4.2 Government Policies towards Pon

4.2 Government Policies towards Pondoks
The issue to determine at this point is whether Thailand has violated
Article 27 of the ICCPR as a result of its policies towards pondoks in the
southernmost provinces. Pondoks are private Islamic schools where
instruction is conducted in Malay and Arabic.70 Pondoks focus more on
teaching Islamic principles than does a secular curriculum. In 1961, the
Thai government used monetary incentives for pondoks to include in its
syllabus teaching of and in the Thai language and a more secular
curriculum, which has lead to most of them to do so today.71 Nevertheless,
the eruption of further violent separatist incidents by the Malays from 2001
led the Thai government to implement policies to supervise pondoks more
closely.72 By 2004, the Thai government had identified the pondoks as ‘a
hotbed of radicalism’ and had undertaken steps to eliminate a number of
them. 2006 statistics show that there remains 372 registered pondoks,
though it is believed that there could be around 1000 in total. The
government has attempted their number by closing down pondoks that are
too independent, and declaring a ban against the opening of any new
pondoks.
73 Furthermore, pondoks that do not raise the Thai flag are
accused of committing treason.
4.3 The Closure of Pondoks
The UN Declaration on the Rights of Persons Belonging to National or
Ethnic, Religious and Linguistic Minorities postulates that at a minimum,
linguistic minorities are free to establish their own schools whereby their
own language is the medium of instruction.74 Accordingly, the Malay
minority is entitled to establish pondoks whereby the Malay language
forms the medium of instruction.
Article 1(1) of the above UN Declaration requires for states to ‘protect the
existence and …linguistic identities of minorities…and shall encourage
conditions for the promotion of that identity.’ Thailand’s actions in the
closing down and banning of some pondoks do nothing to protect or
promote the existence of linguistic identities of the Malay minority.
Rather, they constitute a prohibition of private educational activities in a

