China and Taiwan – Cross-strait Rel

China and Taiwan – Cross-strait Relations in Flux While China has become the world’s second largest economy, one of its unfinished tasks is reunification; Taiwan. After the KMT was defeated in 1949, China proposed “one country, two systems” to bring in Taiwan in a unified China but no avail. Cross-strait talks as issue, economic relations seem to have progressed well notably by the signing of ECFA. Notably, no country has official ties with Taiwan because of this policy. China would also not allow Taiwan to sit in international body. Obviously, tensions in the Strait would affect not only both sides, but also the whole Asia-Pacific region. Taiwan is the major bones of Sino-American relations by US blocking Chinese attempts to use force or threats against Taiwan because of it feels like an “ally” and a symbol of democracy in Asia. While the US has declared that it would not support Taiwan’s independence, the two sides must be settled by peaceful means. In a way, the US could be using Taiwan to restrain China’s rapid expansion of power.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จีนและไต้หวัน – ความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบในจีนในขณะที่ของไหลกลายเป็น เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก การทำงานยังไม่เสร็จคือพัก ไต้หวัน หลังจาก KMT ได้พ่ายแพ้ใน 1949 จีนเสนอ "ประเทศหนึ่ง สองระบบ" เพื่อนำมาในไต้หวันในจีนรวมแต่ไม่มีประโยชน์ พูดถึงข้ามช่องแคบที่เป็นปัญหา ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจดูเหมือนจะ มีหน้าไปเพียงใดยวดดี โดยการรับรองของซาอูลเคห์ ยวด ประเทศไม่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไต้หวันเนื่องจากนโยบายนี้ จีนจะยังไม่อนุญาตให้ไต้หวันอยู่ในร่างกายระหว่างประเทศ อย่างชัดเจน ความตึงเครียดในช่องแคบจะมีผลไม่เพียงทั้งด้าน แต่ยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด ไต้หวันเป็นกระดูกหลักของความสัมพันธ์จีน-อเมริกันโดยสหรัฐบล็อกจีนพยายามใช้แรง หรือภัยคุกคามต่อไต้หวันจะรู้สึกเหมือน "พันธมิตร" และเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยในเอเชีย ในขณะที่สหรัฐอเมริกาได้ประกาศว่า จะไม่สนับสนุนเอกราชของไต้หวัน ต้องชำระทั้งสองฝั่งโดยสงบ วิธี สหรัฐฯ อาจใช้ไต้หวันยั้งของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็วของพลังงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จีนและไต้หวัน - ข้ามช่องแคบสัมพันธ์ในฟลักซ์ในขณะที่จีนได้กลายเป็นเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่เป็นหนึ่งในงานที่ยังไม่เสร็จของมันคือการรวม; ไต้หวัน. หลังจากที่เอ็มทีก็พ่ายแพ้ในปี 1949 ประเทศจีนที่นำเสนอ "หนึ่งประเทศสองระบบ" เพื่อนำมาในไต้หวันในจีนแบบครบวงจร แต่ไม่มีประโยชน์ การเจรจาข้ามช่องแคบเป็นปัญหาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจดูเหมือนจะก้าวหน้าดีสะดุดตาด้วยการลงนามใน ECFA โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่ไม่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการมีกับไต้หวันเพราะนโยบายนี้ จีนจะยังไม่อนุญาตให้ไต้หวันจะนั่งอยู่ในองค์กรระหว่างประเทศ เห็นได้ชัดว่าความตึงเครียดในช่องแคบจะส่งผลกระทบไม่เพียง แต่ทั้งสองฝ่าย แต่ยังทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ไต้หวันเป็นกระดูกที่สำคัญของความสัมพันธ์ที่ Sino-American โดยสหรัฐปิดกั้นความพยายามของจีนที่จะใช้กำลังหรือภัยคุกคามต่อไต้หวันเพราะมันรู้สึกเหมือน "พันธมิตร" และเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยในเอเชีย ในขณะที่สหรัฐได้ประกาศว่าจะไม่สนับสนุนเอกราชของไต้หวันของทั้งสองฝ่ายจะต้องมีการตัดสินโดยสันติวิธี ในทางที่เราอาจจะใช้ไต้หวันที่จะยับยั้งการขยายตัวอย่างรวดเร็วของจีนของการใช้พลังงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จีนและไต้หวันและความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบในไหลในขณะที่จีนกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก หนึ่งในงานที่ยังไม่เสร็จของการรวม ; ไต้หวัน หลังจากที่ กมธ. จึงพ่ายแพ้ในปี 1949 ประเทศจีนได้เสนอ " หนึ่งประเทศ สองระบบ " เพื่อนำมาในไต้หวันในหนึ่งเดียวของจีน แต่ไม่เจอ ข้ามช่องแคบที่พูดถึงปัญหาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ดูเหมือนจะก้าวหน้าได้ดี โดยเฉพาะ โดยการลงนาม ECFA . โดยเฉพาะ ไม่มีประเทศมีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไต้หวัน เพราะนโยบายนี้ จีนยังไม่อนุญาตให้ไต้หวันนั่งในร่างกายระหว่างประเทศ เห็นได้ชัดว่า ความตึงเครียดในช่องแคบจะส่งผลกระทบไม่เพียง แต่ทั้งสองข้าง แต่ยังทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคไต้หวันเป็นกระดูกหลักของความสัมพันธ์ Sino American โดยเราพยายามขัดขวางที่จีนใช้กำลังหรือคุกคามต่อไต้หวันเพราะมันรู้สึกเหมือนเป็น " พันธมิตร " และ สัญลักษณ์แห่งประชาธิปไตยในเอเชีย ในขณะที่สหรัฐได้ประกาศว่า จะไม่สนับสนุนเอกราชของไต้หวัน ทั้งสองฝ่ายต้องถูกตัดสินด้วยสันติวิธี ในทางเราอาจจะใช้ไต้หวันยับยั้งของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็วของพลังงาน