Basically, the poem discusses the o

Basically, the poem discusses the old tradition of marrying girls off young. A 'maid' is usually considered a 'teenager,' in modern terms. As soon as the maid in the poem was no longer a child, she was married off. In those times, that meant she became her husband's property--some people think that indicates that women where very oppressed. That's the reason for the line 'buried before she was born.' In other words, the maid had just finished her child years and had the rest of her life before her, but she was instantly 'chained-down' by her marriage, never having had the chance to blossom.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้น กลอนกล่าวถึงประเพณีเก่าของแต่งหญิงออกยัง 'แม่บ้าน' เป็นปกติถือว่า 'วัยรุ่น ในสมัย เป็นแม่บ้านในกลอนนั้นไม่เด็ก เธอได้แต่งงานออก ในเวลา ที่หมายถึง เธอเป็นสามีคุณสมบัติ - บางคนคิดว่า ที่หมายถึงผู้หญิงที่อ่อนแอมากขึ้น นั่นคือเหตุผลสำหรับบรรทัด 'ฝังก่อนเธอเกิด' ในคำอื่น ๆ แม่บ้านเพิ่งเสร็จปีลูกของเธอ และมีส่วนเหลือของชีวิตของเธอก่อนเธอ แต่เธอทันที 'chained ลง' โดยการแต่งงานของเธอ ไม่เคยไม่มีโอกาสที่จะออกดอก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยทั่วไปบทกวีที่กล่าวถึงประเพณีเก่าของการแต่งงานกับหญิงสาวออก 'แม่บ้าน' มักจะถือเป็น 'วัยรุ่น' ในแง่ที่ทันสมัย ทันทีที่หญิงสาวในบทกวีก็ไม่ได้เป็นเด็กเธอได้แต่งงานออก ในช่วงเวลาเหล่านั้นหมายความว่าเธอกลายเป็นสมบัติของสามีของเธอ - บางคนคิดว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่ถูกกดขี่มาก นั่นเป็นเหตุผลสำหรับสาย 'ฝังอยู่ก่อนที่เธอจะเกิด.' ในคำอื่น ๆ แม่บ้านเพิ่งเสร็จสิ้นปีลูกของเธอและมีส่วนที่เหลือของชีวิตของเธอก่อนที่เธอ แต่เธอทันที 'ถูกล่ามโซ่ลงโดยการแต่งงานของเธอไม่เคยมีโอกาสที่จะเบ่งบาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยบทกวีกล่าวถึงประเพณีเก่าแต่งงานกับหญิงจากหนุ่ม ' แม่บ้าน ' มักจะเป็น ' วัยรุ่น ' ในแง่ที่ทันสมัย ทันทีที่สาวใช้ในบทกวีคือไม่เด็กเธอแต่งงาน ในช่วงเวลานั้น นั่นหมายถึง เธอกลายมาเป็นสามีของเธอ คุณสมบัติ -- บางคนคิดว่า บ่งชี้ว่า ผู้หญิงที่ถูกกดขี่มาก .นั่นคือเหตุผลที่บรรทัด ' ฝังก่อนที่เธอเกิด ในคำอื่น ๆแม่บ้านเพิ่งปี ลูกของเธอเสร็จแล้วและส่วนที่เหลือของชีวิตของเธอก่อนที่เธอ แต่เธอก็ได้ทันที ' พัง ' โดยการแต่งงานของเธอ ไม่เคยมีโอกาสที่จะเบ่งบาน