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4.2 นโยบายรัฐบาลต่อ Pondoksปัญหาการกำหนดจุดนี้คือ ว่าไทยละเมิดบทความ 27 ของ ICCPR จากนโยบายต่อ pondoks ในการจังหวัดชายแดนภาคใต้ Pondoks เป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่ดำเนินการสอนในมลายู และ Arabic.70 Pondoks เน้นเพิ่มเติมสอนหลักสูตรทางโลกอิสลามหลักกว่าไม่ ใน 1961 การรัฐบาลไทยใช้แรงจูงใจทางการเงินสำหรับ pondoks การรวมไว้ในการตารางสอน และ ในภาษาไทยและเกี่ยวกับฆราวาสมากขึ้นหลักสูตร ซึ่งได้นำไปให้ทำให้ today.71 แต่ส่วนใหญ่การระเบิดของเพิ่มเติมรุนแรงแบ่งแยกดินปัญหาโดยเชื้อสายมลายูจาก 2001นำรัฐบาลไทยใช้นโยบายการควบคุมเพิ่มเติม pondoksclosely.72 โดย 2004 รัฐบาลไทยได้ระบุ pondoks เป็น ' การเพาะพันธ์ของ radicalism' และได้ดำเนินการขั้นตอนการกำจัดจำนวนพวกเขา สถิติปี 2006 แสดงว่า ยังคงมี pondoks ทะเบียน 372แต่ เชื่อว่า อาจมีประมาณ 1000 รวม ที่รัฐบาลได้พยายามหมายเลขปิดลง pondoks ที่อิสระเกินไป และประกาศบ้านกับการเปิดของใหม่pondoks73 Furthermore, pondoks ที่ยกธงชาติไทยอยู่ถูกกล่าวหาว่ากบฏยอมรับ4.3 การปิด Pondoksปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิของบุคคลของชาติให้ หรือเชื้อชาติ ศาสนาและภาษาศาสตร์คมิ postulates ที่อย่างน้อยที่สุดคมิภาษาศาสตร์มีอิสระในการสร้างโรงเรียนของตนเองโดยการเป็นเจ้าของภาษาเป็นสื่อของ instruction.74 ตาม มาเลย์ชนกลุ่มน้อยมีสิทธิได้รับเพื่อสร้าง pondoks โดยภาษามาเลย์ใช้สื่อการสอนบทความ 1(1) ของการรายงาน UN ข้างต้องสำหรับอเมริกาเพื่อ ' ป้องกันการดำรงอยู่ และ... .linguistic รหัสประจำตัวของคมิ... และจะส่งเสริมให้เงื่อนไขสำหรับโปรโมชั่นของตนนั้น ' การดำเนินการของไทยในการปิดตัวลง และบาง pondoks ห้ามทำอะไรป้องกัน หรือส่งเสริมการดำรงอยู่ของภาษาศาสตร์รหัสประจำตัวของชนกลุ่มน้อยมาเลย์ค่อนข้าง พวกเขาเป็น prohibition ของกิจกรรมส่วนตัวในการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4.2
นโยบายของรัฐบาลที่มีต่อปอเนาะปัญหาในการตรวจสอบที่จุดนี้คือว่าประเทศไทยมีการละเมิดข้อ
27 ของ ICCPR
เป็นผลมาจากนโยบายที่มีต่อโรงเรียนปอเนาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปอเนาะเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่การเรียนการสอนจะดำเนินการในมาเลย์และ Arabic.70 ปอเนาะมุ่งเน้นที่การเรียนการสอนหลักการอิสลามกว่าหลักสูตรฆราวาส ในปี 1961 ที่รัฐบาลไทยใช้สิ่งจูงใจทางการเงินสำหรับโรงเรียนปอเนาะที่จะรวมอยู่ในของการเรียนการสอนหลักสูตรและเป็นภาษาไทยและฆราวาสหลักสูตรซึ่งได้นำไปสู่ที่สุดของพวกเขาจะทำเช่นนั้นtoday.71 แต่การระเบิดของดินแดนที่มีความรุนแรงต่อไปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยชาวมาเลย์จาก 2001 นำให้รัฐบาลไทยดำเนินการตามนโยบายการกำกับดูแลโรงเรียนปอเนาะที่มากขึ้นclosely.72 2004 โดยรัฐบาลไทยได้ระบุปอเนาะเป็น 'a แหล่งของความรุนแรงและได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการกำจัดจำนวนของพวกเขา 2006 สถิติแสดงให้เห็นว่ายังคงมี 372 โรงเรียนปอเนาะที่จดทะเบียนแต่ก็เป็นที่เชื่อว่าอาจจะมีประมาณ 1000 รวม รัฐบาลมีความพยายามที่จำนวนของพวกเขาโดยการปิดโรงเรียนปอเนาะที่มีอิสระมากเกินไปและประกาศห้ามกับการเปิดตัวของใหม่ใด ๆ ที่โรงเรียนปอเนาะ. 73 นอกจากนี้โรงเรียนปอเนาะที่ไม่ยกธงไทยที่มีการกล่าวหาว่ากระทำผิดฐานกบฏ. 4.3 ปิดปอเนาะปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิของคนเป็นของชาติหรือชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยทางศาสนาและภาษาสมมุติฐานว่าอย่างน้อยภาษาชนกลุ่มน้อยมีอิสระที่จะจัดตั้งโรงเรียนของตัวเองของพวกเขาโดยใช้ภาษาของตัวเองเป็นสื่อกลางในการinstruction.74 ตามที่มาเลย์ชนกลุ่มน้อยที่มีสิทธิได้รับเพื่อสร้างโรงเรียนปอเนาะโดยภาษามาเลย์รูปแบบสื่อการสอน. ข้อ 1 (1) ข้างต้นปฏิญญาสหประชาชาติต้องสำหรับรัฐที่ 'ปกป้องชาติและ... อัตลักษณ์ทางภาษาของชนกลุ่มน้อย ... และจะส่งเสริมให้เงื่อนไขสำหรับโปรโมชั่นของตัวตนว่า. การดำเนินการของไทยในการปิดและห้ามโรงเรียนปอเนาะที่บางคนทำอะไรที่จะปกป้องหรือส่งเสริมการดำรงอยู่ของตัวตนที่ภาษาของชนกลุ่มน้อยมลายู. แต่พวกเขาเป็นข้อห้ามของกิจกรรมการศึกษาเอกชนในการเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4.2 นโยบายของรัฐบาลต่อปัญหาการตรวจสอบโรงเรียนเหล่านี้
ที่จุดนี้ว่าไทยได้ละเมิด
บทความ 27 ของ ICCPR เป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลที่มีต่อโรงเรียนเหล่านี้ใน
จังหวัดชายแดนภาคใต้ โรงเรียนเหล่านี้เป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่สอนเป็นภาษาอังกฤษและภาษามลายู

