The architecture of Ancient Greece

The architecture of Ancient Greece is the architecture produced by the Greek-speaking people (Hellenic people) whose culture flourished on the Greek mainland and Peloponnesus, the Aegean Islands, and in colonies in Asia Minor and Italy for a period from about 900 BC until the 1st century AD, with the earliest remaining architectural works dating from around 600 BC.[1]

Ancient Greek architecture is best known from its temples, many of which are found throughout the region, mostly as ruins but many substantially intact. The second important type of building that survives all over the Hellenic world is the open-air theatre, with the earliest dating from around 350 BC. Other architectural forms that are still in evidence are the processional gateway (propylon), the public square (agora) surrounded by storied colonnade (stoa), the town council building (bouleuterion), the public monument, the monumental tomb (mausoleum) and the stadium.

Ancient Greek architecture is distinguished by its highly formalised characteristics, both of structure and decoration. This is particularly so in the case of temples where each building appears to have been conceived as a sculptural entity within the landscape, most often raised on high ground so that the elegance of its proportions and the effects of light on its surfaces might be viewed from all angles.[2] Nikolaus Pevsner refers to "the plastic shape of the [Greek] temple.....placed before us with a physical presence more intense, more alive than that of any later building".[3]

The formal vocabulary of Ancient Greek architecture, in particular the division of architectural style into three defined orders: the Doric Order, the Ionic Order and the Corinthian Order, was to have profound effect on Western architecture of later periods. The architecture of Ancient Rome grew out of that of Greece and maintained its influence in Italy unbroken until the present day. From the Renaissance, revivals of Classicism have kept alive not only the precise forms and ordered details of Greek architecture, but also its concept of architectural beauty based on balance and proportion. The successive styles of Neoclassical architecture and Greek Revival architecture followed and adapted Ancient Greek styles closely.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สถาปัตยกรรมของกรีซโบราณเป็นสถาปัตยกรรมที่ผลิตคนพูดภาษากรีก (Hellenic คน) วัฒนธรรมเจริญรุ่งเรืองบนแผ่นดินกรีกและ Peloponnesus เกาะห้อง และในอาณานิคมในเอเชียวิชารองและอิตาลีสำหรับรอบระยะเวลาจากประมาณ 900 BC จนถึง 1 ศตวรรษโฆษณา มีเร็วที่สุดที่เหลือสถาปัตยกรรมงานเดทจากประมาณ 600 BC[1]สถาปัตยกรรมกรีกโบราณเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดจากการวัด จำนวนมากที่พบทั่วภูมิภาค ส่วนใหญ่เป็นซากปรักหักพังแต่หลายมากเหมือนเดิม อาคารที่ survives โลก Hellenic สำคัญชนิดที่สองเป็นโรงละครแบบเปิดโล่ง กับนัดแรกสุดจากประมาณ 350 BC รูปแบบสถาปัตยกรรมอื่น ๆ ที่ยังอยู่ในหลักฐาน processional ประตู (propylon), จัตุรัสสาธารณะ (ท่า) ล้อมรอบ ด้วยชั้นโคโลเนด (stoa), เมืองสภาอาคาร (bouleuterion), อนุสาวรีย์สาธารณะ สุสานอนุสาวรีย์ (สุสาน) และสนามกีฬาได้สถาปัตยกรรมกรีกโบราณจะโดดเด่น ด้วยลักษณะความสูง formalised ทั้งโครงสร้างและตกแต่ง นี้เป็นอย่างยิ่งดังนั้นในกรณีที่แต่ละอาคารปรากฏให้มีการรู้สึกเป็นเอนทิตีรูปภายในภูมิทัศน์ มักยกบนพื้นดินสูงดังนั้นที่วัด ของสัดและผลกระทบของแสงบนพื้นผิวของอาจดูได้จากทุกมุม[2] นิโคลัสหมายถึง "วัด [ภาษากรีก]...