A heat surge from global warming wo

A heat surge from global warming would overwhelm the natural ability of coral in Australia's Great Barrier Reef to survive seasonal temperature changes, in much the way sun bathers would burn if they did not build their tan slowly.

A study released on Thursday examined 27 years of temperature data along the world's biggest reef. It found that corals were able to cope with gains in water temperatures when the heat built up step-by-step, rather than abruptly.

In three-quarters of 372 cases studied along the reef, water temperatures gained and then dipped for about 10 days before rising to a peak high enough to kill corals, the study found. That 10-day respite apparently let the corals build up resistance and survive warm shocks.

But corals suffered far more damage in the quarter of cases when temperatures rose sharply, to above local temperature thresholds for damage along the 1,600 mile (2,575 km) reef, researchers wrote in the journal Science.

The safer pattern was like a human sun-worshipper lying in the sun for short periods to build a tan and avoid sunburn, said co-author Scott Heron, of the U.S. National Oceanic and Atmospheric Administration.

Global warming would eliminate the natural resistance to heat shocks, the study said, because direct rises to harmful temperatures would become more frequent, they wrote.

"Near-future increases in local temperature of as little as 0.5 degree Celsius (0.9 Fahrenheit) result in this protective mechanism being lost, which may increase the rate of degradation of the Great Barrier Reef," they wrote.

Corals, tiny animals with stony skeletons, suffer bleaching when temperatures rise because the colorful algae that live with them and provide food die off. Reefs can sometimes recover from short-term bleachings but die if they persist.

Worldwide, last year was the warmest since records began in the 19th century, boosted by man-made activities and an El Nino event in the Pacific.

A U.N. report in 2014 said there were already early warning signs that warm water corals and the Arctic, where ice is melting, were already experiencing irreversible changes.

Lead author Tracy Ainsworth, of the Australian Research Council Centre of Excellence for Coral Reef Studies at James Cook University, said it was unclear if the same heat resistance applied to other reefs from Indonesia to Belize.

The study suggested more efforts to reduce other threats to the reef, such as industrial pollution.