arabic.70 ทำผิดคิดร้ายมุ่งเน้นการสอนหลักศาสนาอิสลามมากกว่าหลักสูตรทางโลก . ในปี 1961
รัฐบาลไทยใช้สิ่งจูงใจทางการเงินสำหรับโรงเรียนเหล่านี้รวมอยู่ในหลักสูตรการสอนของ
และในภาษาไทยและหลักสูตรทางโลก
เพิ่มเติม ซึ่งได้นำส่วนใหญ่ของพวกเขาจะทำเช่นนั้น today.71 อย่างไรก็ตาม
การระเบิดของเพิ่มเติมรุนแรงของเหตุการณ์ โดยมาเลเซียจากปี 2001
LED รัฐบาลไทยใช้นโยบายดูแลทำผิดคิดร้าย closely.72 มากขึ้น
โดยปี 2004รัฐบาลระบุว่าโรงเรียนเหล่านี้เป็น '
แหล่งเพาะของรุนแรงและมีปัญหาขั้นตอนการขจัดจำนวน
. สถิติปี 2549 แสดงให้เห็นว่ายังคงมี 372 ทำผิดคิดร้ายจดทะเบียน
แต่เชื่อกันว่าอาจจะมีประมาณ 1 , 000 รวม
รัฐบาลได้พยายามจำนวนโดยปิดโรงเรียนเหล่านี้ที่
อิสระด้วยประกาศและห้ามเปิดใหม่

ทำผิดคิดร้าย . 73 และโรงเรียนเหล่านี้ที่ไม่ได้ชักธงไทยกล่าวหาว่าเป็นกบฏ
.
4.3 การทำผิดคิดร้าย
ว่าด้วยสิทธิของบุคคลที่เป็นชาติหรือ
เชื้อชาติ ศาสนาและภาษาชนกลุ่มน้อยสมมุติฐานว่าอย่างน้อย
ชนกลุ่มน้อยภาษาฟรีเพื่อสร้างโรงเรียนของตนเอง ซึ่งตน
เป็นเจ้าของภาษาเป็นสื่อ instruction.74 ตาม , มาเลย์
ชนกลุ่มน้อยมีสิทธิที่จะจัดตั้งโรงเรียนเหล่านี้ซึ่งภาษามลายู
รูปแบบสื่อการสอน .
มาตรา 1 ( 1 ) ของปฏิญญาสหประชาชาติดังกล่าวต้องการให้รัฐ ' ปกป้อง
การดำรงอยู่และ . . . . . . อัตลักษณ์ทางภาษาของชนกลุ่มน้อย . . . . . . . และจะส่งเสริม
เงื่อนไขสำหรับโปรโมชั่น ของตัวตน การกระทําของในไทย
ปิดลงและห้ามบางโรงเรียนเหล่านี้ทำอะไรเพื่อปกป้องหรือส่งเสริมการดำรงอยู่ของอัตลักษณ์ทางภาษา

ของมาเลย์ ส่วนน้อย แต่พวกเขาเป็นข้อห้ามของกิจกรรมการศึกษาเอกชนใน