The Facebook–Cambridge Analytica da

The Facebook–Cambridge Analytica data scandal was a major political scandal in early 2018 when it was revealed that Cambridge Analytica had harvested the personal data of millions of peoples' Facebook profiles without their consent and used it for political advertising purposes. It has been described as a watershed moment in the public understanding of personal data and precipitated a massive fall in Facebook's stock price and calls for tighter regulation of tech companies' use of personal data.The illicit harvesting of personal data by Cambridge Analytica was first reported in December 2015 by Harry Davies, a journalist for The Guardian. He reported that Cambridge Analytica was working for United States Senator Ted Cruz using data harvested from millions of people's Facebook accounts without their consent.[1] Facebook refused to comment on the story other than to say it was investigating. Further reports followed in the Swiss publication Das Magazin by Hannes Grasseger and Mikael Krogerus (December 2016), (later translated and published by Vice), Carole Cadwalladr in The Guardian (starting in February 2017) and Mattathias Schwartz in The Intercept (March 2017). Facebook refused to comment on the claims in any of the articles.The scandal finally erupted in March 2018 with the emergence of a whistle-blower, an ex-Cambridge Analytica employee Christopher Wylie. He had been an anonymous source for an article in 2017 in The Observer by Cadwalladr, headlined "The Great British Brexit Robbery". This article went viral but was disbelieved in some quarters, prompting skeptical responses in The New York Times among others. Cadwalladr worked with Wylie for a year to coax him to come forward as a whistleblower. She later brought in Channel 4 News in the UK and The New York Times due to legal threats against The Guardian and The Observer by Cambridge Analytica.The three news organisations published simultaneously on March 17, 2018, and caused a huge public outcry. More than $100 billion was knocked off Facebook's market capitalization in days and politicians in the US and UK demanded answers from Facebook CEO Mark Zuckerberg. The scandal eventually led to him agreeing to testify in front of the United States Congress.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

The Facebook-เคมบริดจ์ Analytica อื้อฉาวข้อมูลที่เป็นเรื่องอื้อฉาวทางการเมืองที่สำคัญในช่วงต้นปี 2018 เมื่อมันถูกเปิดเผยว่าเคมบริดจ์ Analytica ได้เก็บเกี่ยวข้อมูลส่วนบุคคลของล้านคนโปรไฟล์ Facebook โดยปราศจากความยินยอมของพวกเขาและใช้มันเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาทางการเมือง มันได้รับการอธิบายว่าเป็นสันปันน้ำในความเข้าใจของสาธารณชนข้อมูลส่วนบุคคลและตกตะกอนตกขนาดใหญ่ในราคาหุ้นของ Facebook และเรียกร้องให้มีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นในการใช้ บริษัท ที่มีเทคโนโลยีของข้อมูลส่วนบุคคล

เก็บเกี่ยวที่ผิดกฎหมายของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเคมบริดจ์ Analytica มีรายงานครั้งแรกในธันวาคม 2015 โดยแฮร์รี่เดวีส์นักข่าวเดอะการ์เดีย เขารายงานว่าเคมบริดจ์ Analytica กำลังทำงานให้กับวุฒิสมาชิกสหรัฐเท็ดครูซโดยใช้ข้อมูลจากการเก็บเกี่ยวนับล้านคนบัญชีของ Facebook โดยปราศจากความยินยอมของพวกเขา. [1] Facebook ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องอื่น ๆ มากกว่าที่จะบอกว่ามันได้รับการตรวจสอบ รายงานเพิ่มเติมตามในสิ่งพิมพ์สวิสดา Magazin โดย Hannes Grasseger และมิคาเอล Krogerus (ธันวาคม 2016) (ต่อมาแปลและเผยแพร่โดยรอง), คาโรลแคดวาลาดร์เดอะการ์เดีย (เริ่มต้นในกุมภาพันธ์ 2017) และแมตทาธียสชวาร์ตซ์ในการสกัดกั้น (มีนาคม 2017) . Facebook ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในการเรียกร้องใด ๆ ของบทความ