(Editing by Jeremy Gaunt)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คลื่นความร้อนจากโลกร้อนจะครอบงำความสามารถตามธรรมชาติของคอรัลรีฟของออสเตรเลียในการเปลี่ยนอุณหภูมิตามฤดูกาล วิธีการใช้งานดวงอาทิตย์จะเขียนถ้าพวกเขาไม่ได้สร้างเน็ตช้ามากการศึกษาที่นำออกใช้บนพฤหัสบดีตรวจสอบ 27 ปีข้อมูลอุณหภูมิตามแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะพบว่า ปะการังที่สามารถรับมือกับกำไรในน้ำอุณหภูมิเมื่อความร้อนที่สร้างขึ้นทีละขั้นตอน แทนทันทีในมูลค่า 372 กรณีศึกษาตามแนวปะการัง อุณหภูมิน้ำที่ได้รับ และจุ่มลงแล้ว ประมาณ 10 วันก่อนที่จะขึ้นไปสูงสุดสูงพอที่จะฆ่าปะการัง การศึกษานี้พบ พักผ่อน 10 วันที่เห็นได้ชัดให้ปะการังสร้างความต้านทาน และเอาตัวรอดแรงกระแทกอบอุ่นแต่ปะการังประสบความเสียหายมากขึ้นในกรณีที่เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างมาก ไปเหนือขีดจำกัดอุณหภูมิในท้องถิ่นสำหรับความเสียหายตามแนวปะการัง 1,600 ไมล์ (2,575 กิโลเมตร) นักวิจัยเขียนในวารสาร Scienceรูปแบบปลอดภัยมากขึ้นได้เช่นเป็นมนุษย์ดวงอาทิตย์บูชานอนในระยะเวลาอันสั้นในการสร้างแทน และหลีกเลี่ยงการถูกแดดเผา กล่าวว่า ผู้เขียนร่วมนก Scott สหรัฐอเมริกาชาติมหาสมุทรและบรรยากาศดูแลภาวะโลกร้อนจะกำจัดความต้านทานตามธรรมชาติความร้อนแรงกระแทก การศึกษากล่าวว่า เพราะแมนรัตติกาลผงาดตรงอุณหภูมิที่เป็นอันตรายจะเป็นบ่อย ตน"ใกล้อนาคตเพิ่มอุณหภูมิภายในเป็นเพียงผล 0.5 องศาเซลเซียส (0.9 องศาฟาเรนไฮต์) ในกลไกนี้ป้องกันการสูญหาย อาจเพิ่มอัตราการสลายของเกรท พวกเขาเขียนปะการัง สัตว์ขนาดเล็ก ด้วยหินโครงกระดูก รับฟอกขาวเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นเนื่องจากสาหร่ายมีสีสันที่สดกับพวกเขา และให้อาหารตายออก แนวปะการังสามารถกู้คืนจาก bleachings ระยะสั้นบางครั้ง แต่ตายถ้ายังคงอยู่ทั่วโลก ปีสุดท้ายถูกอบอุ่นตั้งแต่ระเบียนที่เริ่มต้นในศตวรรษที่ 19, boosted โดยกิจกรรมมนุษย์และเหตุการณ์เอลนิโนในแปซิฟิกรายงานสหประชาชาติในปี 2557 กล่าวว่า มีสัญญาณเตือนที่อบอุ่นน้ำปะการังและอาร์กติก ที่ละลายน้ำแข็ง ได้ประสบกับการเปลี่ยนแปลงไม่ ได้ผู้เขียนรอ Ainsworth เทรซี่ ของที่ออสเตรเลียวิจัยสภาศูนย์ความเป็นเลิศสำหรับการศึกษาปะการังที่ James Cook University กล่าวว่า มันเป็นที่ชัดเจนว่ามีความร้อนความต้านทานที่ใช้กับแนวปะการังอื่น ๆ จากอินโดนีเซียไปยังประเทศการศึกษาแนะนำพยายามลดการคุกคามอื่น ๆ เพื่อการ เช่นมลพิษอุตสาหกรรม(แก้ไข โดย Jeremy อนต์)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คลื่นความร้อนจากภาวะโลกร้อนที่จะเอาชนะความสามารถตามธรรมชาติของปะการังในออสเตรเลีย Great Barrier Reef เพื่อความอยู่รอดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิตามฤดูกาลในมากอาบแดดวิธีที่ดวงอาทิตย์จะเผาถ้าพวกเขาไม่ได้สร้างผิวสีแทนของพวกเขาช้า. การศึกษาได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดีที่ตรวจสอบ 27 ปีของ ข้อมูลอุณหภูมิตามแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดของโลก พบว่าปะการังก็สามารถที่จะรับมือกับกำไรในอุณหภูมิของน้ำเมื่อความร้อนสร้างขั้นตอนโดยขั้นตอนมากกว่าทันที. ในสามในสี่ของ 372 กรณีศึกษาตามแนวปะการังอุณหภูมิของน้ำที่ได้รับแล้วจุ่มลงประมาณ 10 วัน ก่อนที่จะขึ้นสู่จุดสูงสุดที่สูงพอที่จะฆ่าปะการังการศึกษาพบว่า ที่ประวิงเวลา 10 วันเห็นได้ชัดให้ปะการังสร้างความต้านทานและความอยู่รอดกระแทกอบอุ่น. แต่ปะการังได้รับความเสียหายมากขึ้นในไตรมาสของกรณีที่เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึงข้างต้นเกณฑ์อุณหภูมิท้องถิ่นเพื่อให้เกิดความเสียหายตามแนว 1,600 ไมล์ Reef (2,575 กิโลเมตร) นักวิจัยเขียนไว้ในวารสารวิทยาศาสตร์. รูปแบบที่ปลอดภัยเป็นเหมือนมนุษย์ดวงอาทิตย์บ่าวนอนอยู่ในดวงอาทิตย์ระยะเวลาสั้น ๆ ในการสร้างผิวสีแทนและหลีกเลี่ยงการถูกแดดเผากล่าวว่าผู้เขียนร่วมสกอตต์นกกระสาแห่งชาติสหรัฐบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศ. ภาวะโลกร้อน