รูปพลาสติกวางไว้ก่อนเรา มีสถานะทางกายภาพรุนแรงมากขึ้น มีชีวิตมากขึ้นกว่าอาคารใด ๆ ในภายหลัง"[3]คำศัพท์อย่างเป็นทางการของสถาปัตยกรรมกรีกโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนของสถาปัตยกรรมเป็นใบสั่งที่กำหนดสาม: สั่งดอริค เสาใน และ เสา ถูกจะ มีผลอย่างยิ่งในสถาปัตยกรรมตะวันตกรอบในภายหลัง สถาปัตยกรรมของโรมันเกิดขึ้นจากการที่กรีซ และรักษาอิทธิพลในอิตาลีไม่เสียหายจนถึงปัจจุบัน จากเรอเนสซองส์ revivals คคลาได้เก็บชีวิตไม่เพียงแต่แบบแม่นยำ และสั่งรายละเอียดของสถาปัตยกรรมกรีกโบราณ แต่ยังเป็นแนวคิดของสถาปัตยกรรมความงามขึ้นอยู่กับความสมดุลและสัดส่วน แบบต่อเนื่องของสถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิกและสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกรีก กรีกโบราณไปมาแล้ว และดัดแปลงรูปแบบใกล้ชิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สถาปัตยกรรมของกรีกโบราณเป็นสถาปัตยกรรมที่ผลิตโดยคนที่พูดภาษากรีก (คนกรีก) ที่มีวัฒนธรรมเจริญรุ่งเรืองบนแผ่นดินกรีกและ Peloponnesus, อีเจียนเกาะและในอาณานิคมในเอเชียไมเนอร์และอิตาลีเป็นระยะเวลาประมาณ 900 ปีก่อนคริสตกาลจนถึง ศตวรรษที่ 1 ที่มีผลงานทางสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังเหลืออยู่สืบมาจากประมาณ 600 BC. [1] สถาปัตยกรรมกรีกโบราณเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดจากวัดของตนจำนวนมากที่จะพบทั่วทั้งภูมิภาคส่วนใหญ่เป็นสถานที่ปรักหักพัง แต่หลายคนคงเหมือนเดิมอย่างมีนัยสำคัญ ประเภทที่สองที่สำคัญของอาคารที่มีชีวิตทั่วโลกกรีกเป็นโรงละครที่เปิดโล่งพร้อมด้วยเดทแรกจากประมาณ 350 ปีก่อนคริสตกาล รูปแบบสถาปัตยกรรมอื่น ๆ ที่ยังคงอยู่ในหลักฐานที่เป็นประตูขบวน (Propylon) จัตุรัสสาธารณะ (Agora) ล้อมรอบด้วยต้นไม้ชั้น (Stoa), อาคารสภาเมือง (bouleuterion), อนุสาวรีย์สาธารณะอนุสาวรีย์หลุมฝังศพ (สุสาน) และ สนามกีฬาสถาปัตยกรรมกรีกโบราณที่มีความโดดเด่นด้วยลักษณะทั้งโครงสร้างและการตกแต่งที่เป็นทางการอย่างมาก นี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของวัดที่แต่ละอาคารที่ดูเหมือนจะได้รับการคิดเป็นนิติบุคคลประติมากรรมภายในภูมิทัศน์ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นบนพื้นที่สูงเพื่อให้ความสง่างามของสัดส่วนและผลกระทบของแสงบนพื้นผิวของมันอาจจะดูได้จาก ทุกมุม. [2] นิโคลัส Pevsner หมายถึง "รูปร่างพลาสติก [กรีก] วัด ..... วางไว้ก่อนเรามีสถานะทางกายภาพรุนแรงมากขึ้นมีชีวิตอยู่มากขึ้นกว่าที่ของอาคารใด ๆ ในภายหลัง". [3] อย่างเป็นทางการ คำศัพท์ของสถาปัตยกรรมกรีกโบราณโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นสามคำสั่งกำหนด: Doric สั่งอิออนการสั่งซื้อและการสั่งซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยก็จะมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสถาปัตยกรรมตะวันตกของระยะเวลาต่อมา สถาปัตยกรรมของกรุงโรมโบราณงอกออกมาจากที่แห่งกรีซและยังคงมีอิทธิพลในอิตาลีติดต่อกันจนถึงปัจจุบัน จากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการฟื้นฟูของคลาสได้ยังมีชีวิตอยู่ไม่เพียง แต่รูปแบบที่มีความแม่นยำและมีคำสั่งให้รายละเอียดของสถาปัตยกรรมกรีก แต่ยังแนวความคิดของความงามของสถาปัตยกรรมที่อยู่บนพื้นฐานของความสมดุลและสัดส่วน รูปแบบต่อเนื่องของสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิและสถาปัตยกรรมกรีกยุคตามและปรับรูปแบบกรีกโบราณอย่างใกล้ชิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สถาปัตยกรรมโบราณของกรีกและเป็นสถาปัตยกรรมที่ผลิตโดยชาวกรีกคนที่พูด ( กรีก ) ซึ่งมีวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองบนแผ่นดินใหญ่กรีกและเพโลพอนนีซัส , เกาะในทะเลอีเจียนและอาณานิคมในเอเซียไมเนอร์และอิตาลีสำหรับช่วงพ.ศ. 900 จนถึงศตวรรษที่ 1 AD กับงานสถาปัตยกรรมเก่าที่เหลือจากประมาณ 600 ปีก่อนคริสตกาล เดท [ 1 ]

สถาปัตยกรรมโบราณของกรีกเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดจากวัดหลายแห่งซึ่งจะพบได้ทั่วทั้งภูมิภาค ส่วนใหญ่เป็นโบราณสถาน แต่หลายคนมากเหมือนเดิม ประเภทที่สองของอาคารที่สำคัญจากทั่วโลกของกรีกเป็นโรงละครกลางแจ้ง กับเร็วกับก่อนคริสต์ศักราชประมาณ 350 รูปแบบทางสถาปัตยกรรมอื่น ๆ ที่ยังมีหลักฐานเป็นเกตเวย์วัชรากร ( propylon )จัตุรัสสาธารณะ ( เวที ) ล้อมรอบราวระเบียง ( stoa ) , อาคารสภาเทศบาลเมือง ( bouleuterion ) , อนุสาวรีย์สาธารณะ , สุสานอนุสาวรีย์ ( สุสาน ) และสนามกีฬา

สถาปัตยกรรมโบราณของกรีกมีความโดดเด่นของมันสูง formalised คุณลักษณะ ทั้งโครงสร้างและการตกแต่งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งดังนั้นในกรณีของแต่ละตึกที่ดูเหมือนจะถูก conceived เป็นประติมากรรมนิติบุคคลภายในภูมิทัศน์วัด มักขึ้นบนพื้นสูงเพื่อความสง่างามของสัดส่วนและผลกระทบของแสงบนพื้นผิวของมันอาจจะดูได้จากทุกมุม [ 2 ] บีเออี ซีแฮร์ริเออร์หมายถึง " รูปร่างพลาสติก ของวิหารกรีก [ . . . ]วางไว้ก่อนเราด้วยกายภาพรุนแรงมากขึ้น , มากขึ้นกว่าชีวิตที่หลังตึก " . [ 3 ]

ศัพท์ที่เป็นทางการของสถาปัตยกรรมโบราณของกรีก โดยเฉพาะในส่วนของลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นสามกำหนดคำสั่ง : คำสั่ง Doric , สั่งซื้อไอออนและคำสั่ง Corinthian , จะมีผลลึกซึ้งในสถาปัตยกรรม ตะวันตกในช่วงเวลาต่อมาสถาปัตยกรรมของกรุงโรมโบราณเพิ่มขึ้นจากที่กรีซ และยังคงมีอิทธิพลในอิตาลีติดต่อกันจนถึงปัจจุบัน จาก Renaissance สถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิคของรีสอร์ทยังมีชีวิตอยู่ไม่เพียง แต่รูปแบบและสั่งให้ชัดเจน รายละเอียดของสถาปัตยกรรมของกรีก แต่แนวคิดของความงามทางสถาปัตยกรรมบนพื้นฐานของความสมดุลและสัดส่วนต่อเนื่อง รูปแบบของสถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์ และดัดแปลงตามรูปแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกรีกและภาษากรีกโบราณอย่างใกล้ชิด