เรื่องอื้อฉาวในที่สุดก็ปะทุขึ้นมีนาคม 2018 กับการเกิดขึ้นของนกหวีดเป่าอดีตเคมบริดจ์ Analytica พนักงานริสโตเฟอร์ไวลี เขาเคยเป็นแหล่งที่ไม่ระบุชื่อสำหรับบทความในปี 2017 ในการสังเกตการณ์โดย Cadwalladr ที่พาดหัวว่า "Great British Brexit ปล้น" บทความนี้ไปไวรัส แต่ถูกปฏิเสธศรัทธาในบางไตรมาสกระตุ้นการตอบสนองที่ไม่เชื่อในเดอะนิวยอร์กไทม์อื่น ๆ ในกลุ่ม Cadwalladr ทำงานร่วมกับไวลีสำหรับปีที่จะชักชวนให้เขามาข้างหน้าขณะที่ whistleblower หลังจากนั้นเธอก็นำเข้ามาใน 4 ช่องทางข่าวสารในสหราชอาณาจักรและเดอะนิวยอร์กไทม์เนื่องจากภัยคุกคามการตามกฎหมายกับผู้ปกครองและนักสังเกตการณ์โดยเคมบริดจ์ Analytica

ทั้งสามองค์กรข่าวเผยแพร่พร้อมกันวันที่ 17 มีนาคม 2018 และก่อให้เกิดเสียงโวยวายของประชาชนอย่างมาก มากกว่า $ 100 พันล้านเคาะมูลค่าตลาดของ Facebook ในวันและนักการเมืองในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเรียกร้องคำตอบจาก Facebook Mark Zuckerberg ซีอีโอ เรื่องอื้อฉาวที่สุดก็จะนำไปให้เขาเห็นพ้องที่จะเป็นพยานในด้านหน้าของรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นเรื่องอื้อฉาวทางการเมืองที่สำคัญในช่วงต้น๒๐๑๘เมื่อมันถูกเปิดเผยว่า Cambridge Analytica มีการเก็บเกี่ยวข้อมูลส่วนบุคคลของผู้คนนับล้านโปรไฟล์ Facebook โดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขาและใช้สำหรับการเมือง วัตถุประสงค์ในการโฆษณา มันได้รับการอธิบายเป็นช่วงเวลาน้ำในความเข้าใจของประชาชนของข้อมูลส่วนบุคคลและตกตะกอนฤดูใบไม้ร่วงขนาดใหญ่ในราคาหุ้นของ Facebook และโทรสำหรับการควบคุมที่เข้มงวดของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเทคโนโลยี

การเก็บเกี่ยวข้อมูลส่วนบุคคลอย่างผิดกฎหมายโดย Cambridge Analytica รายงานครั้งแรกในเดือนธันวาคม๒๐๑๕โดยแฮร์รี่วีส์เป็นนักข่าวสำหรับผู้พิทักษ์ เขารายงานว่า Cambridge Analytica กำลังทำงานสำหรับสหรัฐอเมริกาวุฒิสมาชิกครูซโดยใช้ข้อมูลที่เก็บเกี่ยวจากบัญชี Facebook ของผู้คนนับล้านโดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขา. Facebook ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องอื่นนอกเหนือจากที่จะบอกว่ามันกำลังตรวจสอบ รายงานเพิ่มเติมตามในสิ่งพิมพ์สวิสดา Magazin โดย Hannes Grasseger และมิคาเอล Krogerus (ธันวาคม๒๐๑๖), (ต่อมาแปลและเผยแพร่โดย Vice), แคโรลแคดดี้ในผู้ปกครอง (เริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์๒๐๑๗) และ Mattathias Schwartz ใน สกัดกั้น (มีนาคม๒๐๑๗) Facebook ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์ในบทความใดๆ

เรื่องอื้อฉาวในที่สุดปะทุขึ้นในเดือนมีนาคม๒๐๑๘กับการเกิดขึ้นของนกหวีดเครื่องเป่าลม, อดีต-เคมบริดจ์ Analytica. เขาได้รับแหล่งที่ไม่ระบุชื่อสำหรับบทความใน๒๐๑๗ในตัวสังเกตการณ์โดย Cadwalladr, headlined "ที่ยิ่งใหญ่อังกฤษปล้นการโจรกรรม " บทความนี้เป็นไวรัสแต่เชื่อในบางไตรมาส, กระตุ้นการตอบสนองที่น่าสงสัยในนิวยอร์ก Times ในหมู่คนอื่นๆ. ทำงานร่วมกับ Wylie สำหรับปีเพื่อ coax เขาจะมาข้างหน้าเป็นผู้แจ้งเบาะแส. เธอมาในช่อง4ข่าวในสหราชอาณาจักรและนิวยอร์กไทม์เนื่องจากภัยคุกคามทางกฎหมายกับผู้ปกครองและผู้สังเกตการณ์โดยเคมบริดจ์ Analytica.

