This change has been first explored

This change has been first explored
by Singaram and collaborators and recently published in a
brief communication [15]. In their study, they used a dicationic
benzyl viologen quencher functionalized with boroin acids groups
(o-BV2+, Fig. 1) to quench, by photoinduced electron transfer, the
emission of an anionic pyrene derivative following an electrostatic
interaction between the two species. In presence of sugar, a neutral
zwiterionic quencher is formed (C, Scheme 1), which drawback the
formation of complexation between the quencher and the fluorescent
probe, and then remove the quenching effect. Using this
mechanism, large intensity change can be obtained. Singaram
et al. reported intensity increases up to 5-fold using an anionic pyrene
derivative, while we reported intensity increases up to 70-fold
using an anionic conjugated polymer [17].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำรวจการเปลี่ยนแปลงนี้ก่อนโดย Singaram และผู้ร่วมงาน และเผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ในการสั้น ๆ สื่อสาร [15] ในการเรียน พวกเขาใช้เป็น dicationicquencher viologen benzyl functionalized กับกลุ่มกรด boroin(o-BV2 + Fig. 1) เพื่อแก้ โดยการถ่ายโอนอิเล็กตรอน photoinduced การมลพิษของอนุพันธ์ไพรีนย้อมการต่อการงานโต้ตอบระหว่างสองสายพันธุ์ ในของน้ำตาล เป็นกลางzwiterionic quencher จะเกิดขึ้น (C, 1 โครงร่าง), คืนเงินที่นี้ก่อตัวของ complexation ระหว่าง quencher จะและฟลูออเรสเซนต์ที่โพรบ และเอาผล quenching ใช้นี้กลไก การเปลี่ยนแปลงความเข้มขนาดใหญ่ได้ Singaramal. ร้อยเอ็ดรายงานความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นถึง 5-fold ใช้ไพรีนการย้อมอนุพันธ์ ในขณะที่เรารายงานความเข้มเพิ่มขึ้นถึง 70-foldใช้การย้อมกลวงพอลิเมอร์ [17]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับการสำรวจครั้งแรกโดย Singaram และทำงานร่วมกันและการตีพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ในการสื่อสารสั้นๆ [15] ในการศึกษาที่พวกเขาใช้พวกเขา dicationic viologen benzyl ฟังก์ชันดับกับกลุ่มกรด boroin (o-BV2 + รูป. 1) เพื่อดับโดยการถ่ายโอนอิเล็กตรอน photoinduced ที่ปล่อยประจุลบอนุพันธ์ไพรีไฟฟ้าสถิตดังต่อไปนี้การทำงานร่วมกันระหว่างสองเผ่าพันธุ์ ในการปรากฏตัวของน้ำตาลเป็นกลางดับ zwiterionic จะเกิดขึ้น (C, โครงการ 1) ซึ่งข้อเสียเปรียบการก่อตัวของสารประกอบเชิงซ้อนระหว่างดับและเรืองแสงสอบสวนและเอาผลดับ นี้โดยใช้กลไกการเปลี่ยนแปลงความเข้มขนาดใหญ่ที่สามารถรับได้ Singaram et al, รายงานความรุนแรงเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าโดยใช้ประจุลบไพรีอนุพันธ์ในขณะที่เรารายงานความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นถึง70 เท่าโดยใช้พอลิเมอผันประจุลบ[17]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับแรกสำรวจ
โดย singaram และผู้ร่วมงานและเมื่อเร็วๆนี้เผยแพร่ใน
สั้นการสื่อสาร [ 15 ] ในการศึกษาของพวกเขา พวกเขาใช้ dicationic
เบนซิลไวโอโลเจนเรกับ boroin ที่มีกรดกลุ่ม
( o-bv2 , ฟิค 1 ) ดับ โดยการถ่ายโอนอิเล็กตรอน , การปล่อยประจุของอนุพันธ์ไพรีน

ต่อไปนี้เป็นแรงดึงดูดทางไฟฟ้าระหว่างสองชนิดในการแสดงตนของน้ำตาล เป็นกลาง
zwiterionic quencher เกิดขึ้น ( C , โครงการ 1 ) ซึ่งข้อเสีย
เกิดการระหว่างเรและโพรบเรืองแสง
แล้วเอาดับผล การใช้กลไกนี้
, เปลี่ยนความเข้มขนาดใหญ่สามารถรับ singaram
et al . รายงานความเข้มเพิ่มขึ้นถึงผู้อื่นโดยใช้อนุพันธ์ของไพรีน
ประจุลบขณะที่เรารายงานเพิ่มความเข้มขึ้นถึง 70 เท่า
ใช้ประจุลบและพอลิเมอร์ [ 17 ]