Our teachers' debt problem is getti

Our teachers' debt problem is getting so overwhelming it is feared it will affect the quality of education. The total amount of debt owed by teachers to the Government Savings Bank (GSB) and various cooperatives is estimated at 1.2 trillion baht.

The GSB alone has lent 470 billion baht to 470,000 teachers or, on average, one million baht to each teacher. But most teachers have also secured low-interest loans from other sources such as cooperatives, the teachers' welfare fund and funeral loan schemes. It is estimated that each teacher may be up to three million baht in debt.

The easy access to funding with few strings attached is believed to be the main reason for the debt problem for most of these teachers. This has led to them to spend beyond their means in comparison with other government officials who have limited access to easy borrowing.

It is not uncommon to find debt-stricken teachers continuing to buy various expensive consumer products on hire-purchase, which further aggravates their debt problems.

While many teachers need to borrow money to meet emergency needs that cannot be met with state welfare funds, living beyond one's means appears to be the biggest factor behind their debt problems.

In Thai society, "face" is very important to gain respect or recognition. Eventually, they have to miss repayments to their creditor banks or cooperatives.

Last week, Education Minister Dapong Rattanasuwan dismissed a rumour the government would help repay teachers' debts. The debts were created by the teachers so they have to fix it themselves, he said. He is correct. Still the ministry must take a serious look at the teachers' debt problem which, if it remains unsolved, might affect the quality of the country's education quality.

Thailand's education performance has been consistently poor compared with international standards. Rote learning has a lot to do with it.

Yet many believe teachers' overwhelming debt may play a role in their poor teaching quality and lack of motivation. Indeed, they argue, how can a teacher focus on teaching if he or she is constantly worried about how to repay his/her creditors?

The education minister has ordered an investigation to find out how many debt-ridden teachers are actually teaching.

Meanwhile, the GSB is set to file lawsuits against debt-ridden teachers who have failed to file for debt-refinancing packages. 

The Education Ministry is considering two financial options to save teachers from bankruptcy. One is to set up a revolving fund for them. The other is to let them use their own savings from the funeral-service schemes to pay off their debts.

Meanwhile, the GSB, as the teachers' biggest creditor, is seeking co-operation from teachers' savings co-operatives across the country to help indebted teachers pay off their instalments. 

Amid the debt crunch, the Teachers' Development Association has petitioned the Education Ministry to provide indebted teachers with low-interest debt-refinancing packages with repayment periods extended...

While low-interest debt refinancing is helpful, it should not be the main tool to deal with debts. Teachers or not, one must use savings instead of borrowing more money to settle debts. 