องค์กรข่าวสามที่ตีพิมพ์พร้อมกันในวันที่17มีนาคม๒๐๑๘และทำให้เกิดการ outcry สาธารณะขนาดใหญ่ มากกว่า $๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ถูกเคาะออกจากตลาดของ Facebook ในวันและนักการเมืองในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเรียกร้องคำตอบจากผู้บริหารของ Facebook เรื่องอื้อฉาวนำไปสู่เขาตกลงที่จะเป็นพยานในด้านหน้าของสภาสหรัฐอเมริกา.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Facebook cambridge วิเคราะห์ข้อมูลเรื่องอื้อฉาวเป็นหลักทางการเมืองเรื่องอื้อฉาวที่จุดเริ่มต้นของ 2018 เมื่อมีข่าวว่าเคมบริดจ์วิเคราะห์ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของ Facebook และใช้มันเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาทางการเมืองโดยไม่ได้รับ นี้จะอธิบายเป็นสันปันน้ำของความเข้าใจของประชาชนของข้อมูลส่วนบุคคลและแจ้งลดลงคมชัดในราคาหุ้นของ Facebook และเรียกร้องให้มีการควบคุมการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเทคโนโลยี
ผู้ปกครองแฮร์รี่เดวิสรายงานครั้งแรกในเดือน 2015 ของการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ผิดกฎหมายโดยเคมบริดจ์วิเคราะห์ เขารายงานว่าเคมบริดจ์วิเคราะห์ทำงานให้วุฒิสมาชิกเท็ดครูซที่ใช้ข้อมูลที่ได้รับจากล้านของบัญชี Facebook โดยไม่ได้รับความยินยอมของพวกเขา 91193Facebook ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้แต่กล่าวว่ามันถูกตรวจสอบ ต่อมารายงานเพิ่มเติมได้รับการตีพิมพ์ในสิ่งพิมพ์สวิส Das Magazin โดย Hannes Grasser และไมเคิลครูเกอร์ซึ่งต่อมาได้รับการแปลและเผยแพร่โดยวินซ์และตีพิมพ์โดยคาร์โรลล์อินเตอร์คาร์ดิแกนกลางเดือน Facebook ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่มันพูดในบทความใดๆ
เรื่องอื้อฉาวในที่สุดปะทุขึ้นในเดือนที่สามของ 2018 เป็นแหล่งข่าวอดีตพนักงานของบริษัทวิเคราะห์เคมบริดจ์คริสโตเฟอร์ไวลี่ย์ เขาเป็นแหล่งที่ไม่ระบุชื่อสำหรับบทความของผู้สังเกตการณ์ 2017 ปีชื่อเรื่องของการปล้นในอังกฤษ บทความที่ถูกแพร่กระจายอย่างบ้าคลั่งบนอินเทอร์เน็ตแต่บางคนไม่เชื่อว่ามันได้กระตุ้นการตอบสนองที่น่าสงสัยเช่นนิวยอร์กไทม์ส Caldera ทำงานกับไวลี่เป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อล่อให้เขาออกมา ตั้งแต่เคมบริดจ์วิเคราะห์ภัยคุกคามทางกฎหมายต่อผู้ปกครองและผู้สังเกตการณ์เธอได้เปิดตัวช่องทางที่สี่ในอังกฤษและนิวยอร์กไทม์ส
ทั้งสามหน่วยงานข่าวได้เปิดตัวพร้อมกันในวันที่ 17 เดือน 2018 และมีโวยสาธารณะขนาดใหญ่ Facebook มีมูลค่าลดลงกว่าร้อยพันล้านดอลลาร์ในวันและนักการเมืองสหรัฐและอังกฤษเรียกร้องให้ Facebook CEO มาร์คซัคเคอร์เบิร์กเพื่อให้คำตอบ เรื่องอื้อฉาวในที่สุดทำให้เขาตกลงที่จะเป็นพยานต่อหน้ารัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกา