After his education at Wahlstatt (n

After his education at Wahlstatt (now Legnickie Pole) and Berlin cadet schools, he was commissioned a lieutenant in 1866. He fought in the Austro-Prussian War (1866) and the Franco-Prussian War (1870–1871). Hindenburg was selected for prestigious duties: serving the widow of King Frederick William IV of Prussia, being present – as one of a group of young officers decorated for bravery in battle, who had been chosen to represent their regiments – in the Palace of Versailles when the German Empire was proclaimed on 18 January 1871, and as Honour Guard prior to the Military funeral of Emperor William I in 1888. He was promoted to captain in 1878, major in 1881, lieutenant-colonel in 1891, colonel in 1893, major-general (brigadier general) in 1897 and lieutenant general (major-general) in 1900. Hindenburg remained in the army, eventually commanding a corps and being promoted to General of the Infantry (equivalent to a British or US lieutenant-general; the German equivalent to four-star rank was Colonel-General) in 1903. Meanwhile, he married Gertrud von Sperling (1860–1921), also an aristocrat, by whom he had two daughters, Irmengard Pauline (1880) and Annemaria (1891) and one son, Oskar (1883).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากศึกษาที่ Wahlstatt (ตอนนี้ Legnickie Pole) และเบอร์ลินยศโรงเรียน เขาถูกมอบหมายอำนาจหน้าที่โทใน 1866 เขาสู้ในสงครามออสเตรีย-Prussian (1866) และสงคราม-ปรัสเซีย (ค.ศ. 1870 – 1871) เลือก Hindenburg ในหน้าที่อันทรงเกียรติ: แม่ม่ายของกษัตริย์เฟรเดอริก William IV ปรัสเซีย แสดง – เป็นหนึ่งในกลุ่มของเจ้าหน้าที่สาวที่ตกแต่งสำหรับความกล้าหาญในการต่อสู้ การให้บริการที่ได้เลือกถึง regiments ของพวกเขา – ในวังแวร์ซายส์เมื่อจักรวรรดิเยอรมันประกาศ 18 1871 มกราคม และ เป็นการ รักษาเกียรติก่อนศพทหารของจักรพรรดิ William ฉันใน 1888 เขาได้เลื่อนขั้นเป็นกัปตันในค.ศ. 1878 หลักใน 1881 พ.ต.ท.ใน 1891 พันใน 1893 หลักทั่วไป (ทั่วไป brigadier) ใน 1897 และพลโท (วิชาทั่วไป) ใน 1900 Hindenburg ยังคงอยู่ในกองทัพ ในที่สุดซึ่งเป็นหน่วยและการส่งเสริมการทั่วไปของทหารราบ (เทียบเท่ากับที่อังกฤษหรือเราพลโท เยอรมันที่เทียบเท่ากับระดับตำแหน่งพันทั่วไป) ใน 1903 ในขณะเดียวกัน เขาแต่งงาน Gertrud ฟอน Sperling (1860 – 1921), ยังอภิชน โดยที่เขาสองลูกสาว สาว Irmengard (1880) และ Annemaria (1891) หนึ่ง สน Oskar (1883) และ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากที่ศึกษาของเขาที่ Wahlstatt (ตอนนี้ Legnickie Pole) และโรงเรียนนายร้อยเบอร์ลินเขาได้รับหน้าที่ผู้แทนใน 1866 เขาต่อสู้ในออสเตรียปรัสเซียนสงคราม (1866) และฝรั่งเศสปรัสเซียนสงคราม (1870-1871) เบอร์กได้รับเลือกให้ทำหน้าที่อันทรงเกียรติ: ให้บริการภรรยาม่ายของกษัตริย์วิลเลียมที่สี่ของปรัสเซียเป็นปัจจุบัน - เป็นหนึ่งในกลุ่มของนายทหารหนุ่มได้รับการตกแต่งสำหรับความกล้าหาญในการต่อสู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนทหารของพวกเขา - ในพระราชวังแวร์ซายเมื่อ จักรวรรดิเยอรมันได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 18 มกราคม 1871 และเป็นเกียรติยามก่อนที่จะมีพิธีฝังศพทหารของจักรพรรดิวิลเลี่ยมผมในปี 1888 เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นกัปตันทีมในปี 1878, ที่สำคัญในปี 1881 เอกใน 1891 พันเอกในปี 1893, major- ทั่วไป (นายพลจัตวา) ในปี 1897 และพลโท (เมเจอร์ทั่วไป) ในปี 1900 เบอร์กยังคงอยู่ในกองทัพในที่สุดผู้บังคับบัญชากองกำลังและการส่งเสริมให้ทั่วไปของทหารราบ (เทียบเท่ากับอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกานายพลนั้นเทียบเท่าเยอรมัน ถึงสี่ดาวยศเป็นพันเอกทั่วไป) ในปี 1903 ในขณะที่เขาแต่งงานกับเกอร์ทรูดฟอน Sperling (1860-1921) ยังเป็นผู้ดีโดยที่เขามีลูกสาวสองคน Irmengard พอลลีน (1880) และ Annemaria (1891) และลูกชายหนึ่ง ออสการ์ (1883)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากจบการศึกษาของเขาที่ wahlstatt ( ตอนนี้ legnickie เสา ) และโรงเรียนเบอร์ลินทหารเขาได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนใน 1866 . เขาได้ต่อสู้ในสงคราม austro ปรัสเซีย ( 1866 ) และฝรั่งเศสปรัสเซียสงคราม ( 1870 – 1871 ) ฮินเดนบวร์กได้รับหน้าที่อันทรงเกียรติ รับใช้ภรรยาม่ายของกษัตริย์เฟรดเดอริควิลเลียมแห่งปรัสเซีย IV ,เป็นปัจจุบัน และเป็นหนึ่งในกลุ่มของหนุ่มเจ้าหน้าที่ตกแต่งสำหรับความกล้าหาญในการต่อสู้ ที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของทหารของพวกเขา–ในพระราชวังแวร์ซายส์เมื่อจักรวรรดิเยอรมันประกาศวันที่ 18 มกราคม 2414 และเป็นเกียรติยามก่อนงานศพทหารของจักรพรรดิวิลเลี่ยมผมใน 1888 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันใน 1878 , หลักใน 1881 พันโท 1891พันเอกในปี 1893 นายพล ( นายพล ) ในปี ค.ศ. 1897 และพลโท ( พลตรี ) ในปี ค.ศ. 1900 บังเกิดอยู่ในกองทัพ ในที่สุด ผู้บังคับบัญชาทหารและเป็นการทั่วไปของทหารราบ ( เทียบเท่ากับอังกฤษหรือสหรัฐพลโท ; เทียบเท่าเยอรมัน อันดับสี่คือ พันเอกทั่วไป ) ใน 1903 . ในขณะเดียวกัน เขาแต่งงานกับ เกอร์ทรูด ฟอน สเปอร์ลิ่ง ( ค.ศ. 1860 ) )ยังเป็นผู้ดี โดยคนที่เขามีบุตรสาวสองคน irmengard พอลลีน ( 1880 ) และ annemaria ( 1891 ) และลูกชาย ออสก้า ( 1883 )