If education authorities believe indebtedness affects teaching quality, state assistance to ease teachers' debts should be reflected in a better academic performance among students. Without having to show accountability, teachers will not care about improving their performance. And without financial discipline, they will mostly likely slip into debt again.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัญหาหนี้สินครูของเราจะได้รับเพื่อครอบงำมันอยู่กลัวมันจะมีผลต่อคุณภาพการศึกษา จำนวนหนี้สินครูเป็นหนี้รัฐบาลธนาคารออมสิน (GSB) และสหกรณ์ต่าง ๆ คือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท GSB คนเดียวได้ยืมเงิน 470 ล้านบาทครู 470,000 หรือ เฉลี่ย หนึ่งล้านบาทให้ครูแต่ละ แต่ครูส่วนใหญ่มีเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำปลอดภัยจากแหล่งอื่นเช่นสหกรณ์ กองทุนสวัสดิการของครู และแผนการกู้ศพ มีประเมินว่า แต่ละอาจารย์อาจถึงสามล้านบาทเป็นหนี้ หมายถึงเงินทุนมีไม่กี่สายที่แนบเชื่อว่าเป็นสาเหตุหลักที่ปัญหาหนี้สำหรับส่วนมากของครูเหล่านี้ นี้ได้นำไปใช้นอกเหนือจากวิธีของพวกเขาเมื่อเปรียบเทียบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่น ๆ ที่มีข้อจำกัดถึงยืมง่ายมันไม่ใช่ต่อไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพงต่าง ๆ การเช่าซื้อ ซึ่งเพิ่มเติม aggravates ปัญหาหนี้ครูหนี้จงหา ในขณะที่ครูจำนวนมากจำเป็นต้องกู้เงินตามความต้องการฉุกเฉินที่ไม่สามารถพบกับกองทุนรัฐสวัสดิการ ชีวิตนอกเหนือจากวิธีการของปรากฏเป็น ปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดอยู่เบื้องหลังปัญหาหนี้ ในสังคมไทย "ใบหน้า" เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะได้รับความเคารพหรือการรับรู้ ในที่สุด พวกเขาจะต้องพลาดโอนชำระของลูกหนี้ธนาคารหรือสหกรณ์ สัปดาห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา Dapong Rattanasuwan ไล่ซุบซิบที่มุ่งร้ายรัฐบาลจะช่วยให้ชำระหนี้ของครู หนี้ที่สร้างขึ้น โดยครูเพื่อให้มีการแก้ไขตัวเอง เขากล่าวว่า เขาถูกต้อง ยัง กระทรวงต้องลองดูอย่างจริงจังที่ปัญหาหนี้สินของครูซึ่ง ถ้ายังคงยังไม่ได้แก้ไข อาจส่งผลต่อคุณภาพคุณภาพการศึกษาของประเทศ ประสิทธิภาพการศึกษาของไทยได้อย่างดีเปรียบเทียบกับมาตรฐานสากล เรียน rote ล็อตดังกล่าวได้ แต่หลายคนเชื่อว่า หนี้การกระทำของครูอาจมีบทบาทในการสอนดีมีคุณภาพและขาดแรงจูงใจ แน่นอน พวกเขาโต้แย้ง วิธีสามารถครูเน้นสอนถ้าเขาหรือเธอเป็นตลอดเวลาห่วงวิธีชำระเจ้าหนี้เขา/เธอหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาได้สั่งการให้สอบสวนหาจริงจะสอนครูนั่งหนี้จำนวน ในขณะเดียวกัน GSB ถูกตั้งค่าให้แฟ้มเป็นความกับครูนั่งหนี้ที่ไม่สามารถมีแฟ้มสำหรับแพคเกจรีไฟแนนซ์หนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณาจัดเงินบันทึกครูจากล้มละลาย หนึ่งคือการตั้งกองทุนหมุนเวียนสำหรับพวกเขา อื่น ๆ จะปล่อยให้พวกเขาใช้เองประหยัดจากร่างศพให้บริการการชำระ ในขณะเดียวกัน GSB เป็นเจ้าหนี้ที่ใหญ่ที่สุดของครู คือการแสวงหาความร่วมมือจากสหกรณ์ครูประหยัดทั่วประเทศเพื่อช่วยให้ครูเป็นหนี้ชำระเงินผ่อนของพวกเขา ท่ามกลางวิกฤติด้านหนี้ สมาคมพัฒนาสังคมมีอัคการบายานกระทรวงศึกษาให้ครูเป็นหนี้กับแพคเกจการรีไฟแนนซ์หนี้ดอกเบี้ยต่ำขยายรอบระยะเวลาการชำระค่า... ในขณะที่การรีไฟแนนซ์หนี้ดอกเบี้ยต่ำเป็นประโยชน์ ไม่ควรมีเครื่องมือหลักในการจัดการกับหนี้สิน ครู หรือไม่ หนึ่งต้องใช้ประหยัดแทนการกู้ยืมเงินเพื่อชำระหนี้ ถ้าหน่วยงานการศึกษาเชื่อว่า ข้าวแดงแกงร้อนส่งผลกระทบต่อคุณภาพการเรียนการสอน รัฐขอความช่วยเหลือบรรเทาหนี้สินครูควรมีผลในผลการศึกษาที่ดีขึ้นระหว่างนักเรียน โดยไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบ ครูจะไม่สนใจในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขา และไม่ มีวินัยทางการเงิน พวกเขาส่วนใหญ่มักบันทึกเป็นหนี้อีก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัญหาหนี้สินครูของเราจะได้รับอย่างล้นหลามดังนั้นมันจะกลัวว่ามันจะมีผลต่อคุณภาพของการศึกษา จำนวนเงินรวมของหนี้โดยครูธนาคารออมสิน (GSB) และสหกรณ์ต่างๆอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท. ธนาคารออมสินคนเดียวได้ยืม 