Phoenix (/ˈfiːnɪks/) is the capital

Phoenix (/ˈfiːnɪks/) is the capital, and largest city, of the U.S. state of Arizona. With 1,563,025 people (as of 2015), Phoenix is the sixth most populous city nationwide, the most populous state capital in the United States, and the only state capital with a population of more than 1 million residents.[4][5]

Phoenix is the anchor of the Phoenix metropolitan area, also known as the Valley of the Sun, which in turn is a part of the Salt River Valley. The metropolitan area is the 12th largest by population in the United States, with approximately 4.3 million people as of 2010.[6][7] In addition, Phoenix is the county seat of Maricopa County and is one of the largest cities in the United States by land area.[8]

Settled in 1867 as an agricultural community near the confluence of the Salt and Gila Rivers, Phoenix incorporated as a city in 1881. Located in the northeastern reaches of the Sonoran Desert, Phoenix has a subtropical desert climate. Despite this, its canal system led to a thriving farming community, many of the original crops remaining important parts of the Phoenix economy for decades, such as alfalfa, cotton, citrus, and hay (which was important for the cattle industry).[9][10] In fact, the "Five C's" (Cotton, Cattle, Citrus, Climate, and Copper), remained the driving forces of Phoenix's economy until after World War II, when high-tech industries began to move into the valley and air conditioning made residences much more comfortable in the very hot summers.[11]

The city averaged a 4 percent annual population growth rate over a 40-year period from the mid-1960s to the mid-2000s.[12] This growth rate slowed during the Great Recession of 2007–09, and has rebounded slowly.[13] Phoenix is the cultural center of the Valley of the Sun, as well as the entire state.[14]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟีนิกซ์ (ˈfiːnɪks /) เป็นทุน และที่ใหญ่ที่สุดเมือง รัฐแอริโซนาของสหรัฐอเมริกา คน 1,563,025 (เดือน), ฟีนิกซ์เป็นหกล็ตฟอร์ทั่วประเทศ เมืองหลวงของรัฐมากที่สุดในไทย และเพียงรัฐเมืองหลวง มีประชากรมากกว่า 1 ล้านคน [4] [5]ฟีนิกซ์ถูกยึดของฟีนิกซ์ปริมณฑล เรียกว่าหุบเขาของดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหุบเขาแม่น้ำเกลือ ปริมณฑลมี 12 ที่ใหญ่ที่สุด โดยประชากรในสหรัฐอเมริกา มีประมาณ 4.3 ล้านคน 2010 [6] [7] นอกจากนี้ Phoenix ซึ่งเป็นเขตของมารีโคปาเทศมณฑล และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาโดยมีพื้นที่ [8]ตัดสินในปี 1867 เป็นชุมชนเกษตรใกล้จุดบรรจบของเกลือและแม่น้ำก่า ฟินิกซ์รวมเป็นเมืองใน 1881 ตั้งอยู่ถึงตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลทรายโซนอรัน ฟีนิกซ์มีอากาศแบบทะเลทรายเขตร้อน แม้นี้ ระบบคลองที่นำไปสู่ชุมชนเกษตรรุ่งเรือง จำนวนมากของเดิมพืชเหลือส่วนที่สำคัญของเศรษฐกิจฟีนิกซ์มานานหลายทศวรรษ เช่นฟา ผ้าฝ้าย ส้ม และเฮย์ (ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมปศุสัตว์) [9] [10] ในความเป็นจริง "ห้า C ของ" (ฝ้าย วัว ส้ม ภูมิอากาศ และทองแดง), ยังคง แรงผลักดันของฟีนิกซ์เศรษฐกิจจนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ เมื่ออุตสาหกรรมไฮเทคเริ่มย้ายเข้าไปในหุบเขาและเรสทำเครื่องปรับอากาศที่สะดวกสบายมากขึ้นในฤดูร้อนมาก [11]เมืองเฉลี่ยร้อยละ 4 ต่อปีประชากรอัตราการเติบโตในช่วง 40 ปีจากอัลเลนไปกลางปี 2000s [12] นอกจากนี้อัตราการเติบโตชะลอตัวในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ดีของ 2007 – 09 และมีการดีดตัวขึ้นอย่างช้า ๆ [13] Phoenix เป็นศูนย์วัฒนธรรมของหุบเขาดวงอาทิตย์ เป็นรัฐทั้ง [14]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟินิกซ์ (/ fiːnɪks /) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริการัฐแอริโซนา ด้วย 1,563,025 คน ( ณ 2015), ฟินิกซ์เป็นหกเมืองที่มีประชากรมากที่สุดทั่วประเทศเมืองหลวงของรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและเมืองหลวงของรัฐเท่านั้นที่มีประชากรมากกว่า 1 ล้านคนอาศัยอยู่. [4] [5] ฟีนิกซ์ เป็นที่ยึดเหนี่ยวของเขตฟีนิกซ์ยังเป็นที่รู้จักในหุบเขาของดวงอาทิตย์ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของเกลือหุบเขาแม่น้ำ พื้นที่นครบาลเป็นครั้งที่ 12 ที่ใหญ่ที่สุดโดยประชากรในสหรัฐอเมริกามีประมาณ 4,300,000 คนเป็นของปี 2010 [6] [7] นอกจากนี้ฟินิกซ์เป็นเขตที่นั่งของมณฑลมาริโคและเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สหรัฐอเมริกาโดยพื้นที่. [8] ชำระในปี 1867 ในฐานะที่เป็นชุมชนเกษตรใกล้จุดบรรจบของเกลือและก่าแม่น้ำฟีนิกซ์จัดตั้งขึ้นเป็นเมืองในปี 1881 ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้นน้ำของทะเลทราย, ฟินิกซ์มีอากาศค่อนข้างร้อนทะเลทราย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ระบบคลองของมันนำไปสู่ชุมชนเกษตรกรรมที่เจริญรุ่งเรืองมากของพืชเดิมที่เหลืออีกส่วนที่สำคัญของเศรษฐกิจฟีนิกซ์มานานหลายทศวรรษเช่นหญ้าชนิต, ผ้าฝ้าย, ส้มและฟาง (ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมวัว). [9 ] [10] ในความเป็นจริง "ห้าซี" (Cotton วัวส้มสภาพภูมิอากาศและทองแดง) ยังคงเป็นแรงผลักดันของเศรษฐกิจของฟีนิกซ์จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่สองเมื่ออุตสาหกรรมไฮเทคเริ่มที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในหุบเขาและ เครื่องปรับอากาศทำที่อยู่อาศัยที่สะดวกสบายมากขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่ร้อนมาก. [11] เมืองเฉลี่ยร้อยละ 4 อัตราการเติบโตของประชากรประจำปีในช่วงระยะเวลา 40 ปีนับจากกลางทศวรรษ 1960 ไปถึงช่วงกลางทศวรรษที่ 2000. [12] อัตราการเจริญเติบโตนี้ชะลอตัว ในช่วงภาวะถดถอยครั้งใหญ่ของ 2007-09 และได้ดีดตัวขึ้นอย่างช้าๆ. [13] ฟีนิกซ์เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของหุบเขาของดวงอาทิตย์เช่นเดียวกับรัฐทั้งหมด. [14]