Abstract[Purpose] The aim of this s

Abstract
[Purpose] The aim of this study was to investigate three muscle activities of drivers with post-stoke hemiplegia while they were driving using a steering wheel or a spinner knob, and to compare them with those of non-disabled drivers. [Subjects and Methods] The subjects were four non-disabled drivers and five drivers with left hemiplegia. The subjects drove forward in a straight line for 5 m and then turned right or left using the steering wheel or spinner knob with only their right hand. EMG electrodes were placed over the anterior deltoid, biceps and triceps brachii on the right-side. [Results] While differences in muscle activation between the spinner knob and the steering wheel in the control group were not significant, those of the experimental group were significant. Activation of the biceps brachii while the control group turned the vehicle to the right using the spinner knob was significantly lower than when using the steering wheel. Activation of the biceps brachii while the experimental group turned the vehicle to the right using the spinner knob was significantly lower than that of the control group. [Conclusion] The results of this study indicate that a spinner knob requires less activation of the main muscle than a steering wheel, especially in drivers who have had a stroke. The results could be used as basic data when driver rehabilitation specialists prescribe the spinner knob for patients.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ[วัตถุประสงค์] จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการ ตรวจสอบสามกิจกรรมกล้ามเนื้อกับสโต๊ค hemiplegia ให้หลังขณะที่พวกเขาได้ขับรถโดยใช้พวงมาลัยหรือกิ๊ปตัวสปินเนอร์ และ เพื่อเปรียบเทียบกับโปรแกรมควบคุมไม่ถูกปิดใช้งาน [หัวเรื่องและวิธี] หัวข้อสี่ไม่ถูกปิดใช้งานโปรแกรมควบคุมและโปรแกรมควบคุมที่ห้ากับ hemiplegia ซ้าย เรื่องขับรถไปข้างหน้าในแนวเส้นตรงสำหรับ 5 เมตรแล้วหันขวา หรือซ้ายใช้พวงมาลัยหรือกิ๊ปสปินเนอร์เฉพาะมือขวาของพวกเขา ดำรงหุงตถูกวางเหนือ brachii ที่ deltoid, biceps และ triceps แอนทีเรียร์ทางด้านขวา [ผลลัพธ์] ในขณะที่ความแตกต่างในการเปิดใช้งานของกล้ามเนื้อระหว่างกิ๊ปสปินเนอร์และพวงมาลัยในกลุ่มควบคุมไม่สำคัญ คนกลุ่มทดลองได้อย่างมีนัยสำคัญ เปิดใช้งาน brachii biceps ในขณะที่กลุ่มควบคุมเปิดรถต้องใช้กิ๊ปสปินเนอร์ต่ำกว่าเมื่อใช้พวงมาลัย เรียกใช้ brachii biceps ในขณะที่กลุ่มทดลองเปิดรถต้องใช้กิ๊ปสปินเนอร์ถูกมากต่ำกว่ากลุ่มควบคุม [สรุป] ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่า กิ๊ปสปินเนอร์ต้องการเปิดใช้งานน้อยของกล้ามเนื้อหลักกว่าพวงมาลัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนมีสมอง ผลสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานเมื่อโปรแกรมควบคุมฟื้นฟูผู้เชี่ยวชาญกำหนดปุ่มสปินเนอร์สำหรับผู้ป่วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
[วัตถุประสงค์] จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการตรวจสอบสามกิจกรรมกล้ามเนื้อของคนขับกับอัมพาตครึ่งซีกหลังจี้ขณะที่พวกเขาขับรถโดยใช้พวงมาลัยหรือลูกบิดปั่นและเปรียบเทียบพวกเขากับบรรดาคนขับรถไม่พิการ [วิชาและวิธีการ] ตัวอย่างเป็นสี่คนขับรถไม่พิการและห้าคนขับกับอัมพาตครึ่งซีกซ้าย วิชาขับรถไปข้างหน้าเป็นเส้นตรงเป็นเวลา 5 เมตรและจากนั้นก็หันซ้ายหรือขวาโดยใช้พวงมาลัยหรือลูกบิดปินเนอร์ที่มีเพียงมือข้างขวาของพวกเขา ขั้วไฟฟ้า EMG ถูกวางไว้ในช่วงก่อนเดลทอยด์, ลูกหนูและ Triceps brachii อยู่ทางด้านขวา [ผล] ในขณะที่ความแตกต่างในการกระตุ้นกล้ามเนื้อระหว่างลูกบิดปั่นและพวงมาลัยในกลุ่มควบคุมไม่ได้อย่างมีนัยสำคัญที่ของกลุ่มทดลองอย่างมีนัยสำคัญ เปิดใช้งานของลูกหนู brachii ในขณะที่กลุ่มควบคุมรถหันไปทางขวาโดยใช้ลูกบิดปั่นอย่างมีนัยสำคัญต่ำกว่าเมื่อใช้พวงมาลัย การเปิดใช้งานของลูกหนู brachii ขณะที่กลุ่มทดลองรถหันไปทางขวาโดยใช้ลูกบิดปั่นอย่างมีนัยสำคัญต่ำกว่ากลุ่มควบคุม [สรุป] ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าลูกบิดปั่นต้องยืนยันการใช้งานน้อยกว่าของกล้ามเนื้อหลักกว่าพวงมาลัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนขับรถที่มีโรคหลอดเลือดสมอง ผลการสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานเมื่อคนขับผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพกำหนดปุ่มปินเนอร์สำหรับผู้ป่วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
[ มี ] จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษากิจกรรมของไดรเวอร์ที่มีการโพสต์สามกล้ามเนื้อสโต๊คครึ่งซีกในขณะที่พวกเขาขับรถโดยใช้พวงมาลัยหรือหมุนลูกบิด และเปรียบเทียบกับผู้ไม่พิการไดรเวอร์ [ วิธีการ ] วิชาและจำนวนสี่และห้าไดรเวอร์ไดรเวอร์ไม่พิการ อัมพาตครึ่งซีกซ้ายวิชาขับรถไปข้างหน้าเป็นเส้นตรงสำหรับ 5   M แล้วหันซ้าย หรือ ขวา การใช้พวงมาลัย หรือปั่นกับลูกบิดเท่านั้นของมือขวา EMG electrodes ถูกวางไว้เหนือเสียงแตกส่วนหน้า , Triceps และลูกหนูอมีค่าทางด้านขวา [ ผล ] ในขณะที่ความแตกต่างในการเปิดใช้งานกล้ามเนื้อระหว่างหมุนลูกบิดและพวงมาลัยในกลุ่มควบคุมไม่สําคัญของกลุ่มทดลองอย่างมีนัยสำคัญ การกระตุ้นของคลื่นใต้น้ำ ในขณะที่กลุ่มควบคุม ทำให้รถทางขวาใช้สปินเนอร์ลูกบิดลดลงเมื่อใช้พวงมาลัย การกระตุ้นของคลื่นใต้น้ำ ในขณะที่กลุ่มทดลองเปิดรถเพื่อสิทธิการใช้สปินเนอร์ลูกบิดลดลงมากกว่ากลุ่มควบคุม[ สรุป ] ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า หมุนลูกบิดต้องน้อยกว่าการเปิดใช้งานของกล้ามเนื้อหลักกว่าพวงมาลัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในไดรเวอร์ที่มีจังหวะ ผลการวิจัยสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน เมื่อคนขับรถผู้เชี่ยวชาญฟื้นฟูบัญญัติลูกบิดปินเนอร์สำหรับผู้ป่วย