชาวอเมริกันทำงานในผลลัพธ์ทั้งหมดได้ ( กับ SCC วิ่ง ) ภายใต้ย้อนทั้งหมด มันเป็นครั้งแรกที่การศึกษา ซึ่งข้อมูลความดันก๊าซที่ถูกนำเสนอในที่อิทธิพลของความเร็วใบพัดบน