จะขจัดความต้านทานตามธรรมชาติเพื่อให้ความร้อนแรงกระแทกจากการศึกษากล่าวว่าเนื่องจากการเพิ่มขึ้นโดยตรงกับอุณหภูมิที่เป็นอันตรายก็จะกลายเป็นบ่อยมากขึ้นพวกเขาเขียน. "จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ในอุณหภูมิท้องถิ่นเป็นเพียง 0.5 องศาเซลเซียส (0.9 องศาฟาเรนไฮต์) ผลในการป้องกันนี้ กลไกการสูญเสียซึ่งอาจเพิ่มอัตราการย่อยสลายของ Great Barrier Reef ว่า "พวกเขาเขียน. ปะการังสัตว์เล็ก ๆ ที่มีโครงกระดูกหินประสบฟอกเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นเนื่องจากสาหร่ายที่มีสีสันที่อาศัยอยู่กับพวกเขาและให้อาหารที่ตายออก แนวปะการังบางครั้งสามารถกู้คืนจาก bleachings ระยะสั้น แต่ตายถ้าพวกเขายังคงมีอยู่. ทั่วโลกปีที่ผ่านมาเป็นที่อบอุ่นที่สุดตั้งแต่เริ่มบันทึกในศตวรรษที่ 19 โดยได้แรงหนุนจากกิจกรรมมนุษย์สร้างขึ้นและเหตุการณ์เอลนีโญในมหาสมุทรแปซิฟิก. รายงานของสหประชาชาติในปี 2014 กล่าวว่ามีสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าแล้วว่าปะการังน้ำอุ่นและอาร์กติกที่น้ำแข็งละลายได้แล้วประสบการเปลี่ยนแปลงกลับไม่ได้. ผู้เขียนนำเทรซี่ Ainsworth ของสภาวิจัยแห่งออสเตรเลียศูนย์ความเป็นเลิศสำหรับ Coral Reef ศึกษาที่มหาวิทยาลัยเจมส์คุกกล่าวว่า ก็ชัดเจนถ้าความต้านทานความร้อนเดียวกันนำไปใช้กับแนวอื่น ๆ จากประเทศอินโดนีเซียเบลีซ. การศึกษาชี้ให้เห็นความพยายามมากขึ้นเพื่อลดภัยคุกคามอื่น ๆ แนวปะการังเช่นมลพิษทางอุตสาหกรรม. (แก้ไขโดยเจเรกอน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คลื่นความร้อนจากภาวะโลกร้อนจะทำให้ความสามารถในธรรมชาติของปะการังในเกรทแบริเออร์รีฟ ของออสเตรเลียเพื่อเอาตัวรอด การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิตามฤดูกาลในทาง Sun ผู้อาบจะไหม้ถ้าพวกเขาไม่ได้สร้างตันของพวกเขาอย่างช้าๆการศึกษาที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 ปีของข้อมูลตรวจสอบอุณหภูมิตามแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดของโลก พบว่าปะการังสามารถรับมือกับกำไรในน้ำอุณหภูมิเมื่อความร้อนขึ้นทีละขั้น แทนทันทีในสามในสี่ของ 372 กรณีศึกษาตามแนว , อุณหภูมิของน้ำได้รับแล้วจุ่มลงประมาณ 10 วัน ก่อนขึ้นถึงยอดเขาสูงพอที่จะฆ่าปะการัง พบ . ที่ 10 วัน การพักผ่อนที่เห็นได้ชัดให้ปะการังสร้างขึ้นความต้านทานและเอาตัวรอดทำให้อบอุ่นแต่ปะการังได้รับความเสียหายมากขึ้นในไตรมาสของกรณีเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในข้างต้น ซึ่งอุณหภูมิท้องถิ่นสำหรับความเสียหายตาม 1600 ไมล์ ( 2575 km ) แนว นักวิจัย เขียนไว้ในวารสารวิทยาศาสตร์ความปลอดภัย รูปแบบเหมือนมนุษย์นมัสการอาทิตย์นอนอยู่ในดวงอาทิตย์สำหรับรอบระยะเวลาสั้น เพื่อสร้าง แทน และหลีกเลี่ยงการถูกแดด บอกว่าเขียนสก็อตนกกระสา , ของสหรัฐอเมริกา National มหาสมุทรและบรรยากาศการบริหารภาวะโลกร้อนจะขจัดความต้านทานธรรมชาติที่จะทำให้ความร้อน , การศึกษากล่าวว่า เพราะทางตรงเพิ่มขึ้นอุณหภูมิที่เป็นอันตรายจะกลายเป็นบ่อยมากขึ้น เขาเขียน" ใกล้เพิ่มขึ้นในอนาคตในอุณหภูมิท้องถิ่นเป็นเพียง 0.5 องศาเซลเซียส ( 0.9 ฟาเรนไฮต์ ) ส่งผลให้กลไกการป้องกันนี้หายไป ซึ่งอาจเพิ่มอัตราการย่อยสลายของ Great Barrier Reef , " เขาเขียนปะการัง สัตว์เล็ก ๆ กับโครงกระดูกหิน ประสบการ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เพราะสีสันสาหร่ายที่อาศัยอยู่กับพวกเขา และให้อาหารตาย แนวปะการังสามารถบางครั้งการกู้คืนจาก bleachings ระยะสั้น แต่จะตายถ้าพวกเขาคงอยู่ทั่วโลก ปีที่แล้วมันอบอุ่นที่สุดตั้งแต่เริ่มบันทึกในศตวรรษที่ 19 , เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นและ El Nino เหตุการณ์ในมหาสมุทรแปซิฟิกรายงานของสหประชาชาติในปี 2014 กล่าวว่ามีอยู่ต้นสัญญาณเตือนว่าน้ำอุ่นปะการังและอาร์กติกที่น้ำแข็งละลาย ก็พบการเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้ผู้เขียนหลักเทรซี่ เอนสเวิร์ธ จากสภาวิจัยออสเตรเลียศูนย์ความเป็นเลิศการศึกษาแนวปะการังที่มหาวิทยาลัยเจมส์ คุก กล่าวว่า มันก็ชัดเจน ถ้าความต้านทานความร้อนเดียวกันใช้กับอื่น ๆแนวปะการัง จากอินโดนีเซียในประเทศเบลีซพบความพยายามมากขึ้นเพื่อลดภัยคุกคามอื่น ๆ ในแนวปะการัง เช่น มลพิษอุตสาหกรรม( แก้ไขโดยเจเรมี Gaunt )