470,000,000,000 บาทเป็น 470,000 ครูหรือโดยเฉลี่ยหนึ่งล้านบาทให้แก่ครูในแต่ละ แต่ครูส่วนใหญ่มีความปลอดภัยนอกจากนี้ยังมีเงินให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากแหล่งอื่น ๆ เช่นสหกรณ์กองทุนสวัสดิการของครูและแผนการกู้เงินงานศพ มันเป็นที่คาดว่าครูแต่ละคนอาจจะมีถึงสามล้านบาทในตราสารหนี้. ง่ายต่อการเข้าถึงเงินทุนกับสตริงที่แนบมาไม่กี่ที่เชื่อว่าเป็นเหตุผลหลักสำหรับปัญหาหนี้ส่วนใหญ่ของครูเหล่านี้ นี้ได้นำไปสู่พวกเขาที่จะใช้จ่ายนอกเหนือหมายของพวกเขาในการเปรียบเทียบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่น ๆ ที่มีการ จำกัด การเข้าถึงการกู้ยืมเงินง่าย. มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหาครูหนี้กลัวอย่างต่อเนื่องที่จะซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีราคาแพงต่างๆในเช่าซื้อซึ่งต่อไป aggravates ของพวกเขา ปัญหาหนี้. ในขณะที่ครูจำนวนมากต้องการที่จะกู้เงินเพื่อตอบสนองความต้องการฉุกเฉินที่ไม่สามารถพบกับกองทุนสวัสดิการของรัฐที่อาศัยอยู่นอกเหนือหมายของคนที่ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่เบื้องหลังปัญหาหนี้ของพวกเขา. ในสังคมไทย "ใบหน้า" เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะได้รับ เคารพหรือการรับรู้ ในที่สุดพวกเขาต้องพลาดการชำระหนี้กับธนาคารเจ้าหนี้ของพวกเขาหรือสหกรณ์. สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษา Dapong รัตนออกข่าวลือรัฐบาลจะช่วยชำระหนี้ครู หนี้ถูกสร้างขึ้นโดยครูผู้สอนเพื่อให้พวกเขามีการแก้ไขตัวเองเขากล่าวว่า เขาเป็นคนที่ถูกต้อง ยังคงเป็นพันธกิจที่จะต้องใช้เวลาดูอย่างที่ปัญหาหนี้สินของครูซึ่งถ้ายังไม่แก้มันก็ยังคงอาจจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของการศึกษาที่มีคุณภาพของประเทศ. ผลการดำเนินงานการศึกษาของไทยได้ดีอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล ท่องจำมีจำนวนมากจะทำอย่างไรกับมัน. แต่หลายคนเชื่อว่าหนี้ที่ครอบงำของครูอาจมีบทบาทสำคัญในด้านคุณภาพการเรียนการสอนของพวกเขาที่ยากจนและขาดแรงจูงใจ อันที่จริงพวกเขาโต้เถียงวิธีที่สามารถมุ่งเน้นที่ครูสอนถ้าเขาหรือเธออยู่ตลอดเวลากังวลเกี่ยวกับวิธีการชำระคืน / เจ้าหนี้ของตน? ศึกษารัฐมนตรีมีคำสั่งให้ตรวจสอบเพื่อหาวิธีการหลายครูหนี้เป็นจริงการเรียนการสอน. ในขณะเดียวกัน ธนาคารออมสินมีการตั้งค่าที่จะยื่นฟ้องคดีกับครูหนี้ที่ล้มเหลวในการยื่นสำหรับแพคเกจการรีไฟแนนซ์หนี้.  กระทรวงศึกษาธิการมีการพิจารณาสองตัวเลือกทางการเงินที่จะบันทึกครูจากการล้มละลาย หนึ่งคือการจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนสำหรับพวกเขา อื่น ๆ คือการปล่อยให้พวกเขาใช้เงินฝากออมทรัพย์ของตัวเองจากรูปแบบงานศพให้บริการเพื่อชำระหนี้ของพวกเขา. ในขณะที่ธนาคารออมสินเป็นครู 'เจ้าหนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการแสวงหาความร่วมมือจากครูเงินฝากออมทรัพย์สหกรณ์ทั่วประเทศเพื่อ ช่วยให้ครูเป็นหนี้ผ่อนจ่ายออกของพวกเขา.  ท่ามกลางวิกฤติหนี้ที่ครูสมาคมพัฒนาได้กระทรวงมหาดไทยกระทรวงศึกษาเพื่อให้ครูมีหนี้ดอกเบี้ยต่ำแพคเกจการรีไฟแนนซ์หนี้ระยะเวลาการชำระหนี้ด้วยการขยาย ... ในขณะที่ดอกเบี้ยต่ำการรีไฟแนนซ์หนี้ที่เป็นประโยชน์ มันไม่ควรจะเป็นเครื่องมือหลักในการจัดการกับหนี้ ครูหรือไม่ต้องใช้เงินฝากออมทรัพย์แทนการกู้ยืมเงินมากขึ้นในการชำระหนี้.  หากเจ้าหน้าที่เชื่อว่าการศึกษาเป็นหนี้มีผลต่อคุณภาพการเรียนการสอนช่วยเหลือของรัฐเพื่อความสะดวกในการชำระหนี้ของครูควรจะสะท้อนให้เห็นในผลการเรียนที่ดีขึ้นในหมู่นักเรียน โดยไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบครูจะไม่สนใจเกี่ยวกับการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขา และไม่มีวินัยทางการเงินที่พวกเขาส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะลื่นเป็นหนี้อีกครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปัญหาหนี้สินครูของเราจะได้รับยุ่งยาก ก็เกรงจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของการศึกษา ยอดรวมของหนี้ที่เป็นหนี้โดยครูกับธนาคารออมสิน และสหกรณ์ต่าง ๆมีประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท

ออมสินคนเดียวมีให้ยืม 470 ล้านบาท หรือโล เฉลี่ย หนึ่งล้านบาท ให้อาจารย์แต่ละท่านแต่ครูส่วนใหญ่มีความปลอดภัยต่ำ ดอกเบี้ยเงินกู้จากแหล่งอื่น เช่น สหกรณ์ครู และแผนเงินกู้กองทุนสวัสดิการงานศพ มันคือประมาณว่าครูแต่ละคน อาจจะได้ถึงสามล้านบาท หนี้

การเข้าถึงเงินทุนน้อยแนบสตริงถือเป็นเหตุผลหลักสำหรับปัญหาหนี้ส่วนใหญ่ของครูเหล่านี้นี้ได้นำพวกเขาที่จะใช้จ่ายนอกเหนือหมายของพวกเขาในการเปรียบเทียบกับข้าราชการอื่น ๆที่มี จำกัด การเข้าถึงการกู้ยืมเงินง่าย

มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหาหนี้กลัวครูอย่างต่อเนื่องเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ราคา ที่ รถเช่าซื้อ ซึ่งต่อไป aggravates ปัญหาหนี้ของพวกเขา

ในขณะที่ครูหลายคนต้องการที่จะยืมเงินเพื่อตอบสนองความต้องการฉุกเฉิน ที่ไม่สามารถเจอกับกองทุนสวัสดิการรัฐ ที่อยู่นอกเหนือหนึ่ง นั่นหมายถึง ปรากฏเป็นปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่เบื้องหลังปัญหาหนี้ของพวกเขา

ในสังคมไทย " หน้า " เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะได้รับการเคารพและการยอมรับ ในที่สุด พวกเขาต้องพลาดชำระหนี้ให้ธนาคารเจ้าหนี้ของตนหรือสหกรณ์

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ dapong รัตนสุวรรณออกข่าวลือรัฐบาลจะช่วยให้ครูเป็นหนี้ หนี้สิน โดย ครูจึงต้องแก้ไขตัวเอง เขากล่าวว่า เขาถูกต้อง ยังกระทรวงต้องใช้เวลาดูอย่างที่ปัญหาหนี้ครู ซึ่งถ้ามันยังคงเป็นปริศนา อาจมีผลต่อคุณภาพคุณภาพการศึกษาของประเทศ

การปฏิบัติการศึกษาของไทยได้ไม่ดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล การท่องจำอย่างเดียวมีมากจะทำอย่างไรกับมัน

แต่หลายคนเชื่อว่าครูท่วมท้นหนี้อาจมีบทบาทในคุณภาพของการสอนที่ยากจนและขาดแรงจูงใจ แน่นอน พวกเขาเถียงกัน แล้วโฟกัสที่อาจารย์สอน หากเขาหรือเธอจะกังวลเกี่ยวกับวิธีการชําระหนี้ของเขา / เธอ