Equation (1) describes the VPC fram

Equation (1) describes the VPC framework, which divides superior performance into consumer surplus (V
– P) and supplier surplus (P – C). For a firm i, Qi is the total volume of the product sold; pi is the selling price; ci is the average cost; vij and cij denote the marginal value and the marginal cost of the jth quantity consumed,
respectively; for quantity qij = qik, vik = pi. Thus, the marginal value vik that the marginal consumer k obtains from the
last consumption unit qik equals the market price pi, i.e., vik = pi. While the individual consumer’s willingness to pay
for each unit of the product (vij) is not accessible, and the (Vi − Ci ) is difficult to measure, the aggregated
differences between the market price and the cost of the quantity sold ( ( ) pi − ci × Qi ) can measure the minimum
value of (Vi − Ci ) and can be used to indicate the competitive advantage of firm i. There are two reasons for this
minimal value estimation approach: (1) the marginal consumer’s perception of the last unit consumed equals the
market price, and all above-margin consumers perceive higher value than the price; and (2) neither the consumers’
perceived value nor the price represents the net value the firm can enjoy; rather, this is the profit p – c.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สมการ (1) อธิบายกรอบ VPC ซึ่งแบ่งประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเป็นส่วนเกินของผู้บริโภค (v
- พี) และผู้ผลิตส่วนเกิน (P - ค) บริษัท i ฉีเป็นปริมาณรวมของสินค้าที่ขาย; ปี่เป็นราคาขาย, CI เป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ย Vij และ CIJ แสดงค่าขอบและค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มของปริมาณ jth บริโภค
ตามลำดับสำหรับปริมาณ qij = Qik, Vik = pi จึงVik ค่าเล็กน้อยว่าผู้บริโภค k ขอบได้รับจากการบริโภค
ล่าสุดหน่วย Qik เท่ากับปี่ราคาตลาดคือ Vik = pi ในขณะที่ความตั้งใจของผู้บริโภคของแต่ละบุคคลที่จะจ่ายเงิน
หน่วยของผลิตภัณฑ์ (Vij) แต่ละคนจะไม่สามารถเข้าถึงได้และ (vi - CI) เป็นเรื่องยากที่จะวัดรวม
ความแตกต่างระหว่างราคาในตลาดและค่าใช้จ่ายของปริมาณขาย (() ปี่ - CI ×ฉี)​​ สามารถวัดขั้นต่ำ
ค่าของ (vi - CI) และสามารถใช้ในการบ่งชี้ถึงการเปรียบในการแข่งขันของ บริษัท ผม มีสองเหตุผลนี้น้อยที่สุด
วิธีการประเมินมูลค่า: (1) การรับรู้ของผู้บริโภคที่ร่อแร่ของหน่วยสุดท้ายที่บริโภคเท่ากับ
ราคาตลาดและผู้บริโภคที่สูงกว่าอัตราการรับรู้ค่าสูงกว่าราคา; และ (2) ผู้บริโภคไม่ '
รับรู้ค่าหรือราคาเป็นมูลค่าสุทธิของ บริษัท สามารถเพลิดเพลินกับ. แต่นี้เป็นพีกำไร - c

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมการ (1) อธิบายถึงกรอบงาน VPC ซึ่งแบ่งประสิทธิภาพในส่วนเกินผู้บริโภค (V
– P) และส่วนเกินผู้ผลิต (P – C) บริษัท ฉีเป็นปริมาณรวมของสินค้าที่ขาย ปี่คือ ราคาขาย ci เป็นต้นทุนเฉลี่ย vij และ cij แสดงค่ากำไรและต้นทุนกำไรของใช้ ปริมาณ jth
ตามลำดับ สำหรับปริมาณ qij = qik, vik =พี่กัน ดังนั้น vik กำไรค่าที่ k กำไรผู้บริโภคได้รับจากการ
qik หน่วยปริมาณสุดท้ายเท่ากับราคาตลาดปี เช่น vik =พี่กัน ขณะที่ความตั้งใจของผู้บริโภคแต่ละรายต้องชำระ
สำหรับแต่ละหน่วยของผลิตภัณฑ์ (vij) ไม่สามารถเข้าถึง และ (Vi − Ci) เป็นเรื่องยากในการวัด การรวม
ความแตกต่างระหว่างราคาตลาดและต้นทุนของปริมาณขาย (() ปี่−× ci ชี่) สามารถวัดต่ำสุด
ค่า (Vi − Ci) และสามารถใช้เพื่อบ่งชี้ศักยภาพของบริษัทผมได้ มีสองสาเหตุนี้
วิธีการประเมินค่าที่น้อยที่สุด: (1) การรับรู้ของผู้บริโภคที่กำไรหน่วยสุดท้ายเท่ากับใช้
ราคาตลาด และผู้บริโภคเหนือขอบทั้งหมดสังเกตค่ามากกว่าราคา และ (2) ผู้ใดบริโภคของ
มูลค่าการรับรู้หรือราคามูลค่าสุทธิที่บริษัทเพลิน แทน ค่อนข้าง เป็น p กำไร – c

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมการ( 1 )จะอธิบายถึงกรอบ vpc ซึ่งแบ่ง ประสิทธิภาพ ที่เหนือกว่าในการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ผู้บริโภค ( v
- P )และดุลการค้าเกินดุลผู้จัดให้บริการ( P - C ) สำหรับบริษัทผมยิ่งยวดเป็นจำนวนของ ผลิตภัณฑ์ ที่จำหน่าย Pi Kitchen Bar คือราคาจำหน่ายที่มีตราสัญญลักษณ์ต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย vij และแสดงว่า cij มูลค่าเศษและประหยัดค่าใช้จ่ายโดยชายขอบของปริมาณ jth ที่ใช้
ตามลำดับสำหรับจำนวน qij = qik VIK Hotel Bandama Golf = Pi Kitchen and Bar ดังนั้นVIK Hotel Bandama Golf มูลค่าเศษที่กม.เศษ ผู้บริโภค ได้รับจาก qik ชุดการ บริโภค
สุดท้ายจะเท่ากับ PI ราคาตลาดเช่น VIK Hotel Bandama Golf = Pi Kitchen and Bar ในขณะที่ของแต่ละอุปกรณ์ที่เต็มใจจ่าย
สำหรับแต่ละเครื่องของ ผลิตภัณฑ์ ( vij )ไม่สามารถเข้าถึงได้และ( vi - CI )ที่เป็นการยากที่จะวัดที่รวบรวม
ความแตกต่างระหว่างราคาตลาดและราคาของปริมาณที่จำหน่าย(() PI - CI × QI )สามารถวัดต่ำสุด
ซึ่งจะช่วยมอบความคุ้มค่าของ( vi - CI )และสามารถใช้เพื่อระบุถึงประโยชน์จากการแข่งขันของบริษัทผม มีสองเหตุผลสำหรับวิธี
น้อยที่สุดมูลค่าประมาณนี้( 1 )การรับรู้ของเศษ ผู้บริโภค ของชุดสุดท้ายที่ใช้เท่ากับราคาตลาดที่
และทั้งหมดขึ้นไปส่วนต่างกำไร ผู้บริโภค เข้าใจว่าสูงกว่ามูลค่ากว่าราคา;และ( 2 )ไม่ได้ ผู้บริโภค '
รับรู้ความคุ้มค่าไม่ว่าจะเป็นราคาสุทธิมูลค่าที่บริษัทสามารถเพลิดเพลินใจไปกับ;มาก,เป็นกำไร P - c .